“จีน” ผูกขาดจัดสอยคิว “เวิลด์คัพ” ชิงถ้วยคิงออฟคิงส์ 3-9 ก.ค.

5 มิ.ย. 60

เซลบี้-ทรัมป์ “เต็ง” ติง-เหลียงนำทีม ไทยส่งเอฟ-หมูร่วม

ศึกสอยคิวเวิลด์คัพประจำปี 2017 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมาคมสนุกเกอร์โลกมอบหมายให้จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 3-9 ก.ค. 2560 โดย เจ้าภาพ ได้สิทธิ์ส่งแข่ง 2 ทีม (เอ-บี) ติง จุ้นฮุย จับคู่ เหลียง เหวินโป และแชมป์เก่า หยาง บิงเต๋า คู่ จ้าว หยู่หลง โดยปีนี้อังกฤษเต็งหามเพราะมีแชมป์โลก มาร์ค เซลบี้ จับคู่ จัดด์ ทรัมป์ ในขณะที่ทีมไทยส่ง เอฟ นครนายก กับ หมู ปากน้ำ

จีน ได้รับความไว้วางใจจากสมาคมสนุกเกอร์โลกให้จัดสนุกเกอร์เวิลด์คัพ ประจำปี 2017 ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้จัดครั้งแรกเมื่อปี 2015 ที่สนามอู๋ซี สเตเดียมระหว่าง 15-21 มิ.ย. ซึ่งหนนั้น จีน ได้ถ้วยพระราชทานไปครองโดย “ทีมบี” ซึ่งมี จ้าว หยู่หลง กับ หยาง บิงเต๋า เอาชนะทีมเต็งจากสกอตแลนด์ที่มี จอห์น ฮิกกินส์ คู่กับ สตีเฟ่น แม็กไกวร์ ไปอย่างขาดลอย 4-1 เฟรม คว้าเงินรางวัล 8.8 ล้านบาทไปครองโดยรองแชมป์ได้ 100,000 ปอนด์หรือประมาณ 4.4 ล้านบาท โดยมีแข่ง 23 ชาติ 24 ทีมซึ่งทีมไทยมี “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู กับ “แจ๊ค สระบุรี” เดชาวัต พุ่มแจ้ง ปรากฏผ่านเข้ารอบ 8 ทีม ก่อนพ่าย เวลส์ ซึ่งนำทีมโดย มาร์ค วิลเลียมส์ และ ไมเคิล ไวท์ 1-4 เฟรม ได้เงินรางวัล 40,000 ปอนด์หรือราว 1.7 ล้านบาท

สำหรับการแข่งขันในช่วง 3-9 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ยังกำหนด 24 ทีมเหมือนเดิมจาก 23 ประเทศ เพราะเจ้าภาพมีสิทธิ์ส่งได้ 2 ทีม โดยทีมเอ. ติง จุ้นฮุย จับคู่ เหลียง เหวินโป ส่วนทีมบีแชมป์เก่า หยาง บิงเต๋า กับ จ้าว หยู่หลง ซึ่งทีมเต็งหนนี้ได้แก่อังกฤษ ที่นำทีมโดยแชมป์โลก 3 สมัยคนล่าสุด มาร์ค เซลบี้ จับคู่ จัดด์ ทรัมป์ ซึ่งถือเป็นยอดฝีมือดีที่สุดของอังกฤษในช่วงนี้ สำหรับทีมไทยเดิมทีเป็น เอฟ นครนายก กับ แจ๊ค สระบุรี แต่เมื่อแจ๊คหลุดมืออาชีพและ หมู ปากน้ำ โดดเด่นขึ้นมา จึงส่งชื่อ เอฟ-หมู ร่วมชิงชัย นอกจาก จีน, อังกฤษ, ไทย ยังมี ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สกอตแลนด์, เวลส์, ไอร์แลนด์, นอร์เวย์, สิงคโปร์, อิหร่าน, ปากีสถาน, อินเดีย, มาเลเซีย, กาตาร์, มอลต้า, บราซิล, โปแลนด์, ยูเออี, ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, ไอร์แลนด์เหนือ และ เยอรมนี โดยเจ้าภาพทุ่มงบประมาณในการจัดสนุกเกอร์ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงออฟคิงส์” จำนวน 800,000 ปอนด์หรือราว 35 ล้านบาท

 

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 415)