แจ๊ค สระบุรี นับ 1 ใหม่

31 พ.ค. 60

โบ ราณว่าไว้ เมื่อขึ้นสู่สูงสุดก็หวนกลับจุดเดิม

จึงอย่าแปลกใจที่ เดชาวัต พุ่มแจ้ง หรือ แจ๊ค สระบุรี แชมป์สมัครเล่นโลกปี 2553 ต้องหวนคืนสู่สมัครเล่นเหมือนเดิมทั้งที่มีโอกาสไปเล่นอาชีพถึง 6 ปี และถูกบันทึกเป็นนักสอยคิวคนที่ 3 ที่ย่างสู่เมกกะ ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ ต่อจาก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย-ต่าย พิจิตร

โดยแจ๊ค สระบุรี มีผลงานล้ำหน้ากว่ารุ่นพี่ ต่าย พิจิตร ที่เคยเข้าครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ แต่ตกรอบแรกไปแพ้ วิลลี่ ธอร์น ในรอบ 32 คนแต่ แจ๊ค สามารถเอาชนะ “จอมหงุดหงิด” สตีเฟ่น แม็กไกวร์ นักสอยคิวอารมณ์ร้อนจากสกอตแลนด์ในรอบ 32 คนไปได้แบบเฉียดฉิว ซึ่งในปี 2557 ถือเป็นปีทองที่สร้างชื่อให้ แจ๊ค สระบุรี จนเป็นที่รู้จักดีของแฟนสนุกเกอร์เมืองผู้ดี แต่หลังจากพ่ายแพ้ ไมเคิล ไวท์ ในรอบ 16 คน ฟอร์มที่เคยโดดเด่นของ แจ๊ค ก็หายไปอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งส่งผลให้อันดับโลกที่เคยขึ้นถึง 40 ต้น ๆ ก็ล่วงลงจนเลย 64 เมื่อจบการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2017 ซึ่งส่งผลให้ แจ๊ค สระบุรี ต้องหลุดการเล่นอาชีพไปอย่างน่าเสียดาย เพราะกฎกติกาของสนุกเกอร์โลกจะให้โอกาส มืออาชีพ ทำผลงานให้ดีที่สุดภายใน 2 ปี หากอันดับอยู่ในท็อป 64 ก็ยังได้เล่นอาชีพ แต่ถ้าใครทำไม่ได้ก็ต้องถูกคัดออก

และด้วยเหตุนี้ แจ๊ค สระบุรี จึงต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่หากยังอยากจะจับคิวต่อไป ต้องเริ่มด้วยการแข่งขันทุกรายการในไทยโดยเฉพาะการชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อเป็นแชมป์จะได้สิทธิ์ไปชิงแชมป์เอเชียและสมัครเล่นโลก เพราะหากชนะ 2 รายการนี้ก็จะได้ตั๋วกลับสู่อาชีพอีกครั้ง

การไม่ได้เล่นอาชีพหนนี้ส่งผลให้ สปอนเซอร์สิงห์ ซึ่งสนับสนุนเงินปีละ 2 ล้านบาทสำหรับ แจ๊ค สระบุรี จึงต้องล้มเลิกโดยปริยาย ซึ่งว่าไปแล้วน่าจะเป็นผลดีกับ แจ๊ค สระบุรี เพราะในช่วงที่สวมสีเสื้อสิงห์ แจ๊ค ไม่สามารถที่จะทำการแข่งขัน ไทยแลนด์ แรงกิ้ง หรือสนุกเกอร์อาชีพในเมืองไทยได้ เนื่องจากผู้สนับสนุนจัดแข่งขันเป็นบริษัทไทยเบฟฯ ผู้ผลิตเบียร์ช้าง ซึ่งเป็นสินค้าคู่แข่งขันและ แจ๊ค ต้องใส่โลโก้สิงห์ลงแข่งขันทุกครั้งตามสัญญา แต่ถ้ามาแข่งขันไทยแลนด์แรงกิ้งหรือสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก ก็ต้องใส่โลโก้ผลิตภัณฑ์ช้าง ซึ่งถือเป็นการผิดสัญญากับสิงห์ และด้วยเหตุนี้หลายปีที่ผ่านมา แจ๊ค สระบุรี จึงไม่มีชื่อแข่งไทยแลนด์ แรงกิ้ง และ 6 แดงชิงแชมป์โลก

การหลุดจากมืออาชีพจึงถือเป็น ทุกขลาภ

ซึ่งทำให้ แจ๊ค สระบุรี อาจโชคดีที่ได้แข่งขัน ไทยแลนด์ แรงกิ้ง ซึ่งมีให้ล่ารางวัล 6 สนาม หากได้แชมป์จะได้รางวัล 150,000 บาทต่อ 1 รายการ ถ้าได้สัก 2-3 รายการก็อยู่ได้ไม่แพ้การเล่นอาชีพ ขึ้นอยู่ที่ว่า แจ๊ค พร้อมที่จะกลับมานับ 1 ใหม่หรือไม่

ซึ่งขณะนี้ เจ้าตัว ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจจะกลับมาจับคิวได้เมื่อใด ช่วงนี้ต้องยอมรับ เจ้าแจ๊ค อยู่ในช่วงทำใจยาก แต่อย่างไรก็ตามผมยังมีความเชื่อมั่นต้องหวนมาจับคิวอีกครั้ง เพราะชาตินี้ เจ้าแจ๊ค ไม่มีสิทธิ์ยึดอาชีพอื่น

เพราะฟ้าส่งให้มาแทงสนุ้กฯ อย่างเดียว

 

 

ศักดา รัตนสุบรรณ

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 415)