"ดาวจรัสแสง" บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล (ไฟว์ นครนายก)

23 เม.ย. 55
"บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล" และครอบครัว
"บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล" และครอบครัว

"ดาวจรัสแสง" บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล (ไฟว์ นครนายก)

 

จากเด็กเดินสายกลายมาเป็น “ดาวรุ่ง”พุ่งสู่ทีมชาติ เจ้าของแชมป์สนุกเกอร์ดิวิชั่น 2 รายการที่ 3 สดๆซิงๆเมื่อเดือน 12 เม.ย.นักสอยคิวอนาคตไกลรายนี้คือ บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล เจ้าของฉายา ไฟว์ นครนายก ผู้จุดประกายให้บรรดาเด็กใหม่มีความเพียรพยายามที่จะเอาอย่างเพื่อปูทาง “สู่ทีมชาติ” ส่วนความเพียรพยายามของเด็กวัย 17 ปีจากนครนายกจะถึงฝั่งหรือไม่ต้องติดตาม

ประวัติของ บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล น่าสนใจพอสมควรลืมตาดูโลก 5 ต.ค.2538 โดยผลิตผลของนายชูชีพ-นางสกุลดารา เกียรติกุล ที่จังหวัดนครนายกและเริ่มหัดเล่นกีฬาสนุกเกอร์ตั้งแต่อายุไม่ถึง 10 ขวบที่ศูนย์ฝึกของจังหวัดนครนายกโดยมี พ่อชูชีพ ที่ชื่นชอบสนุกเกอร์อยู่แล้วเป็นอาจารย์คนแรก เริ่มแรกก็เล่นแบบงูๆปลาๆเนื่องจากหัวยังไม่พ้นขอบโต๊ะ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปฝีมือเริ่มพัฒนาดีขึ้นจนหาเด็กรุ่นเดียวกันต่อกรไม่ได้จนข้ามชั้นไปดวลกับ ผู้ใหญ่

และจากการติดตามผลงานของ “เจมส์ วัฒนา”หรือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ทั้งหนังสือและชมการถ่ายทอดทางทีวีมาตลอด ทำให้ “ไอ้หนู”วัยแค่ 10 ขวบมีความทะเยอทะยานอยากจะเป็น ต๋อง ศิษย์ฉ่อย จึงมุมานะฝึกซ้อมอย่างเอาจริงเอาจังซ้อมทุกวันไม่มีเบื่อจนกระทั่งฝีมือจัดอยู่ในขั้นใช้ได้ปราบใครต่อใครจนหาคู่ต่อสู้ไม่ได้จึงต้อง เดินสาย ไปตามโต๊ะต่างๆและสุดท้ายมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเป้าหลักเพราะอยากจะเก่งอยากจะดังต้องกล้าแสดงฝีมือให้คนทั่วไปรับรู้

ดังนั้นจึงมาสมัครแข่งขันเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ปีแรกๆสู้ความเก๋าของเด็กศูนย์ฝึกไม่ได้พ่ายแบบยับเยิน จึงเบนเข็มกลับไปเดินสายอีกครั้งและเล่นประจำอยู่โต๊ะดีดีหรือ โต๊ะสาธิต ใกล้สี่แยกลำสาลี กลายเป็นมือรับนักเดินสายประเภท รุ่นเล็ก โดยมีเจ้าของโต๊ะ สาธิต คืบเดียวและ ป๊อก บ้านบึง ให้การสนับสนุนเป็นนายทุน คู่ต่อกรขาประจำก็คือ วสันต์ วงษ์ทอง นักสนุกเกอร์ดิวิชั่น 2 เจ้าของฉายา บอย ชลบุรี และนัดไหนที่มีชัยเอาชนะคู่ต่อสู้ก็จะได้รับส่วนแบ่งครั้งละ 4-5 หมื่นบาท จึงถือเป็นรายได้ที่สูงสำหรับเด็กวัย 16 ปี และหลังจากลงแข่งขันกีฬานักเรียนประจำปี 2553 จับคู่กับ ชินภัทร คำสัตย์(เปา จันท์)ได้เหรียญทองแดง ทำให้เกิดความมุมานะอยากจะเป็น นักกีฬาเต็มตัว จากนั้นเรื่องของการเดินสายจึงหยุดไปโดยปริยาย

จนกระทั่งปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ ไฟว์ นครนายก ประสบความสำเร็จจากการแข่งขันโยได้รองชนะเลิศสนุกเกอร์ แสงโสม 6 แดงที่โต๊ะยูเนี่ยน ในเดือนถัดมาได้แชมป์แสงโสม 6 แดงที่โต๊ะร่ามเกล้า พอเริ่มปี 2555 ได้ 3 เหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬานักเรียนที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งครั้งนี้มีนักสนุกเกอร์ทีมชาติร่วมแข่งขันหลายคนอาทิ อรรคนิธิ์ส่งเสริมสวัสดิ์ หรือ ซันนี่ สิงห์อีซ้าย เยาวชนทีมชาติและแชมป์ประเทศไทยปีก่อนและดาวรุ่งอีกหลายคน

สำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์ ดิวิชั่น 2 รายการที่ 2 เมื่อเดือนก.พ.ผ่านเข้ารอบ 4 คนและมาประสบความสำเร็จในการแข่งขัน รายการที่ 3 เมื่อวันที่ 12 เม.ย.โดยคว้าแชมป์ ดิวิชั่น 2 ด้วยการเฆี่ยนนักสนุกเกอร์รุ่นพี่ กู๊ด ไดม่อน ชนะไปอย่างขาดลอย 4-0 เฟรมคว้าเงินรางวัล 20,000 บาทพร้อมถ้วยชนะเลิศใบโตไปอวด พ่อแม่ที่นครนายก

ปัจจุบัน ไฟว์ นครนายก เป็นเด็กอยู่ในโครงการศูนย์ฝึกกีฬาสนุกเกอร์ของ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 กับเพื่อนๆประกอบด้วย ยุทธภพ ภาคพจน์,ธนวัฒน์ ถิรพงษ์ไพบูลย์,นพพล แสงคำ,รัฐโยธิน โยธารักษ์,เอกระวี อั้งคำ และใครต่อใครอีกหลายคนโดยมี ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ หรือ ต่าย พิจิตร และ ภวัต วงศ์เกียรติพร(เต๊ย 147)เป็นผู้ฝึกสอนและถ่ายทอดเชิงสนุกเกอร์ให้ทุกคนใครมีความขยันและทะเยอทะยานก็รีบกอบโกยเพราะเมื่อถึงปลายปี ศูนย์ปิดแต่ละคนก็ต้องกลับบ้านใครบ้านมัน สำหรับ ไฟว์ นครนายก ตั้งปฏิธานจะขอฝึกซ้อมต่อเนื่องที่โต๊ะทีบีซี.ถึงแม้ศูนย์จะปิดแต่หากขาดการฟิตซ้อมก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ การโหมซ้อมแบบจริงจังเพราะเห็นเพื่อนๆขยันแล้วได้ดียกตัวอย่าง นพพล แสงคำ(หมู ปากน้ำ)และ ธนวัฒน์ ถิรพงษ์ไพบูลย์(แมน นครปฐม)ทั้ง 2 คนมุมานนะซ้อมไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ชม.และเห็นผลทันตาเมื่อทั้งคู่กลายเป็น แชมป์เยาวชนโลก โดย หมู ได้เมื่อปี 2552 และ แมนได้ในปี 2554 และสิ่งสำคัญ แมน-หมู เข้าชิงชนะเลิศกันเองท่ามกลางแฟนสนุกเกอร์ชาวแคนาดาต่างทึ่งฝีมือของ เด็กไทย จึงขอเอาอย่างโดยทุ่มการฝึกซ้อมแบบเต็มตัวเพราะอนาคตไฝ่ฝันจะได้สวมเสื้อ ทีมชาติไทย และสุดท้ายคือได้เล่นอาชีพที่ประเทศอังกฤษ คติประจำใจและยึดถือ

อุปสรรคมีไว้แก้ไข เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งขน