แสงสาดส่อง ผู้ปิดทองหลังพระ "ครูชุม" ประชุม รัตนเพียร

10 เม.ย. 58

เชื่อ ว่าเด็กรุ่นหลังในปัจจุบันน้อยคนที่รู้จัก “ครูชุม” ประชุม รัตนเพียร แต่ถ้าเป็นคนในวัย ซิกตี้ ต่างรู้จักดีเพราะ ครูชุม เป็นอดีตรัฐมนตรี (หลายสมัย) และที่สำคัญเป็น คนกีฬาเต็มตัว

ครูชุม คลุกคลีกับแวดวงกีฬาเกือบทุกสมาคมฯ เคยดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เคยเป็นนายกสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ซึ่งในยุคปัจจุบันทั้ง ฟุตบอล และ มวย กลายเป็น สมาคมมหาสมบัติ ที่ใครๆ ก็อยากเข้ามา เพราะได้งบประมาณปีละร้อยๆ พันๆ ล้าน ซึ่งถือว่าเป็น สมาคมใหญ่ และเป็นที่สนใจของ แฟนกีฬา ยิ่งสมาคมฟุตบอลในช่วง 10 กว่าปีนี้ กลับมาโด่งดังจนกลายเป็น สมาคมฯ ที่มีรายได้สูงสุด และมีแฟนคลับมากสุด ใครจะเชื่อว่าแฟนฟุตบอลซื้อบัตรเข้าชม ทีมไทยเตะกันเอง แต่ละนัดเก็บค่าผ่านประตูเรือนแสน บางนัดเก็บได้ถึง 2 ล้าน แถมขายเสื้อ ขายของที่ระลึก อีกนับล้าน อาทิ ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของอดีตนักการเมืองดัง เนวิน ชิดชอบ หรือ “ทีมกิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ของเจ้าพ่อสื่อกีฬา ระวิ โหลทอง ซึ่งทั้ง 2 ทีมอยู่ในระดับแถวหน้าฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก และผลัดกันครองแชมป์ฝ่ายละหลายสมัย ซึ่งล่าสุดเป็นยุคของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เสียดายที่ “ครูชุม” อดีตนายกสมาคมฟุตบอล ท่านเสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน ในวันที่ 30 มี.ค. 2556 ท่านจึงไม่มีโอกาสได้เห็น ฟุตบอลไทย ได้ไปเตะบอลโลกโดย ทีมบอลหญิง ซึ่งอยู่ในการอุปถัมภ์ของ “คุณแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ทุ่มเททั้งกายและใจ พร้อมปัจจัยนับล้านๆ ทำให้ บอลหญิง ผ่านเข้าไปเตะในฟุตบอลโลก(หนแรก) ที่ประเทศแคนาดา ซึ่งจะมีขึ้นในปีหน้า ส่วนทีมฟุตบอลชาย ก็เริ่มดีวันดีคืนโดยได้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกามาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอน แต่อนาคตจะได้ไปบอลโลกคงต้องใช้เวลาอีกยาวไกล เพราะยังมีประเทศยักษ์ใหญ่ยืนขวางทั้ง จีน-เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น-อิหร่าน-อิรัค และอีกหลายชาติที่พัฒนาล้ำหน้าบอลไทยไปมาก

คิวทอง ฉบับประจำเดือนเมษายน ซึ่งถือเป็นประเพณี ปีใหม่ของไทย ได้หยิบยก “ปูชนียบุคคล” ที่ชื่อ ประชุม รัตนเพียร มาบอกกล่าวก็เพื่อให้ คนรุ่นหลังได้จดจำถึง คนกีฬายุคก่อนๆ ที่มุ่งมั่นทำกีฬาด้วยใจรักและห่วงใยกีฬาของชาติ ยอมเสียสละเวลา ยอมเสียงานส่วนตัว และที่สำคัญ ยอมควักทุนช่วยกีฬาโดยมิได้หวังผลตอบแทน คนชนิดนี้แหละที่เรียกกันว่า

“ผู้ปิดทองหลังพระ”

และเนื่องจากอดีตรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ถิรชัย วุฒิธรรม ในฐานะนักฟุตบอลรุ่นเก๋า และคลุกคลีมาหลายชนิดกีฬาเช่นเดียวกับ ครูชุม เคยเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล ผู้จัดการทีมโบว์ลิ่ง-สนุกเกอร์ ในเอเชี่ยนเกมส์เมื่อปี 2545 เกิดไอเดียในการเชิดชูเกียรติ คนกีฬารุ่นเก่า ที่มีผลงานโดดเด่น สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ แต่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงผู้อยู่เบื้องหลัง แม้แต่ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย-สมาคมนักข่าว-ช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทยรวมถึง สยามกีฬา ซึ่งเป็นผู้จัดงานใหญ่ สยามกีฬาอวอร์ดส์ ก็คงลืมบุคลากรสำคัญสมัย กึ่งศตวรรษ จึงริเริ่มจัดงานเชิดชูเกียรติเพื่อประกาศให้ คนกีฬา รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนักกีฬามีจำนวนไม่น้อย แต่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง ดังนั้นจึงเกิดงาน

วันแสงสาดส่อง ผู้ปิดทองหลังพระ

ซึ่งได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ณ สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต และเหตุที่ต้องใช้สถานที่แห่งนี้ก็เนื่องมาจาก ครูชุม คือผู้บุกเบิกสถาบันการศึกษาแห่งนี้ จนมีนิสิต-นักศึกษา มาจากทุกวงการและที่สำคัญ มหาวิทยาลัยแห่งนี้เปิดประตูต้อนรับ นักกีฬา ที่มีความสามารถ และอยากศึกษาไขว่คว้าปริญญา เพื่อติดตัวไปประกอบอาชีพหลังจากเลิกลาจากกีฬา ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต หรือที่รู้จักในนามของ อาร์แบค มีนักกีฬาทุกประเภททำการศึกษา มีทั้งยอดมวย บัวขาว บัญชาเมฆ-ซุปเปอร์แบงค์ ม.รัตนบัณฑิต และอีกหลายคนจนจำชื่อไม่ไหว นอกจากนี้ก็มี นักฟุตบอลทีมชาติ มีนักสนุกเกอร์ระดับโลกและเคยเป็นแชมป์โลกเข้าศึกษาหลายคนโดย อรรถสิทธิ์ มหิทธิ หรือ บิ๊ก สระบุรี แชมป์โลกปี 2550 จบปริญญาโทจากที่นี่ และ ต่าย พิจิตร แชมป์โลกปี 2536 ก็กำลังจะรับปริญญาตรีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าพร้อมนักสนุกเกอร์ทุนพระราชทาน นพดล แสงนิล (แซ็ก โซโฟน) ผู้สร้างตำนานให้วงการสอยคิวโด่งดัง เนื่องจากเป็นนักกีฬาคนเดียวที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมอบพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ สนับสนุนให้ไปเล่นอาชีพที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี 2546 ส่วน ทีมชาติ ที่จบไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คน อาทิ ชินกฤต เยาว์วรรณศิริ, สุพจน์ แสนหล้า, สันทินี ใจซื่อกุล, ปรมินทร์ ด่านจิรกุล, กอบกิจ พลาจิณ, นิธิวรรธก์ กาญจนศรี เป็นต้น

ผมนำเรื่องราวของนักกีฬาทุกประเภท ที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิตของ “ครูชุม” ประชุม รัตนเพียร ก็เพื่อบอกกล่าวให้รับทราบถึงเจตนา แม้ชีวิตท่านจะหาไม่ แต่นักกีฬารุ่นหลังๆ ก็ยังได้รับการสนับสนุน เพราะรุ่นลูกๆ โดยท่านอธิการบดี ดร.ประเวช รัตนเพียร ก็คนกีฬา เห็นความสำคัญของนักกีฬา จึงสนับสนุนต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ และนี่คือที่มาของงาน

แสงสาดส่อง ผู้ปิดทองหลังพระ

งานนี้ยังได้ยกย่อง ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนักกีฬาและเป็นผู้สร้างนักกีฬา ตัวจริง เสียงจริง โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน ต่างประชุมหลายครั้ง และกลั่นกรองรอบคอบ จนในที่สุดได้มอบรางวัลเกียรติยศให้แก่

คุณชนะชัย ศรีชาพันธุ์ ผู้ให้กำเนิด 3 ใบเถานักเทนนิสทีมชาติ ธนากร-นรากร และ “เจ้าบอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ โดยรายหลังสร้างชื่อให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของชาวโลก เพราะนอกจากจะดังระดับ ท็อปเท็นโลก เจ้าบอล ยังสร้างตำนานนักกีฬาไทยคนแรก และจะเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่พิชิตนางงามจักรวาลปี 2005 นาตาลี เกลโบวา จนแต่งงานอยู่กินกันแรมปี แต่เนื่องจากทั้งคู่ยังหนุ่ม-สาว และเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ดังนั้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำก็จำต้อง หย่าร้าง ใช้ชีวิตคู่แค่ 2 ปี สำหรับผู้ให้กำเนิดถูกยกย่องเป็น พ่อตัวอย่าง ที่ปั้นลูกๆ สู่นักกีฬาระดับโลก จึงสมควรได้รางวัล ผู้ปิดทองหลังพระ โดยรางวัลนี้จะมีขึ้นทุกปีเพื่อรำลึกในการจากไปของ คนอยู่เบื้องหลังนักกีฬาตัวจริง

“ครูชุม” ประชุม รัตนเพียร อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย

 

ศักดา รัตนสุบรรณ