“กร นครปฐม” กับแชมป์แรกของปี ฤาจะซ้ำรอย 2 ซีซั่นที่แล้ว

3 เม.ย. 61

การแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนประเทศไทย เริ่มสตาร์ท รายการแรก และได้แชมป์แรกไปเรียบร้อย

การดวลคิว “ทรู หัวหินคัพ 2018” ที่โรงแรมหัวหิน แกรนด์ ที่กลายเป็นสถานที่เจ้าประจำในการจัดการแข่งขัน ซึ่งนัดชิงชนะเลิศ มี นายรุจประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน และนายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธาน

ที่นี่ในสองปีหลังสุด มีแชมป์ใหม่แจ้งเกิดที่นี่นั่นก็คือ “นุ้ก คอนหวัน” ปรมินทร์ ด่านจิรกุล และ “นุ้ก จันท์” ยุทธภพ ภาคพจน์

มาในปีนี้ไม่มีแชมป์ใหม่ แต่แชมป์แรกน่าสนใจก็คือ เป็นสองนักสอยคิวจากแดนยอดแหลม จังหวัดนครปฐม โคจรมาพบกัน

นั่นคือ “กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ กับ “แมน นครปฐม” ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์

ต่างฝ่ายต่างมีดีกรีสำคัญ นั่นก็คือ กร เป็นคนแรกที่ได้ทั้งแชมป์เยาวชนเอเชีย และแชมป์เอเชีย ส่วน แมน นอกจากจะเป็นทั้งแชมป์เยาวชนเอเชีย และเยาวชนโลกแล้ว ยังเป็นเจ้าของสถิติแทงแม็กซิมั่มเบรกในระดับอาชีพโลกด้วยวัยเพียง 16 ปี 312 วัน น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์คิวอาชีพโลก

ปรากฏว่า กร ควบคุมตัวเองได้ดีกว่า ในเกมที่ทั้งสองคนแทงได้ต่ำกว่ามาตรฐาน เอาชนะไปได้ 4-2 เฟรม คว้าแชมป์อาชีพไทยเป็นรายการที่ 3 ในชีวิต รับเงินไป 150,000 บาท พร้อมรับเงินอีก 20,000 บาท ในการทำเบรกสูงสุด 139 แต้ม ส่วน แมน นครปฐม รับไป 65,000 บาท

กร นครปฐม กล่าวหลังจากได้แชมป์ว่า ผมฟิตซ้อมอย่างหนักวันละอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมง โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะรักษามาตรฐานการเล่นให้ดีที่สุด และตั้งใจเอาไว้ว่าจะเข้ารอบลึก ๆ ให้ได้ในทุกรายการ ซึ่งการเป็นแชมป์ครั้งนี้ก็หวังว่า จะเป็นพลังของตัวเองในการกลับมาก้าวสู่ระดับท็อปของวงการให้ได้อีกครั้ง

 

 

สนามต่อไปถือว่าน่าสนใจมาก ๆ รายการที่ 2 วันที่ 2-7 เมษายน ที่วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งกระโดดมาเป็นเจ้าภาพหนแรก

กร มีโอกาสล่าแชมป์รายการที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อจะออกสตาร์ทดวลกับ “หนึ่ง มุกดาหาร” ศราวุธ กาญจนานุรักษ์ นักสอยคิวเจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งล่าสุด

แม้ว่า หนึ่ง มุกดาหาร อาจจะฟอร์มดีในซีเกมส์ แต่มาเล่นที่เมืองไทยแบบนี้ เจอกับ กร ที่ถ้า “กินยาแม่น” อยู่แบบนี้ โอกาสต้านอยู่คงจะยาก โดยสายบน ถ้าหลุดไปได้ กร จะเจอกับ “ตัวเล็ก สำโรง” ไพฑูรย์ ผลบุญ ที่จะวัดกับผู้ชนะระหว่าง “ชิม ศิษย์ต่าย” กอบกิจ พลาจิณ หรือ โก๊ะ คเต มือไวลด์การ์ดจากเมียนมาร์

ส่วนสายบนที่เหลืออีก 4 คน มี “บิ๊ก สระบุรี” อรรถสิทธิ์ มหิทธิ, สจ๊วร์ต เพ็ตต์แมน, “อิศ จันท์” อิศรา กะไชยวงศ์ และ “นัท แปดริ้ว” นิธิวรรธก์ กาญจนศรี

 

มองกันแบบนี้สไตล์ของ กร และการแทงในช่วงนี้ถือว่า ได้ลุ้นได้สู้ในทุก ๆ มือ และทุก ๆ ไม้

หากมองกันเฉพาะเรื่องของ “แดจาวู” อันนี้มีโอกาสเหมือนกัน

เพราะสองปีหลังของรายการแรงกิ้งไทย ปรากฏว่าแชมป์ 2 รายการเบิ้ลกันมาแบบสองปีติด

ก่อนหน้านี้คือ ปี 2559 “ซันนี่ อาร์แบค” อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ คว้าสองแชมป์แรกเป็นประเดิม

ปีที่แล้ว 2560 “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู ก็เบิ้ลแชมป์เช่นกันในสองรายการ

แล้วปีนี้ล่ะ?!?!?!?!?

ต้องถามใจ “กร นครปฐม” กันอีกทีว่า...ไหวมั้ย!?!?!?!?

 

บี แหลมสิงห์

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 425)