บทความจาก World Snooker กรณีของ สตีเฟ่น ลี เล่นกับ จอห์น ฮิกกิ้นส์

22 ต.ค. 55

บทความจาก World Snooker กรณีของ สตีเฟ่น ลี เล่นกับ จอห์น ฮิกกิ้นส์

สืบเนื่องมาจากการที่ CPA (Crown Prosecution Service) ได้ประกาศเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2555 ยกเลิกการสืบสวนต่อข้อกล่าวหาต่อ สตีเฟ่น ลี ในการแข่งขันเมื่อปี 2010 ว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอในการล้มการแข่งขัน ทำให้ WPBSA ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เองต่อไปนั้น

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2555 WPBSA ได้ประชุมหารือกับคณะกรรมการที่ดูแลตรวจสอบการแทงพนัน (Gambling Commission) เพื่อสรุปหลักฐานในกรณีนั้น ที่อาจมีเหตุการณ์ที่สอดคล้องต่อการสอบสวนของ WPBSA  ซึ่ง WPBSA ก็ได้มอบหมายให้ Mr. Nigel Mawer ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายระเบียบวินัย เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวนต่อไป

ต่อมาในวันที่ 12 ต.ค. 2555 ที่ผ่านมา WPBSA ได้รับเบาะแสมาอีกว่ามีการแทงพนันที่ผิดปรกติเกิดขึ้นในแมตช์ระหว่าง สตีเฟ่น ลี กับ จอห์น ฮิกกินส์ ในการแข่งขันสนุกเกอร์พรีเมียร์ลีค ในวันที่ 11 ต.ค. 2555 ที่เพิ่งผ่านมา 

ซึ่งทาง WPBSA ก็ได้ส่งให้ Mr. Nigel Mawer เข้ามาตรวจสอบในกรณีนี้ด้วยทันที

ซึ่งหลังจากที่ได้พิจารณาข้อมูลที่ได้รับจากคณะกรรมการฯ (Gambling Commission) ที่ได้ประชุมไปเมื่อวันที่ 5 ต.ค. รวมทั้งข้อมูลใหม่ที่ได้รับจากการแข่งขันเมื่อวันที่ 11 ต.ค. แล้ว WPBSA มีความเห็นว่า ยังไม่สมควรให้ สตีเฟ่น ลี ทำการแข่งขันรายการต่าง ๆ ในเมนทัวร์ของ World Snooker ในระหว่างที่ยังมีการสืบสวนสอบสวนอยู่ นายเจสัน เฟอร์กูสัน ประธานกรรมการสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ สตีเฟ่น ลี ลงทำการแข่งขันรายการอาชีพใดๆในขณะที่การสอบสวนยังดำเนินอยู่ต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม สตีเฟ่น ลี มีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ และได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการฯแล้ว โดยร้องเรียนว่า การสั่งห้ามผู้เล่นลงแข่งขัน ทั้ง ๆ ที่การสอบสวนยังไม่ได้สรุปว่าผู้เล่นมีความผิดจริงหรือไม่ เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป เขาเข้าใจว่าต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง แต่การออกคำสั่งแบนทันทีทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินชัดเจนว่ามีความผิด โดยแค่เอาข้อมูลจากอัตราการแทงพนันที่ผิดปรกติมาเป็นตัวชี้วัดนั้น เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป