ยอดพ่อมดของวงการสนุกเกอร์โลก “จอห์น ฮิกกินส์”

สำหรับนักสนุกเกอร์ที่เป็นผู้เล่นมือระดับต้น ๆ ของโลก ที่เป็นไอดอลของแฟน ๆ นั้นจะมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งอาจจะเกิดจากความชื่นชอบส่วนตัวของผู้เล่นแต่ละคนที่จะเรียนรู้ หรือพยายามเลียนแบบขวัญใจของตัวเอง ในการที่จะฝึกซ้อมเพื่อให้เล่นได้สมบูรณ์เหมือนแบบเขา ยกตัวอย่าง รอนนี่ โอซุลลิแวน มี “เดอะ เฮอริเคน” อเล็ก ฮิกกินส์ เป็นแม่แบบขวัญใจในการเล่นสนุกเกอร์ ก่อนที่จะเป็นขวัญใจเบอร์หนึ่งในปัจจุบัน ส่งผลให้มีรูปแบบการเล่นแทงแรงเร็ว สู้ทุกเม็ดเช็ดทุกไม้ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ที่เจอกับใครหน้าไหนก็ใส่ไม่มียั้ง ซึ่งส่งผลให้เยาวชนทั่วโลกในยุคต่อมาอยากจะแทงให้ได้แบบเดียวกับเขา ซึ่งมี “ไอ้ปืนกล” จัดด์ ทรัมป์ รวมอยู่ในนั้นด้วย แต่ทว่าความสำเร็จในการเล่นสนุกเกอร์นั้นไม่ได้วัดกันที่ความแม่นเพียงอย่างเดียว มันต้องรวมเอาเทคนิคการเล่นและการวางตำแหน่งขาว ลูกป้องกันต่าง ๆ ในการเล่น ซึ่งจะทำให้บรรลุสู่จุดสูงสุดในการคว้าแชมป์รายการต่าง ๆ

แฟน ๆ ทั่วโลกและโค้ชทั่วโลกต่างยกย่องนักสนุกเกอร์มือดีคนหนึ่งจากสกอตแลนด์ ว่าเทคนิคการวางขาว และเล่นลูกระดับครึ่งโต๊ะจากหลุมกลางลงไป และลูกเบิ้ลชิ่ง ได้ชัวร์ที่สุดคนหนึ่ง ระดับหาตัวจับได้ยากสุด ๆ คือ “จอห์น ฮิกกินส์” ซึ่งถ้าเปรียบเทียบด้วยอันดับแล้วอาจจะสงสัยว่า มาร์ค เซลบี้ มือหนึ่งของโลกในปัจจุบันไม่ใช่หรือ ที่เล่นได้ชัวร์เหมือนกัน ลูกตั้ง ๆ ครึ่งโต๊ะหลุดยากมาก โดยรวมแล้วมาร์คยังเป็นรองฮิกกินส์อยู่ช่วงตัว ในแง่ของความเก๋าและครบเครื่องในการเล่น ฮิกกินส์ถูกขนานนามว่าเป็นผู้เล่นที่มีเทคนิคการวางแผนการเล่นแบบช็อตต่อช็อตที่ดีที่สุดในโลกต่อจาก “เทพบุตรคิวทอง” สตีฟ เดวิส จากสื่อมวลชนของอังกฤษ และถ้าเอาไปเทียบกับ บิ๊กทรี ของวงการสนุกเกอร์ที่เป็นแชมป์โลกที่ทะลุปล้องขึ้นมาในรุ่นราวคราวเดียวกันคือ รอนนี่ โอซุลลิแวน, มาร์ค เจ วิลเลียมส์ และ จอห์น ฮิกกินส์ ตัวของเขาเองนั้นต่างก็มีสไตล์การเล่นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยสองคนแรกช่วงวัยรุ่นจัดได้ว่าเป็นมือไฟฟ้าระดับพระกาฬที่หาตัวจับได้ยากยิ่งโดยเฉพาะ “จรวดทางเรียบ” มาร์ค เจ วิลเลียมส์นั้นถ้าคู่ต่อสู้ไม่นิ่งพอที่จะออกอาวุธมาปะทะเมื่อเขาพลาดให้แล้วละก็ เตรียมตัวม้วนเสื่อกลับบ้านได้เลยในระยะเวลาอันสั้น เพราะแทงเร็ว คิดเร็ว ไม่มีเวิ่นเว้อและแม่นแทบจะทุกจุดของโต๊ะ จนขึ้นชื่อว่าเป็นคนถนัดซ้ายที่แม่นที่สุดในโลก ส่วนอีกหนึ่งหน่อคือ “เดอะ ร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซุลลิแวน นัมเบอร์วันโอนลี่ของแฟน ๆ ทั่วโลกนั้น จัดว่าเป็นเบอร์หนึ่งในเรื่องของการคอนโทรลขาว และลูกป้องกันที่มีอยู่ในตัวระดับท็อปพร้อม ๆ กัน แทงเร็ว แทงแบบดูแล้วเพลินไม่มีเบื่อ รวมทั้งความเอ็นเตอร์เทนผู้ชมที่สะกดให้แฟน ๆ อยู่หน้าจอทีวี ที่รับชมอยู่นั้นตรึงอยู่กับที่ไม่อยากลุกหนีไปไหน และประทับใจทุกครั้งที่ได้ติดตามลีลาการแทงของเขา ส่วนพ่อมดวิสกี้นั้นอย่างที่ทราบกันดีคือลูกยาวและลูกแม่นอาจจะไม่เท่าสองคนแรก และ Shot Selection และการวางแผนการเล่นในแต่ละเฟรม อีกทั้งความชัวร์สุด ๆ ในการเข้าเบรกลูกครึ่งโต๊ะนั้นเค้าไม่เป็นสองรองใครในปฐพีนี้ ได้โอกาสแล้วหลุดยากมาก ยังไม่รวมลูกเบิ้ลที่นักแทงจากยุโรปไม่นิยมเล่นกัน แต่ฮิกกินส์กลับเล่นลูกสไตล์แบบนี้เนียนแบบไม่ต้องลงแป้ง

เด็กหนุ่มจากเมืองวิสชอว์ สกอตแลนด์ ลิ้มรสความพ่ายแพ้ครั้งแรกในการแข่งขันระดับเยาวชนรายการใหญ่ British U-16 ให้กับมือดีจากเวลส์ ที่ต่อมาก็เป็นคู่แข่งที่ไล่บดกันอย่างถึงพริกถึงขิงอย่างมาร์ค เจ วิลเลียมส์ ก่อนที่จะมาเอาคืนในรายการ 1991 World Master ซึ่งเป็นปีก่อนที่เขาจะเทิร์นโปรเพื่อก้าวเข้าสู่วงการสนุกเกอร์อาชีพในฤดูกาล 1992/93 แม้ว่าฮิกกินส์จะประสบความสำเร็จในการก้าวจากมือสมัครเล่นมาสู่มืออาชีพได้เรียบร้อยก็ตาม ทว่าผลงานที่ดีที่สุดในปีแรกของการโลดแล่นในระดับอาชีพนั้น เค้าทำได้เพียงเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายของรายการ Rothman Grandprix

เมื่อเริ่มต้นซีซั่น 1994/95 ฮิกกินส์ยังเป็นมือวางอันดับที่ 51 ของโลก แต่ปีนั้นเป็นปีที่เขาได้ประกาศให้วงการสนุกเกอร์โลกเห็นว่า ฝีมือในการบรรเลงเพลงคิวนั้นไม่ธรรมดา โดยคว้าแชมป์รายการ Grand Prix ซึ่งเป็นแชมป์รายการระดับอาชีพโทรฟี่แรกที่เค้าสามารถทำได้ เมื่อจัดการน็อค “The Hard Man” เด ฮาร์โรลด์ ไปได้ 9-6 เฟรม ก่อนที่ชัยชนะในเกมนี้จะส่งผลให้พ่อมดวิสกี้ออกคิวอย่างไหลลื่นในรายการถัดมาอย่าง International Open และ British Open รวมถึงรายการ Regal Welsh นั้นแม้จะพ่ายให้กับรอนนี่ โอซุลลิแวน และ สตีฟ เดวิส ตามลำดับ ก่อนที่ผลลัพธ์ในฤดูกาลนั้นฮิกกินส์จะสามารถก้าวสู่มือวางอันดับ 11 ของโลกได้เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับแชมป์โลกที่เขาสามารถคว้ามาเชยชมได้ทั้งหมดถึงสี่ครั้งสี่ครา จนได้รับฉายาว่า พ่อมด จากสื่อมวลชนกีฬาสนุกเกอร์นั้น เกิดขึ้นในปี 1998, 2007, 2009 และ 2011 ซึ่งการคว้าแชมป์โลกครั้งแรกในชีวิตในปี 1998 นั้น ฮิกกินส์จัดการสยบเคน โดเฮอร์ตี้ จอมคิวหน้าบากจากไอร์แลนด์ไปได้อย่างเหนือชั้น 18-12 เฟรม โดยเมื่อจบทัวร์นาเมนต์นี้ เขาสามารถทำไปได้ถึง 14 เซ็นจูรี่เบรก เป็นสถิติใหม่ในเวลานั้น ก่อนที่จะมีโอกาสคว้าแชมป์โลกในระยะเวลาแค่สามปี เมื่อกรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศรายการชิงแชมป์โลกได้อีกครั้งในปี 2001 แต่ก็มาโดน “เดอะ ร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซุลลิแวนที่กำลังออกคิวได้อย่างร้อนฉ่าสอนเชิงในรอบชิงฯ ไปได้ 18-14 เฟรม โดยในปี 2007 ฮิกกินส์ก็คัมแบ็คกลับมาคว้าแชมป์โลกได้เป็นสมัยที่สองเมื่อจัดการสยบ มาร์ค เซลบี้ ที่กำลังแรงขึ้นมาในวงการสนุกเกอร์โลกไปได้ 18-13 เฟรม ถัดมาอีกสองปีก็บรรลุตำแหน่งสูงสุดของรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการสนุกเกอร์อาชีพอีกครั้งเมื่อเอาชนะ “พ่อมดน้อย” ฌอน เมอร์ฟี่ย์ ไป 18-9 เฟรม ก่อนท้ายสุดในปี 2011 ที่สร้างชื่อให้ฮิกกินส์เป็นดาวค้างฟ้าในวัย 36 ปีในขณะนั้น เมื่อจัดการกำราบ จัดด์ ทรัมป์ ขวัญใจคนใหม่ของชาวอังกฤษแบบเฉียดฉิว 18-15 เฟรม โดยในปีนี้ฮิกกินส์สามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่อีกรายการหนึ่งนั่นก็คือ รายการยูเค แชมเปียนชิพ เป็นดับเบิ้ลแชมป์ไปในปีนั้น โดยโชว์ฟอร์มเอาชนะ มาร์ค เจ วิลเลียมส์ แบบสะใจกองเชียร์ เมื่อใส่เกียร์ห้าเดินหน้าฆ่าลูกเดียว ภายหลังจากตกเป็นรอง 9-5 เฟรม ปาดหน้าเอาชนะจรวดทางเรียบไปหน้าตาเฉย 10-9 เฟรม สำหรับรายการยูเค แชมเปียนชิพนี้จัดว่าถูกโฉลกกับตัวเขามากอีกรายการหนึ่ง เพราะสามารถคว้าโทรฟี่รายการนี้ไปได้ถึงสามสมัย

สำหรับชีวิตนอกสังเวียนสักหลาดสีเขียวนั้นตัวเขาเองแต่งงานกับภรรยา เดนิส ในปี 2000 และมีทายาทด้วยกันสามคน โดยมีลูกชายสองคนคือ เพียรซ์และโอลิเวอร์ และลูกสาวหนึ่งคนคือคลาวเดียร์ ฮิกกินส์ เป็นชาวสกอตแลนด์โดยกำเนิด ดังนั้นเขาจึงเป็นแฟนคลับทีมฟุตบอลเซลติกตัวยงคนหนึ่ง และมักจะเดินทางไปเชียร์ทีมรักทีมนี้ติดขอบสนามอยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าเป็นทีมฟุตบอลอังกฤษ ฮิกกินส์จะเชียร์ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน “เอฟเวอร์ตัน” รวมถึงชอบเล่นไพ่โป๊กเกอร์เอามาก ๆ อีกด้วย

สำหรับฮิกกินส์นั้นอาจจะมีลีลาการแทงไม่ตื่นเต้นเร้าใจเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมรุ่นของเขา ที่แจ้งเกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กันอย่างรอนนี่ โอซุลลิแวน หรือมาร์ค เจ วิลเลียมส์ ที่แทงเป็นไฟเร้าใจทุกท่วงท่า แต่ถ้าวัดกันแบบไม้ต่อไม้ในลูกครึ่งโต๊ะแล้วต้องจัดระเบียบแดงต่อด้วยลูกสีละก็ ฮิกกินส์คือนัมเบอร์วัน ที่สามารถแทงได้อย่างไหลลื่นและมั่นใจได้ว่าถ้าติดเครื่องแล้วเข้าเบรกได้ชัวร์มาก ซึ่งรูปแบบการแทงของตัวเขานั้นพิสูจน์แล้วว่า สามารถเป็นแบบฝึกหัดที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการเล่นได้ไม่แพ้มือแทงแม่นแทงไว และเป็นแนวทางการเล่นอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะให้ผู้เล่นสนุกเกอร์หรือเยาวชนที่หลงใหลในการเล่นกีฬาประเภทนี้ พยายามเรียนรู้และฝึกฝนเพื่อพัฒนาฝีมือให้ได้ตามแบบที่ พ่อมด ของวงการสนุกเกอร์คนนี้เคยทำเอาไว้ต่อไป

รีสตาร์ท

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 427)