เซียนดำ ศรีราชา

22 ม.ค. 61

เซียนสนุกเกอร์ในอดีตรายนี้ ผิวพรรณแตกต่างกับชื่อแบบตรงกันข้ามเลย คนที่ไม่เคยเห็นตัวมาก่อน รู้จักแต่ชื่อ พอพรรคพวกในวงการสนุกเกอร์ชี้ตัวให้รู้จัก ก็งงกันทุกคน เพราะชื่อดำ แต่กลับผิวขาวผ่อง

หากไม่รู้ไม่เห็นมาก่อน เซียนดำก็เดินสายเล่นสนุกเกอร์ต่างถิ่นได้สบาย ๆ ใครเลยจะคิดว่า ที่เคยได้ยินกิตติศัพท์เข้าหูว่า ที่ศรีราชา มีนักสนุกเกอร์มือดีสองพี่น้อง คนน้องชื่อ “เซียนดำ” ช่วงหนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ และเดินสายเล่นสนุกเกอร์แบบเงียบ ๆ ไม่ค่อยยอมอวดตัวอวดฝีมือ ตัวจริงจะเป็นผิวขาวผ่องเช่นนี้

เซียนดำ เป็นนักสนุกเกอร์รูปหล่อ แต่งตัวพิถีพิถัน จะสวมรองเท้าคัทชูหนังที่ขัดมันแผล็บ ชายเสื้อก็เก็บอยู่ในกางเกง ลักษณะท่าทางของเขาไม่เหมือนเซียนสนุกเกอร์ เหมือนคนทำงานทำการเป็นกิจลักษณะ เลิกงานก็แวะเข้าโต๊ะสนุกเกอร์

ช่วงที่เขาเดินสายเล่นอยู่ในกรุงเทพฯ หลายปีนั้น ไม่มีใครรู้ว่าฝีมือของเซียนดำ ศรีราชา ระดับไหนกันแน่ เพราะเขาไม่ยอมปะทะด้วยกับมือรุ่นใหญ่ในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็น ตึ๊ก โคราช เง็ก อ่างทอง รินทร์ ระยอง โก๊ะ อยุธยา ตา ลพบุรี

สมัครพรรคพวกของเขาว่า ไม่ใช่ฝีมือจะไม่ถึง แต่เขาระมัดระวังตัว ไม่ยอมขึ้นชั้นไปแถวหน้า มิเช่นนั้น จะหาคู่เล่นได้ยากเย็นเต็มประดา เซียนดำ ศรีราชา เคยเล่นล้มเดิมพันกับเก๊า ฟันดำ ที่โต๊ะถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขาก็เป็นฝ่ายคว้าเดิมพันกลับลงมาอย่างสบาย ๆ

เซียนดำ ศรีราชา พักอยู่ในซอยจารุรัตน์ มักกะสัน ใกล้กับประตูน้ำ โต๊ะสนุกเกอร์แถวนั้น เขาขึ้นไปกวาดเงินมาแทบหมดทุกโต๊ะ ยกเว้น สมาคมมิตรสัมพันธ์ หรือโต๊ะอินทราเท่านั้น ที่เขาขึ้นไป แต่ไม่ยอมประกบคู่เล่นกับใคร เพราะยุคโน้น ที่แห่งนี้ เป็นสถานที่รวมประดาเซียนทั้งหลาย

ซึ่งเขาตั้งใจแล้วว่า จะไม่ยอมเล่นกับห้าเซียนแถวหน้าของเมืองไทยเป็นเด็ดขาด แต่หากเขาจับคิวเล่นกับใครที่โต๊ะอินทราแห่งนี้ ผู้คนต่างก็จะรู้จักหน้าค่าตา พอขึ้นไปเล่นที่โต๊ะแห่งอื่น ก็รู้จักกันหมดก่อนแล้วย่อมที่จะเดินสายลำบากมาก

โต๊ะในย่านนั้นเขาขึ้นไปเล่นมาหมดทุกแห่ง ในตลาดเฉลิมโลก ตลาดนายเลิศ สี่แยกราชเทวี ตรงข้ามโรงภาพยนตร์เพชรรามา หลังโรงภาพยนตร์เมโทร ฉะนั้น มือดี ๆ ประจำโต๊ะแถวนั้น เซียนฮุย ประตูน้ำ เซียนโม่ง เฉลิมลาภ เซียนแจ่ม เมโทร เซียนพล ดาวรุ่ง เซียนเป้า อินทรา เคยเล่นด้วยมาหมดทุกคน และเซียนเหล่านี้ ฝีมือสู้เขาไม่ได้สักคนเดียว

นอกจากนั้นแล้ว เซียนดำ ศรีราชา ยังเคยถูกประกบคู่ให้เล่นกับ เซ้ง ปักธงชัย พล ขอนแก่น ลักษณ์ สุริวงค์ บัติ หัวตะเข้ งี้ ดำรงรักษ์ จี๋ พระโขนง ในช่วงที่เขาเข้ามาเดินสายในกรุงเทพฯ ใหม่ ๆ

เขาก็ผ่านได้สบาย ๆ จนครั้งหนึ่งประกบคู่เจอะกับ “ชัย ลำพูน” โดยบังเอิญ ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จักกันมาก่อน ตอนนั้น ฝีมือชัย ลำพูน ก็อยู่ในแถวหน้าของเมืองไทยเช่นกัน เล่นกันสองวันติด ก็ไม่มีวันที่สาม ไม่ใช่ว่า ใครจะเป็นฝ่ายวางคิวยอมแพ้ต่อกัน หากต่างก็รู้ในใจว่า ฝีมือพอกัน อยู่ที่ว่าวันไหนมือขึ้นหรือมือตกกว่าปกติ ก็จะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้

เป็นวิถีของเซียนสนุกเกอร์ เสี่ยงไปก็ห้าสิบ-ห้าสิบ หากพิถีพิถันเลือกมือเล่นด้วย ก็อาจจะขี่ถึงแปดสิบ-ยี่สิบ อีกเหตุผลหนึ่งที่ในวงการสนุกเกอร์เขาใช้กัน คือการเทียบระดับฝีมือ โดยการให้แต้มต่อ ต่างฝ่ายต่างไม่เคยเล่นกันมาก่อน แต่เล่นกันได้โดยสามารถให้แต้มต่อกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ

ก็โดยวิธีการเทียบชั้น เคยแพ้ชนะเซียนคนใดมา ก็พอจะรู้ว่าฝีมืออยู่ในระดับใด จะเหนือชั้นหรือต่ำชั้นกว่าคู่ต่อสู้ที่จะประกบกันเล่นหรือไม่ ใครเหนือชั้นกว่าก็ให้แต้มต่อกันมา เป็นเยี่ยงนี้ เซียนดำ ศรีราชา จึงไม่ยอมเล่นกับเซียนสนุกเกอร์ที่วงการสนุกเกอร์ถือว่าเป็นสุดยอดฝีมือในตอนนั้น

ฝีมือของเซียนดำ ศรีราชา จึงเป็นที่น่ากังขา หากจะให้หายสงสัยหรือรู้แน่ ก็ต้องลองเล่นเดิมพันด้วยกันสักพัก ผลแพ้ชนะก็จะเป็นตัวบ่งชี้

เซียนดำ ศรีราชา จึงเป็นเซียนสนุกเกอร์ตัวฉกาจในการเดินสายเล่นสนุกเกอร์ต่างถิ่น ไม่ค่อยมีใครรู้จักตัว เวลาเล่นกะคู่ต่อสู้ที่เล็งแล้วฝีมือไม่แข็งนัก เขาจะไม่ค่อยแสดงฝีมือว่าเหนือชั้นกว่ามากมาย ไม่มีการวางหรือเล่นอีตัวอย่างหวือหวา แทงลูกพื้น ๆ แต่เอาแน่นอน

กับคนที่รู้จักมือเขาดี บางทีก็ต่อให้โดยใช้มือซ้ายที่ไม่ถนัดแทง แถมแต้มให้ด้วยก็มี ใครก็อยากรู้อยากลอง สามสี่เกมแรกก็พอสูสี แต่พอเดิมพันสูงขึ้นไปเรื่อย

การใช้มือซ้ายเล่นสนุกเกอร์ของเขาไม่ด้อยกว่ามือขวาเลย บางคนประมาณการเอาว่า มือซ้ายอ่อนกว่ามือขวาเพียง ๗ แต้มเอง ดังนั้น คนที่เคยเล่นกับเซียนดำ ศรีราชา ตามปกติโดยใช้มือขวาแทงโดยเซียนดำ ต่อให้ ๑๐ แต้ม มาเล่นกับมือซ้ายของเขาแต้มเท่า ๆ ดีไม่ดีไปต่อแต้มให้เขาเสียอีก ก็พังพาบมาแทบทุกราย

เซียนดำ ศรีราชา เป็นคนที่ไม่ค่อยคบกับเซียนอื่น ๆ จะไปไหนมาไหนแบบเดี่ยว ๆ จะมีพรรคพวกตามด้วยสองสามคน ก็เป็นสมัครพรรคพวกที่สนิทสนมกัน ตามไปถือหาง เล่นวงนอก เซียนดำ ศรีราชา ไม่มีนายทุน เล่นด้วยเงินในกระเป๋าของเขาเอง

นี่เป็นเหตุผลหนึ่ง เขาไม่เล่นซี้ซั้ว หรือสะเปะสะปะ แบบเล่นกับใครก็ได้ขอให้มีคู่เล่น หรือถือตัวว่าเล่นเก่ง หรือไม่คิดแต่เพียงว่ากินเขาได้ แต่คิดถึงว่า จะเล่นได้บ่อยและเล่นได้นาน ๆ เช่นนี้ เหมือนกินไม่มีหมด ดีกว่ากินเขาครั้งเดียว แล้ววันหลังก็นั่งดูเขาเล่น เพราะไม่มีใครเล่นด้วยอีก

ระยะหลัง ๆ เมื่อเดินสายจนแทบหาคู่เล่นไม่ได้แล้ว เซียนดำ ศรีราชา ก็ปักหลักประจำอยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์ ตรงข้ามโรงภาพยนตร์เพชรรามา ต้นถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ปัจจุบันอาคารที่ตั้งโต๊ะสนุกเกอร์ถูกทุบทิ้ง กลายเป็นศูนย์การค้าใหญ่มหึมาแถวย่านสี่แยกประตูน้ำ โรงภาพยนตร์ก็เลิกกิจการไปตามยุคสมัยที่มีวิดิโอ.เข้ามา

ว่ากันว่า เซียนดำ ศรีราชา เป็นเซียนสนุกเกอร์ ที่มีฝีมือดีระดับแถวหน้าของเมืองไทย ไม่น้อยหน้าพวกเซียนตา เซียนเง็ก เพียงแต่ว่าเขาถนอมตัวไม่ยอมลองของด้วย แต่เซียนสนุกเกอร์ที่ระดับต่ำกว่าเซียนใหญ่ทั้งหลายเหล่านั้น เซียนดำ ศรีราชา เคยล้มเดิมพันกันมาหมดแทบทุกคน แต่เซียนดำ เป็นเซียนสนุกเกอร์แบบไม่ใช่คนอวดตัว เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่คุย ไม่อวดฝีมือ

ตอนโต๊ะอินทรากำลังเล่นกันสนุก ๆ เซียนดำ ศรีราชา ก็เคยแอบขึ้นมาบ่อย เพราะโต๊ะอยู่ตรงข้ามปากซอยจารุรัตน์ ที่เซียนดำ พักอยู่ในนั้น

แต่เขาไม่เคยขึ้นมาในฐานะเซียนสนุกเกอร์ มาในลักษณะขึ้นมาเที่ยว และถือโอกาสเล่นถือหางวงนอกบ้าง กระนั้น ก็มีคนจำได้ และท้าทายประกบคู่ให้เล่นกะคนนั้นคนนี้ แต่เขาปฏิเสธ ก็ดังที่บอก ที่นี่ตอนนั้น มีแต่เซียนชั้นแนวหน้ารวมตัวกันอยู่ และขาสนุกเกอร์ก็เต็มไปหมดมาจากหลายแห่ง ที่นั่นคึกคักกันตลอดทั้งวันทั้งคืน หากเขาจับคิวเล่นกับใคร นักสนุกเกอร์ก็รู้จักหน้าค่าตาเขาไปหลายร้อยคน ทีนี้ จะเดินสายไปเล่นที่ไหน ก็อาจจะเจอคนรู้จัก ซึ่งจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินสาย

ถึงฝีมือจะเป็นเซียนสนุกเกอร์เหมือน ๆ กัน แต่หาใช่ทุกคนจะมี “ลีลา” เหมือนกัน เซียนดำ ศรีราชา เป็นตำนานหนึ่งของ “ลีลาพญาเซียน”

 

วันชัย  เทียมทัด

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 422)