แปลกแต่จริง "สินธุ" นั่งนายกฯ โดยไม่ต้องเลือกตั้ง กกท. ให้อยู่ต่ออีก 2 ปี เพื่อสอดคล้อง พ.ร.บ. ฉบับใหม่

11 พ.ค. 59

สินธุ พูนศิริวงศ์ นั่งนายกสอยคิวสมัยที่ 15 โดยไม่มีการเลือกตั้ง ทั้งที่ครบวาระ เนื่องจากสมาคมฯ เลือกตั้งหนสุดท้ายปี 2557 แต่มาขอจดทะเบียน 2558 ทำให้เกิด พ.ร.บ. ฉบับใหม่ ที่ประกาศใช้เมื่อปี 2558 กกท. จึงลงมติให้นั่งต่ออีก 2 ปี โดยใช้คณะกรรมการบริหารชุดเดิมทั้งหมด ห้ามมีการเปลี่ยนแปลง

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ถนนพระราม 9 เนื่องจากครบวาระบริหารสมาคม 2 ปี ต้องมีการ เลือกตั้งนายกสมาคมและคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งมีการแถลงผลงานตลอดปีที่ผ่านมาหลายวาระ แต่ไม่มีวาระการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ซึ่งได้รับการชี้แจงจาก นายธัชนาถ ทองประกอบ อุปนายกสมาคมฝ่ายงบประมาณและผู้อำนวยการกองพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย แจ้งว่า คณะกรรมการบริหารชุดนี้ยังไม่หมดวาระ จึงไม่มีการเลือกตั้งในการประชุมใหญ่ครั้งนี้เนื่องจาก สมาคมฯ ทำการเลือกตั้งเมื่อ พ.ค. 2557 และได้ไปขอจดทะเบียนจากกรมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งกรมการปกครองไม่จดให้เนื่องจากจะมี พระราชบัญญัติกีฬา ฉบับใหม่ในปี 2558 และเพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ฉบับนี้ จึงแนะให้ไปจดทะเบียนจาก กกท.โดยตรง และเมื่อปลายปี 58 สมาคมฯ ได้ยื่นจดทะเบียน ซึ่งทาง กกท. ตรวจสอบพบว่ามีการเลือกตั้งนายกฯ ปี 2557 ซึ่งยังคงใช้ พ.ร.บ. ฉบับเก่า จึงมีมติให้ใช้ของเก่าไปก่อนจนหมดวาระในปี 2561 จากนั้นถึงเข้าสู่ระบบ พ.ร.บ. ฉบับใหม่ โดยนายกฯ และคณะกรรมการ ต้องบริหารสมาคม 4 ปี

ในการประชุมใหญ่หนนี้บรรดาสมาชิก 8 สโมสรเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อมาเลือกตั้ง นายกสมาคมฯ เต็มที่ แต่เมื่อไม่มีวาระเลือกนายกฯ หลายสโมสรจึงถามไถ่เป็นการส่วนตัวจากผู้แทน กกท. ซึ่งได้ชี้แจงว่า ผู้ว่าฯ กกท. นายสกล วรรณพงษ์ ได้ลงนามเซ็นชื่อกำกับชัดเจนให้ คณะกรรมการชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนครบวาระในปี 2561 โดยห้ามมิให้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ซึ่งนายสมเกียรติ ภิรมยาภรณ์ ผู้แทนจากสโมสรธนาคารออมสินและนายนาวิน วิริยโยธิน ผู้แทนจากสโมสรการประปาภูมิภาคตั้งข้อสงสัยว่า การเลือกตั้งในปี 2557 ทำไมจึงเพิ่งมาจดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2559 ทั้งที่รู้ล่วงหน้าว่าจะมีการประชุมใหญ่ในวันที่ 21 เม.ย. และจากการจดทะเบียนล่าช้าหนนี้ทาง กกท. แจ้งว่า ที่ล่าช้าเนื่องจากต้องตรวจสอบและเซ็นรับรองสมาคมกีฬาอื่นๆ อีกกว่า 60 สมาคม จึงทำให้เกิดความล่าช้า จนทำให้ไม่เข้าข่ายอยู่ใน พ.ร.บ. ใหม่ จึงต้องใช้ของเก่าจนครบวาระในปี 2561