เด็กไทยอดทนแพ้เด็กจีน

4 ธ.ค. 57

 

หลาย ปีก่อนนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ สินธุ พูนศิริวงศ์ เคยตั้งข้อสงสัยว่า เด็กไทย ไปเล่นอาชีพก่อน เด็กจีน นานกว่า 10 ปี แต่ทำไมไปไม่ถึงไหน เพราะนอกจาก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่สร้างความฮือฮาด้วยการก้าวสู่มือ 3 ของโลกเมื่อ 30 ปี ก็เป็นเพียง 1 เดียวของไทยทั้งที่เราส่ง นักกีฬา พาเหรดเล่นอาชีพนับไม่ถ้วน ไล่กันตั้งแต่ หนู ดาวดึงส์-สุริยา สุวรรณสิงห์-นกแล มหาสิน (เสียชีวิต)-ต่าย พิจิตร-รมย์ สุรินทร์-ตัวเล็ก สำโรง-เบิ้ม เชียงใหม่-ขวัญ พุ่มแจ้ง-เริญ สระบุรี จนกระทั่งถึงรุ่นหลังๆ อย่าง แจ๊ค เชียงใหม่-กร นครปฐม-แซก โซโฟน จนถึงยุคปัจจุบันที่เหลือเล่นอาชีพเพียง 5 คนคือ ต๋อง-แจ๊ค สระบุรี-เอฟ นครนายก-แมน นครปฐม-หมู ปากน้ำ และ เช็ก นครนายก

นักสนุกเกอร์ไทยกว่า 10 คน นอกจากต๋อง ไม่มีใครประสบความสำเร็จ ถึงแม้สมาคมฯ จะทั้งผลักและดันยังไงก็ไปไม่ตลอด หากเทียบกับ เด็กจีน ต่างกันราว ฟ้ากับดิน โดยเฉพาะเด็กใหม่จีนมี ตัวตายตัวแทน เกิดขึ้นมากมาย หลังจากหมดยุค โก๊ะ หัว-จิ้น หลง ก็มี ดิง จุนฮุย-เหลียง เวงโบ-เทียน เป็งเฟย-ซาง อันดร้า-ยู เดลู-ลู หัวเทียน-เกา เป็งโก๊ะ-ลี หั่ง-โชว ยูหลง-ลู เชนไว-ลู หนิง และใครต่อใครอีกมากจนจารนัยไม่หมด เพราะขณะนี้ เด็กจีน เข้ามาอาละวาดในการแข่งขันอาชีพโลกเกือบ 30 คน ถึงขนาดแชมป์โลก 5 สมัย รอนนี่ โอซุลลิแวน ออกมาทำนายภายในปีสองปี จีน จะอยู่ในท็อป 16 ของโลกกว่าครึ่ง

หากถามว่าทำไม เด็กจีน ถึงก้าวไกลกว่า เด็กไทย

คงวิเคราะห์ได้ว่า ความมานะอดทนและขยันในการฝึกซ้อม เด็กไทยสู้จีนไม่ได้ สังเกตจากการซ้อมในอคาเดมี่ที่เดียวกัน จาก 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น หลังอคาเดมี่ปิด เด็กไทย กลับที่พักเปิดโทรศัพท์เล่นไลน์ หรือไม่ก็ดูทีวี. บางคนทำอาหารเตรียมรับประทาน ในขณะที่เด็กจีนแทนที่เลิกซ้อมจะกลับที่พัก กลับมุ่งหน้าไปหาสถานที่ฝึกซ้อมต่อ เพราะถือว่าการซ้อมวันละ 8-9 ชั่วโมงยังไม่พอ ดังนั้น 24 ชม. เด็กจีนจะทุ่มเทอยู่กับโต๊ะสนุกเกอร์กว่า 14 ชม.

และอีกประการที่ เด็กไทย ไม่มีวันสู้เด็กจีนก็คือ

พอมีฝีมือเข้าบ้าง ก็เกิดการลืมตัว

เห็นการฟิตซ้อมไม่สำคัญ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฝีมือไม่มีวันที่จะพัฒนาไปข้างหน้า มีแต่คงที่กับลดน้อยถอยลง หลายคนเคยถามว่าเรื่องแบบนี้จริงหรือไม่

ก็ต้องตอบให้หายสงสัยว่า มันคือเรื่องจริง

และน่าเสียดายที่ส่วนใหญ่เป็นดั่งที่ว่า เริ่มแรกเดิมที เข้าสู่เวทีสอยคิวแค่ฝีมืองูๆ ปลาๆ แต่เมื่อเข้ารับการฝึกจากโค้ช ได้รับการเอาใจใส่จากสถานที่ที่มีนักกีฬาอาชีพฝึกซ้อมประจำคอยให้คำแนะนำ และพร่ำสอนทุกวัน แต่พอฝีมือเริ่มแก่กล้าและสามารถแข่งขันเอาชนะบรรดาอาจารย์ที่เคยสอนก็ อหังการ ไม่เห็นหัวเห็นหูคนเป็นครู โดยส่วนใหญ่จะออกเดินสายและเล่นเดิมพันตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งถือเป็นรายได้ดี บางคนได้เงินจากการเดินสายครั้งละ 4-5 แสนบาท ซึ่งเป็นเรื่องจริงและย้ำให้เห็นจะๆ เมื่อครั้ง แจ๊ค สระบุรี เดินสาย กินนักสนุกเกอร์ฝีมืออ่อน แต่มีวิธีต่อที่คู่ต่อสู้พอใจ โดยครั้งนั้น แจ๊ค ทำเงินให้นายทุนกว่า 15 ล้านบาท ซึ่ง ตัวนักกีฬา ได้รางวัลเฉียด 3 ล้าน ถือว่ามากที่สุดตั้งแต่มีการ เดินสาย

และนี่คืออีกสาเหตุที่ทำให้ นักกีฬา ไม่ใส่ใจกับ เกมอาชีพมากสักเท่าใด เพราะ การเดินสาย ได้เงินง่ายและได้ครั้งละมากๆ ถึงขนาดเคยเรียก นักกีฬา มาเก็บตัวเพื่อเตรียมเอเชี่ยนเกมส์หรือซีเกมส์ ยังถูกปฏิเสธ เพราะได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 500 แต่ต้องซ้อมทั้งวัน หลายคนจึงเข้าใจว่า ไม่คุ้ม

แต่ถ้าพิจารณาให้ดี ได้เก็บตัว มีคนดูแลการฝึกซ้อม เคี่ยวกันจริงจัง ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะซ้อม ทำให้ทุกคนมีสมาธิ และพัฒนาฝีมือผิดหูผิดตา และใครที่ไม่มีโอกาสเก็บตัวหรือเข้าศูนย์ฝึก กล้าประกันได้เลยว่า ภายในไม่ช้าฝีมือจะตกอย่างน่าใจหาย หากไม่เชื่อก็ลองหันไปดูทีมชาติเก่าอย่าง หนู ดาวดึงส์-ตัวเล็ก สำโรง-เสือ ทองราชา-เบิ้ม เชียงใหม่-กร นครปฐม-บิ๊ก สระบุรี แต่ละคนอดีตทีมชาติฝีมือดี แต่พอหมดยุคก็ตกเห็นชัดเจน และถ้าวงการสอยคิวยังเป็นอยู่อย่างนี้

คงได้เห็นเด็กจีนโด่งดัง แล้วอย่าอิจฉาก็แล้วกัน

 

ศักดา รัตนสุบรรณ