ชีวิตบัดซบของ "จัมโบ้เอ"

4 ก.พ. 56
อดีตนักสนุกเกอร์ฝีมือดี จัมโบ้ เอ และแม่ดาวรุ่ง ฝ่ามถิ มาเยือนสโมสร ทีบีซี. 25 ม.ค. 56
อดีตนักสนุกเกอร์ฝีมือดี จัมโบ้ เอ และแม่ดาวรุ่ง ฝ่ามถิ มาเยือนสโมสร ทีบีซี. 25 ม.ค. 56

 

เมื่อ หลายปีก่อนเคยเขียนถึง นักสนุกเกอร์อาภัพ รายหนึ่งและจั่วหัวเรื่องไว้ว่า ชีวิตบัดซบ

บัดซบยังไงและสมควรจะเรียกหรือไม่ลองทบทวนเรื่องราวอันหดหู่แล้วจะรู้ บัดซบจริงๆ เรื่องของเรื่องก็คือ นายเจก เมทาธิกุล เจ้าของฉายาจัมโบ้เอ ซึ่งเป็นนักสนุกเกอร์ฝีมือดีระดับประเทศ เคยแข่งขันดิวิชั่น 1 ปะทะกับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย รอบ 16 คน "ไทยแลนด์แรงกิ้ง" เมื่อปี 2546 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน โดยหนนั้นจัดขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า สนุกเกอร์ สามารถต่อยอดสู่อาชีพได้อย่างสบาย ซึ่งมีการชิงเงินรางวัลไม่มากนักโดยช่วงนั้นยังไม่มี แสงโสม เข้ามาสนับสนุนด้านสปอนเซอร์

บรรดานักสนุกเกอร์เมื่อ 10 ปีก่อนต่างทราบดีว่า จัมโบ้เอ มีมือร้ายกาจขนาดไหนและเป็น "ดาวรุ่ง" พุ่งแรงปราบใครต่อใครจนได้แข่งขัน ดิวิชั่น 1 เป็นนักสนุกเกอร์ที่มีความแม่นยำสูง สู้ทุกลูกเรียกว่าเห็นหลุมไม่ได้ ไอ้จัมโบ้สู้แหลก และเมื่อกลางปี 2547 ชะตากรรมก็มาเยือน โดย ถูกคนร้ายตีด้วยของแข็งตั้งแต่หัว ลำตัว ตลอดถึงแขน-ขาทั้ง 2 ข้าง จนกลายเป็น คนพิการ

หากพิการธรรมดาก็พอรักษา แต่รายของ จัมโบ้เอ ถูกตีไม่ยั้งตั้งแต่หัวจรดหางผลปรากฏ ศรีษะได้รับความกระทบกระเทือนหนักจนทำให้ประสาทตาขาดสะบั้นไม่สามารถทำการรักษา ตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง นอกจากนี้แขนทั้ง 2 ข้างก็ถูกตีด้วยของแข็งอย่างหนักเช่นกันทำให้ แขนหัก และลามไปถึงขาทั้ง 2 ข้างก็หักไปด้วยทำให้ จัมโบ้เอ กลายเป็นคนพิการ ที่เรียกว่าพิการเกือบทุกส่วนของอวัยวะ ซึ่งถือเป็นชะตากรรมและเคราะห์ร้ายที่สุด

เพราะบางคนพิการสายตา แต่ยังสามารถเดินเหินหรือใช้มือได้ หรือไม่บางคนหูหนวก แต่สายตาสามารถมองเห็นก็จัดอยู่ในขั้นพอทำเดาหรือหากโชคร้ายกว่านั้น เดินเหินไม่ได้ หากตามองเห็นโลกอันสดใสก็จะทำให้ชีวิตยืนยาวและมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป

แต่รายของ จัมโบ้เอ ไม่รู้ว่าชาติก่อนไปทำบาปอีท่าไหน ชาตินี้จึงต้องมาใช้กรรมอย่างที่เห็น จะอยู่ก็ไม่เป็นสุข จะตายก็ไม่ได้ ชีวิตนี้มันช่างทรมาน

ผมนำเรื่องราวของ จัมโบ้เอ มาบอกกล่าวอีกทีก็เพราะเมื่อปลายเดือนมกราคม คุณดาวรุ่ง ฝ่ามถิ หญิงไทยเชื้อสายเวียดนามซึ่งเป็น "แม่บุญธรรม" ได้พา จัมโบ้เอ มาพบหน้าเพื่อนๆนักสนุกเกอร์ที่สโมสรทีบีซี.ย่านหัวหมาก ใครเห็นสภาพความเป็นอยู่ของเขาแล้วต้องแอบถอนใจและนึกเวทนาอยู่ในใจ

ไม่มีวี่แววของการเป็นยอดฝีมือเชิงสนุกเกอร์หลงเหลือ ร่างกายอ้วนยังกับ หมูตอน เพราะวันๆไม่ได้ทำอะไร พอรู้สึกตัวก็กิน พอหยุดกินนั่นหมายถึงการหลับเป็นเช่นนี้นานนับปี ร่างจึงฉุน้ำหนักปาเข้าไปกว่า 100 กก.

ชีวิตความเป็นอยู่ทุกวันนี้อยู่ได้ก็จาก เงินยังชีพคนพิการเดือนละไม่ถึงพันบาทและอีกส่วน ศักดา รัตนสุบรรณ พาไปพบนายกสมาคมกีฬาบิลเลียด สินธุ พูนศิริวงศ์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือค่าครองชีพแต่ละเดือนละ 3,500 บาท แรกๆ ที่พานักสนุกเกอร์พิการบุกถึงสำนักงานคุณสินธุ ปรากฏว่า หลายคนตกใจรวมถึง ตัวท่านนายกฯ คำแรกที่ได้ยินคือ

พาใครมา และมาทำไมวะ

ผมก็ตอบท่านไปตามตรงเจ้านี่คือนักสนุกเกอร์ดิวิชั่น 1 ประสบเคราะห์กรรม ถูกทำร้ายจนพิการตลอดทั้งตัวและที่ต้องพามาพบก็เพื่อให้ นายกฯเห็นสภาพของเขาว่าสมควรจะให้ความช่วยเหลือหรือไม่ โดยวันที่ไปพบนายกฯต้องใช้ 2 คนพยุงช่วย เมื่อนายกฯทราบรายละเอียดก็เห็นใจแถมกำชับให้รีบนำตัวไปหาแพทย์รักษาดวงตา โดยเลือกสถานที่ชั้นหนึ่งของประเทศคือ จักษุแพทย์รัตตนิน ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของโรงพยาบาลที่รักษาดวงตาโดยตรง ตั้งอยู่ในซอยอโศก โดยสมาคมฯ ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างแถมยัง นัดหมอ ให้เรียบร้อยอีกด้วย

ผมจึงรีบบึ่งพาเจ้า จัมโบ้เอ ไปพบแพทย์ทันทีแต่น่าเสียใจหลัง แพทย์ตรวจอาการแล้วออกมายืนยัน ไม่สามารถรักษาดวงตาให้กลับมาดูโลกได้เหมือนเดิม เนื่องจากเยื่อตาขาดสะบั้นไปนานเกินควร ซึ่งหมอพูดกับผมด้วยน้ำเสียงดังชัดเจน จัมโบ้เอ ได้ยินถึงกับนั่งนิ่งคอตก ใครได้เห็นสภาพเขาตอนนั้นต้องบอกว่าน้ำตาแทบเล็ดเหมือนกัน

และทุกครั้งที่ จัมโบ้เอ เวียนแวะมาพบเพื่อนๆจะได้รับการช่วยเหลือไม่มากก็น้อยโดย หัวเรือใหญ่คือ นพดล แสงนิล หรือ แซค โซโฟน คนหนุ่มใจกุศลใครทุกข์ยากช่วยจัดให้ทุกราย และล่าสุด แซค โซโฟน ก็ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายไปพอสมควรจึงถือโอกาสบอกบุญ คนในวงการ หากใครมีจิตศรัทธา อยากช่วยคนพิการขอให้ติดต่อ สโมสรทีบีซี. โทรศัพท์ 02-374-7307

เงินทุกบาทถึงมือคนพิการชัวร์