ผู้ว่าฯ กกท. ยินดีให้การสนับสนุนสอยคิวทุกรูปแบบ ถือเป็นต้นแบบ "นำร่อง" กีฬาอาชีพจาก 13 ประเภท

23 ส.ค. 59
นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย
นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย

ผู้ว่าฯ กกท. ยืนยัน ยังให้การสนับสนุนกีฬาสอยคิว ซึ่งถือเป็นต้นแบบ “กีฬาอาชีพ” ตามประกาศใน พระราชบัญญัติกีฬาอาชีพ 13 ชนิดกีฬา ซึ่งเชื่อว่าจะไปสู่เป้าหมายสำเร็จ โดยขณะนี้มี 7  นักกีฬาอาชีพที่ได้ไปแข่งขันที่ประเทศอังกฤษ

นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า สนุกเกอร์ถือเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่อยู่ในประเภท กีฬานำร่องสู่อาชีพ ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 13 ชนิดกีฬาประกอบด้วย กอล์ฟ, จักรยาน, แข่งรถยนต์, สนุกเกอร์, โบว์ลิ่ง, เจ็ตสกี, จักรยานยนต์, แบดมินตัน, เทนนิส, ฟุตบอล, ตะกร้อ, วอลเลย์บอล และ บาสเก็ตบอล โดยกีฬาสนุกเกอร์จัดได้ว่าสามารถที่จะมุ่งสู่เป้าหมายได้ไม่ยาก เนื่องจากปัจจุบันมี นักกีฬา 7 คนที่ได้ขึ้นไปเล่นอาชีพโลกคือ รัชพล ภู่โอบอ้อม (ต๋อง ศิษย์ฉ่อย) เทพไชยา อุ่นหนู (เอฟ นครนายก) เดชาวัต พุ่มแจ้ง (แจ๊ค สระบุรี) นพพล แสงคำ (หมู ปากน้ำ) อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ (ซันนี่ อาร์แบค) บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล (ไฟว์ นครนายก) และ กฤษนัส เลิศสัตยาทร (นุ้ก สากล)

ผู้ว่าฯ กกท. ยังกล่าวอีกว่า น่าเสียดายที่การแข่งขันสนุกเกอร์ ดิวิชั่น 2 ต้องหดหายไป ทำให้นักกีฬาหน้าใหม่ต้องขึ้นมาสู้กับ คนที่เก่งกว่าในดิวิชั่น 1 นอกจากนี้คนที่ฝึกหัดใหม่และอยากแสดงฝีมือก็คงไม่กล้าสมัคร เพราะต้องเจอคนที่เก่งกว่าจึงคิดว่า สมาคมฯ น่าจะหันมาพัฒนาดิวิชั่นที่ต่ำกว่าให้เขยิบรุ่นไปอันดับสูง ซึ่งจะทำให้นักกีฬามีความทะเยอทะยานอยากจะมีอันดับสูงขึ้น เพื่อขึ้นไปปะทะกับคนที่เก่งกว่า แต่อย่างไรก็ตาม กกท. พร้อมที่จะให้การสนับสนุนสมาคมบิลเลียดฯ อย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าเป็นสมาคมที่มีผลงานน่าจับตาอย่างยิ่ง โดยทำได้ตามเป้าของ กกท. ที่อยากเห็นนักกีฬาไทยขึ้นสู่ระดับอาชีพ

 

 (ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 405)