เงินอัดฉีด กกท. เป็นเหตุ รมย์ สุรินทร์-วัช หาดใหญ่ ขอสู้ต่อ ขอรับใช้ชาติจนเดินไม่ไหว ยัน “สภาพร่างกาย” ยังดีพร้อมสู้

21 พ.ย. 60

2 จอมคิวบิลเลียด รมย์ สุรินทร์-วัช หาดใหญ่ ยืนยันขอรับใช้ชาติในระดับโลก-เอเชียและซีเกมส์ตลอดไป จนกว่าสังขารจะไปไม่ไหว ยืนยันปัจจุบันทำการฟิตซ้อมประจำที่สโมสรทีบีซี หัวหมาก และได้ออกคิวทุกวัน เนื่องจากเปิดสอนสนุกเกอร์มีลูกศิษย์มากมาย

ประพฤติ ชัยธนสกุล (รมย์ สุรินทร์) เจ้าของเหรียญทองบิลเลียดซีเกมส์และ ธวัช สุจริตธุระการ (วัช หาดใหญ่) เหรียญทองแดงซีเกมส์ 2 จอมคิวบิลเลียดจอมเก๋าเปิดเผยว่า สภาพร่างกายยังพร้อมที่จะเล่นบิลเลียดในนามทีมชาติได้อีกหลายปี โดยปัจจุบัน รมย์ อายุ 55 และ วัชอายุ 53 มีการฟิตซ้อมตลอดเวลาเนื่องจากทั้งคู่ เป็นครูสอนสนุกเกอร์อยู่ที่สโมสรทีบีซี หัวหมาก มีลูกศิษย์เข้ารับการสอนหลายราย ทำให้มีรายได้พอเลี้ยงครอบครัว โดยยืนยันจะขอเล่นบิลเลียดต่อไปจนกว่าสังขารจะไม่อำนวย ซึ่งล่าสุด รมย์ สุรินทร์ คว้าเหรียญทองบิลเลียดซีเกมส์ได้เงินอัดฉีด 200,000 บาท ส่วน วัช หาดใหญ่ ได้เหรียญทองแดง 50,000 บาท ซึ่งการแข่งขันซีเกมส์หนที่ผ่านมา สมาคมบิลเลียดฯ คว้ามา 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ได้เงินอัดฉีดจาก กกท. 750,000 บาท โดยสมาคมฯ ได้ 30% และผู้ฝึกสอนได้อีก 20% แต่ถ้าสามารถคว้าแชมป์โลกจะได้รับอัดฉีดจาก กกท. 1 ล้านบาท เอเชียนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ 2 แสนบาท ซึ่งทาง กกท. รับปากจะเพิ่มงบประมาณในการแข่งขันเพราะ เอเชียนมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ถือเป็นระดับน้อง ๆ เอเชียนเกมส์ ซึ่งมีความยากลำบากกว่าซีเกมส์มากนัก ส่วนแชมป์เอเชียได้ 2 แสนบาท เสียดายที่สนุกเกอร์ถูกเตะออกจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ไม่งั้นจะได้อัดฉีดเหรียญละ 1 ล้าน ตามที่ รมย์ สุรินทร์-ตึ๊ก โคราช เคยทำได้ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์เมื่อปี 2545 ที่ประเทศเกาหลีใต้มาแล้ว ส่วนอนาคตหากมีแข่งในโอลิมปิกและได้เหรียญทอง จะมีเงินอัดฉีด 10 ล้านบาท เหรียญเงิน 6 ล้านและทองแดง 3 ล้านบาท

 

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 420)