เซียนเสริฐ จันทบุรี

28 พ.ย. 60

หากเขาเป็นเจ้าของสวนทุเรียน ก็คงมีคนเชื่อกันทั้งบาง ทั้งลักษณะท่าทาง สำเนียงการพูดการจา ผิวพรรณ การแต่งเนื้อแต่งตัว

เซียนเสริฐ จันทบุรี น่าจะนับเป็นมือหนึ่งแถวตะวันออกได้ในยุคนั้น ยุคสมัยพญาเซียนของเมืองไทยต่างหันเข้ามารวมตัวกันในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นเซียนเง็ก อ่างทอง เซียนรินทร์ ระยอง เซียนโก๊ะ อยุธยา เซียนตา ลพบุรี เซียนชัย ลำพูน เซียนเซ้ง ปักธงชัย เซียนตึ๊ก โคราช

แต่ตัวเขามุ่งเดินสายออกต่างจังหวัด เขาเคยบอกกะนายทุนว่า นิ่มกว่า สะดวกกว่า และแน่นอนกว่า สามารถจะเลือกมือเล่นได้หนึ่ง และสองเลือกที่จะเดินสายไปได้

เซียนเสริฐ จันทบุรี ตระเวนเล่นแถบตะวันออกมาทุกจังหวัด จนปะฝีมือกับนักสนุกเกอร์ประจำถิ่นแทบทุกคนมาแล้ว เซียนดำ ศรีราชา เซียนมร อ่างศิลา เซียนรินทร์ ระยอง เซียนดร เฉลิมไทย ก็เป็นการวัดฝีมือกัน ซึ่งตอนหนุ่ม ๆ ต่างก็ห้าว อยากจะรู้ดำรู้แดงกันไป ว่าใครจะเก่งกว่ากัน

การปะทะกันระหว่างมือดีด้วยกันนั้น ย่อมมีความเสี่ยงที่จะย่อยยับกลับบ้าน หรืออาจจะคว้าเดิมพันออกมา พร้อมกับทิ้งชื่อเสียงให้ร่ำลือกันก็ได้

ครั้นพออายุเซียนเหล่านี้มากขึ้น เล่นด้วยกันยากแล้วเพราะชักรู้มือกัน ต่างก็หลบเลี่ยงกัน ไม่วัดกันแตกหัก หันไปเดินสายเล่นต่างถิ่น จะปลอดภัยกว่า คือมีโอกาสได้เงินกลับมามากกว่าจะหมดกระเป๋าโบกรถกลับบ้าน

เซียนจำนวนมากจะมาปักหลักในกรุงเทพฯ เพราะมีโต๊ะสนุกเกอร์อยู่หลายแห่งตามหัวระแหงต่าง ๆ อาทิ บางลำพู ประตูน้ำ พระโขนง หลังวัง ลาดหญ้า สาทร วงเวียนใหญ่ พรานนก เพชรบุรีตัดใหม่ ราชเทวี

เป็นธรรมดา ที่ทุกแห่งจะต้องมีมือดีประจำโต๊ะ เมื่อมีมือแปลกหน้าต่างถิ่นเข้าไป สุดท้ายหากไม่มีใครจะเล่นด้วยแล้ว ก็ต้องวัดฝีมือกะเซียนประจำโต๊ะแห่งนั้น

การเดินสายเล่นสนุกเกอร์ต่างถิ่นนั้น หาคู่เล่นได้แน่นอน เว้นเสียแต่ที่นั่นรู้จักตัว หรือรู้ทันก่อน จึงเป็นเหตุผลในยุคโน้น ที่นักสนุกเกอร์ชั้นเซียนตามจังหวัดต่าง ๆ จะต้องออกเดินสายไปเล่นต่างถิ่น

แล้วก็นายทุนที่พร้อมจะออกทุน และติดสอยห้อยตามไป เพราะเลือกเป้าหมายหรือเหยื่อ ที่สืบรู้ถึงฝีมือได้ก่อนว่า ชั้นของเราสูงกว่ามาก

อย่างไร ก็ต้องกวาดเงินออกมาจากโต๊ะ จะมากหรือน้อยก็อยู่ที่ลีลา

เซียนเสริฐ จันทบุรี ถึงจะไม่ค่อยเข้าไปคลุกคลีในกรุงเทพฯ เหมือนอย่างเซียนอื่น ๆ แต่ความที่เมืองจันทบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ผู้คนไม่น้อยเคยเห็น เคยได้ยินกิตติศัพท์ หรือเคยปะทะด้วย แล้วก็เล่าต่อ ๆ กันมา

ฉะนั้น ในการเดินสายเล่นสนุกเกอร์ไปตามที่ต่าง ๆ เซียนเสริฐจึงพิถีพิถันในการเก็บงำฝีมือ และพรางตัวด้วยการแต่งกาย หรือเอาอาชีพบางอย่างบังหน้า

ตอนเย็น ผู้คนยังเห็นเขานั่งช่วยขายเงาะ มังคุด บางทีก็นั่งปอกทุเรียนให้ลูกค้า อยู่ท้ายรถกระบะ พอตกค่ำก็เข้าโต๊ะสนุกเกอร์ ใครก็มองว่า เป็นพ่อค้าทุเรียน และมีสตางค์แน่นอน เช่นนี้ ไปนั่งดูเขาเล่นไม่นาน เดี๋ยวก็มีคนชวนลงไปเล่น

หรือกระโดดจับคิวขอลงไปร่วมเล่นด้วย ก็ไม่มีใครขัด

เขาเดินสายเล่นต่างจังหวัดบางแห่ง ทุเรียนหมดรถแล้ว เขายังเล่นต่อได้อีกหลายวัน เพราะมีมือที่อยากเล่นกับเขาทุกวัน และเขาก็งาบเดิมพันออกมาทุกคืน รุ่งขึ้นก็เปลี่ยนมือที่สูงกว่าขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยนักสนุกเกอร์เจ้าถิ่นไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า

ทำไมพ่อค้าทุเรียนคนนี้มันถึงพัฒนาฝีมือขึ้นเร็วชั่วข้ามคืนทุกคืน เอามือระดับไหนมา มันก็ล่อเดิมพันไปกินหมดทุกคน โน่น จนทุเรียนหมดรถไปหลายวันแล้ว กลัวผู้คนชักจะสงสัย ดีไม่ดีจับได้ว่าเป็นเซียนสนุกเกอร์เจตนาปลอมตัวมาเป็นพ่อค้าทุเรียน เพื่อหลอกตะปบเหยื่อตั้งแต่มืออ่อน ๆ ไปจนถึงระดับเซียนประจำโต๊ะ

แล้วเกิดมีคนที่เคยเล่นเสียเป็นนักเลงหัวไม้ หรือคนพาลเกเร มันขอเอาเงินที่เสียไปคืนมา ก็จะสะบักสะบอมออกจากโต๊ะ

ถึงจุดนี้แล้ว เซียนเสริฐก็พร้อมที่จะวัดฝีมือกับเซียนมือหนึ่งประจำโต๊ะ เป็นการทิ้งทวนครั้งสุดท้าย เหมือนตีหัวแล้วเปิดหนีเลย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เงินเดิมพันจะต้องเพิ่มสูงขึ้น เพราะใครต่อใครก็เชื่อมือ และถือหางนักสนุกเกอร์ของตน ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครเอาชนะได้เลย

นัดนี้ ฝีมือสนุกเกอร์ของเซียนเสริฐ จันทบุรี ก็ถูกงัดออกมาหมดไส้หมดพุง

ไม่จำเป็นต้องเก็บงำ หรืออำพรางฝีมืออยู่ เพราะเป็นนัดสุดท้ายที่ปิดเกมกับนักสนุกเกอร์รายนี้ได้แล้ว เขากับนายทุนก็ไม่ยอมค้างคืนเหมือนคืนก่อน ๆ แล้ว เผ่นกลับจันทบุรีทันที

นี่คือ “ลีลาพญาเซียน” ที่จะช่วยให้กวาดเงินออกจากโต๊ะได้หรือไม่ มากหรือน้อย ซึ่งสำคัญกว่าฝีมือเสียอีก บางคนเก่งแต่ไม่มีลีลาก็หาจับเหยื่อได้ยาก หรือเอาชนะได้ แต่ออกจากโต๊ะไม่ได้ก็มี หรือเล่นได้ไม่กี่คน เขาก็รู้ทันวางคิว เงินเดิมพันที่ได้ยังไม่คุ้มกะค่าโรงแรม ค่าเดินทาง

เซียนสนุกเกอร์เดินสายสมัยก่อน จึงจำเป็นต้องมีทริก ที่เรียกว่าเป็น “ลีลาพญาเซียน” อำพรางให้เนียน และเหมาะกับความถนัดของตัวเอง

 

วันชัย  เทียมทัด

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 420)