"คิวทอง" เปิดตำนาน 7 แชมป์โลกไทย คนที่ 6 "เอฟ นครนายก"

8 เม.ย. 57

เป็น แชมป์โลกที่ช่วยลบภาพพจน์ นักเรียน เล่นสนุกเกอร์แล้วหมดอนาคต โดยสามารถสร้างปรากฏการณ์ให้ ผู้ปกครอง ยอมรับความจริง เกมสอยคิว ไม่เลวร้ายทำให้เด็กเล็กเสียคน หากเดินมาถูกทางจะช่วยสร้างชื่อเสียงสู่วงศ์ตระกูลและประเทศชาติ และบัดนี้เขาทำสำเร็จ ได้แชมป์สนุกเกอร์นักเรียนคนแรก แล้วเขยิบคว้าแชมป์เยาวชน-แชมป์ประเทศไทย ก่อนประสบความสำเร็จสูงสุดเป็นแชมป์โลกคนที่ 6 ด้วยการพิชิตนักสนุกเกอร์ชาวไอร์แลนด์ คอมล์ กิลครีสต์ ที่ประเทศออสเตรียเมื่อปี 2551 และเบนเข็มสู่อาชีพทันที นักกีฬาที่กำลังกล่าวถึงคือ เทพไชยา อุ่นหนู เจ้าของฉายาสู้จริงร้ายมาก "เอฟ นครนายก" ไอ้หนุ่มร่างโย่งจากเมืองน้ำตก

พ่อบุญนำ-แม่เพียร อุ่นหนู พลเมืองเต็มขั้นชาวจังหวัดนครนายก ได้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 7 เมื่อ 18 เม.ย. 2528 และตั้งชื่อว่า เทพไชยา ส่วนนิคเนมเรียกกันว่า เจ้าเอฟ โดยก่อนหน้าสอง สามี-ภรรยา มีบุตรแล้ว 6 คน เจ้าเอฟ จึงเป็นคนที่ 7 แล้วต่อด้วย น้องชายคนสุดท้าย ก่อน แม่เพียร ประกาศ (ปิดอู่) เลิกมีลูกอีกต่อไป

จากครอบครัวที่ ไม่รวย ไม่จน จัดอยู่ในขั้นปานกลาง ทำให้ลูกๆ ได้มีการศึกษาถ้วนหน้า แต่เจ้าลูกคนที่ 7 เบนเข็มไปเล่นสนุกเกอร์ ในขณะที่พี่ๆ หันไปเล่น ฟุตบอล-เทนนิส ซึ่งการเล่นสนุกเกอร์ในวัยเด็ก ไม่มีใครคาดคิด เจ้าหนูน้อยร่างโย่ง จะกลายเป็น คนสาธารณะที่รู้จักค่อนประเทศในฐานะ ยอดนักกีฬาสอยคิว โดยก่อนหน้านี้ต้องเดินผ่านโต๊ะสนุกเกอร์ก่อนถึงบ้านทุกวันจนจำเจ และเมื่อผันกายเข้าสู่โต๊ะสนุกเกอร์ ได้จับคิว ได้ลองสาวคิวแล้วเกิดชอบ ตั้งแต่นั้นมา เจ้าเอฟ ก็หันมาสนใจจริงจัง และเล่นทุกวัน จนกระทั่งฝีมือเข้าขั้นและถูกทางโรงเรียนเทคนิค นครนายก ส่งแข่งขันกีฬานักเรียน โดยมีชื่อ เทพไชยา อุ่นหนู นักศึกษาปี 3 แผนกช่างไฟ ถูกส่งเข้าประกวดสนุกเกอร์นักเรียน ซึ่งจัดโดยกรมพลศึกษา และกระทรวงศึกษาธิการให้การรับรอง เมื่อปี 2545 ปรากฏว่ามี นักเรียน-นักศึกษาให้ความสนใจสมัครแข่งกันมาก และสุดท้ายชื่อของ เทพไชยา อุ่นหนู ขึ้นทำเนียบแชมป์ ด้วยการเอาชนะ “ดาวรุ่ง” เมืองขอนแก่น นพพล ภิรมย์อ่อน หรือ บอล ขอนแก่น แบบสูสี 3-2 เฟรม ซึ่งต่อมาทั้งคู่ถูกเรียกเข้าศูนย์ฝึกของ กกท.

กีฬาสนุกเกอร์นักเรียน เริ่มติดขัดเนื่องจากมีการเปลี่ยนผู้นำ หรือ อธิบดีกรมพลศึกษา บางท่านเห็นชอบ แต่บางคนไม่ชอบ ดังนั้น สอยคิวนักเรียนจึงมีๆ หายๆ และได้จัดอีก 2 ครั้ง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่มีกีฬาสนุกเกอร์นักเรียนให้เห็นอีกต่อไป โดยชื่อของ เด็กดอยชาวอาข่า โยห่าน มาเยอะ หรือ จิ๋ว เชียงราย ถูกบันทึกไว้เป็นแชมป์นักเรียนคนที่ 2 และต่อด้วย เกียรติประชา โรจน์บุญถึง จากจังหวัดยโสธรเป็นคนที่ 3 และเป็น คนสุดท้าย ซึ่งไม่มีให้เห็นอีกต่อไปจนถึงทุกวันนี้

หลังจากได้แชมป์กีฬานักเรียน ชื่อของ เทพไชยา ก็เริ่มคุ้นมากขึ้น เนื่องจากทำการแข่งขันสนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย เอฟ นครนายก เข้าชิง 4 ปีรวด และเป็นได้แค่ คู่ชิง โดยแพ้แก่ อิศรา กะไชยวงศ์ (อิศ จันท์) ในปี 2545 พอปีถัดมา 2546 แพ้แก่ นิธิวรรธก์ กาญจนศรี (นัท แปดริ้ว) และ 2547 แพ้ เจษฏา โพธิ์สุการ (กอล์ฟ ศิษย์ต่าย) จนกระทั่งประสบความสำเร็จเมื่อปี 2548 ด้วยการพิชิต ชินกฤต เยาว์วรรณศิริ (ตุ่ย บางบอน) 4-2 เฟรม

หลังคว้าแชมป์เยาวชนประเทศไทย เอฟ นครนายก ถูกเรียกตัวเข้าศูนย์ฝึก และเป็นตัวแทนลงแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์เยาวชนเอเชียที่โรงแรมอเล็กซานเดอร์ ในปี 2548 และตกรอบ 16 คน โดยแพ้ "ดาวรุ่งอินเดีย" อดิตยา เมธา ซึ่งปัจจุบันเป็นมืออาชีพอันดับไล่เลี่ยกับ เอฟ นครนายก โดยรายการนี้นักสอยคิวจากมาเลเซีย โม คิน โฮ คว้าแชมป์ ด้วยการพิชิตนักสนุกเกอร์เยาวชนไทยที่เล่นได้ดีที่สุดในช่วงนั้นคือ กอบกิจ พลาจิณ (ชิม ศิษย์ต่าย) จากนั้น เอฟ นครนายก ก็ขึ้นชั้นติดทีมชาติ (ชุดใหญ่) ไปชิงแชมป์เอเชีย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังติดทีมชาติลงแข่งขัน ซีเกมส์ ปี 2550 ที่จังหวัดนครราชสีมา และสามารถเข้าชิงชนะเลิศกับ ไพฑูรย์ ผลบุญ (ตัวเล็ก สำโรง) ในสนุกเกอร์ 6 แดง แต่แพ้ในรอบชิง 6-4 โดยหนนั้นชื่อของ ไพฑูรย์ ผลบุญ หอมหวน เพราะลงแข่ง 3 ประเภท เดี่ยว-คู่-ทีม สามารถคว้าได้ถึง 3 เหรียญทอง (ได้เงินอัดฉีดบานตะไท)

เอฟ นครนายก ติดทีมชาติอีกหนในการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์สมัครเล่นโลกที่ประเทศออสเตรีย เมื่อปี 2551 โดยมีแข่งขันมากกว่า 40 ประเทศและ เอฟ ต้องมาตัดเชือกกับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ในรอบ 16 คน ซึ่งหนนั้น เอฟ เอาชนะ ต๋อง ไปแบบเฉียดฉิว ผ่านเข้ารอบ 8 รอบ 4 จนกระทั่งคว้าแชมป์สมัครเล่นโลกในที่สุด

จากนั้นจึงเบนเข็มสู่วงการอาชีพในปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่วงการสนุกเกอร์โลกกำลังตกต่ำ เนื่องจากผู้นำไร้ความสามารถ จนทำให้รายการ แรงกิ้งโลก ลดฮวบฮาบจาก 10 เหลือเพียง 6 รายการ มีมืออาชีพเหลือเพียง 96 คน แถมแต่ละรายการ เงินรางวัลน้อยมาก จนมืออาชีพต่างบ่น และมีหลายคนที่ประกาศแขวนคิว และก่อนแข่งอาชีพ เอฟ มีโอกาสเดินทางล่วงหน้าไปอยู่อังกฤษก่อนแข่ง 2 เดือน ได้ลงแข่งขันตระเวนหาประสบการณ์ ปรากฏว่าไปได้แชมป์ PIOS ในคลับใหญ่ของอังกฤษ โดยมีนักสนุกเกอร์ทั้งสมัครเล่นและอาชีพลงแข่งขันกว่า 100 คน การคว้าแชมป์หนนี้ เอฟ ได้รับเงินรางวัล 3,000 ปอนด์ หรือกว่า 150,000 บาท ถือว่าไม่น้อยสำหรับมือโปรหน้าใหม่ และถูกจับตาจากนักสนุกเกอร์ทั่วไป เพราะหากใครเจอ เอฟ จะประมาทฝีมือเด็กไทยไม่ได้ แต่เนื่องจากรายการแรงกิ้งโลกหนนั้นมี 6 รายการ ทำให้คะแนนสะสมไม่ดีมากนัก เมื่อครบ 2 ปี อยู่ในลำดับที่ 72 จึงต้องถูกเตะออก เพราะผู้ที่ติด 1-64 เท่านั้นจึงได้อยู่ต่อ

กลับมาเลียแผลอยู่ในไทยกว่า 2 ปี จนกระทั่งได้เป็นแชมป์ประเทศไทย ในการแข่งขันสนุกเกอร์ แสงโสม ไทยแลนด์ แรงกิ้ง สนามสุดท้ายที่จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยการพิชิต สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง (ขวัญ สระบุรี) จึงได้รับการคัดเลือกเป็นมือ ไวลด์การ์ด ไปแข่งที่อังกฤษ เนื่องจากเดิมทีเป็น โควตาของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย แต่เนื่องจาก ต๋อง ไปได้แชมป์เอเชีย จึงได้สิทธิ์เล่นอาชีพโดยอัตโนมัติ ดังนั้น เอฟ จึงโชคดีได้สิทธิ์แทน การไปเล่นอาชีพหนนี้มีทั้ง สมหวังและผิดหวัง ควบคู่กันไป ผิดหวัง ก็เพราะถูกสมาคมสนุกเกอร์โลก ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามคำร้องของ บ่อนพนัน กรณีแพ้ให้ “เสือเฒ่า” สตีฟ เดวิส 4-0 เฟรม ในการแข่งขันสนุกเกอร์พีทีซี.

ซึ่งถือเป็นข่าวอื้อฉาวน้อยครั้งนัก แต่หนนี้รุนแรง เนื่องจากมี นักพนัน ทุ่มแทง สตีฟ เดวิส แบบไม่ยั้งและแทงแบบไฮโล คือ เปิดถ้วยแทง ทำให้โต๊ะพนันตั้งข้อสงสัยจะมีการ "ล้มคิว" จึงร้องเรียน สมาคมสนุกเกอร์โลกให้ช่วยจับตา แต่ถึงกระนั้น หวยก็ออก ตรงเผงคือ เอฟ แพ้ สตีฟ 0-4 เฟรม ปรากฏว่า บ่อนพนัน ในอังกฤษไม่ยอมจ่าย และขอให้ สนุกเกอร์โลก ช่วยสอบสวนหาความจริง ในขณะที่บ่อนใน มาเก๊า-สิงคโปร์-ฮ่องกง และ จีน ก็สับสน บางแห่งยอมจ่าย แต่บางแห่งรอผลการสอบสวน หากสมาคมสนุกเกอร์โลกสอบแล้วไม่มีมูลความผิด จึงจะยอมจ่ายภายหลัง โดยการสอบครั้งนั้น สอบทั้ง เอฟ และ สตีฟ คู่แข่งขัน โดย สตีฟ ให้เหตุผลว่า เขาก็รู้สึกงงเหมือนกันที่เห็นฟอร์ม เทพไชยา เล่นผิดไปมาก ไม่รู้ว่าสาเหตุเป็นเช่นไร? ในขณะที่ เอฟ ยืนยันตัวเองเล่นอย่างเต็มที่ ส่วนหน้าเสื่อมีคนเล่นพนัน สตีฟ อาจเนื่องมาจากตัวเองซ้อมไม่ดี จึงมีข่าวแพร่ออกไป

ส่วนในด้านการประสบความสำเร็จก็คือ เอฟ นครนายก สามารถ "ล้มช้าง" รอนนี่ โอซุลลิแวน ในการแข่งขันสนุกเกอร์รายการ เยอรมัน โอเพ่น ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 64 คนโดยชนะ 5-4 เฟรม สร้างความงุนงงแก่คนทั่วโลก เพราะมีนักสนุกเกอร์น้อยรายที่สามารถเอาชนะ แชมป์โลก 5 สมัยอย่าง รอนนี่ นอกจากนี้ในรายการต่อมา ยังเอาชนะอันดับ 7 ของโลก สตีเฟ่น แม็กไกวร์ ในสนุกเกอร์ เวลช์ โอเพ่น เมื่อเดือน ก.พ. ในรอบ 64 คน 5-4 เฟรม ทะลุเข้ารอบ 32 เอาชนะ แอนดริว ฮิกกินสัน แบบขาดกระจุย 5-1 เฟรม ก่อนจอดป้ายด้วยการพ่าย อดีตแชมป์โลก แกรม ด๊อตต์ 2-5 เฟรม ได้เงินรางวัลปลอบใจหลายแสนบาท

และปลายเดือน มี.ค. เอฟ นครนายก ก็ลงดวลคิวรายการไชน่า โอเพ่น ก่อนถึงรายการสำคัญชิงแชมป์โลกกลาง เม.ย. ปีนี้ ซึ่งถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากรายการนี้นอกจากคะแนนสะสมจะสูงมาก ยังมีเงินรางวัลสูงตามด้วย

แต่อย่างไรก็ตามค่อนข้างจะชัดเจนว่า ในฤดูกาลหน้ามี 4 คิวไทยได้เล่นอาชีพแน่นอนคือ นพพล แสงคำ กับ เช็ค นครนายก ซึ่งได้แข่งไวลด์การ์ดเป็นปีที่ 2 ส่วนอีก 2 คือ เดชาวัต พุ่มแจ้ง (แจ๊ค สระบุรี) และ เอฟ นครนายก จะติดทำเนียบแน่นอน เพราะฤดูกาลใหม่จะมีการคิดคะแนนจาก การทำเงินรางวัลในปีที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่า แจ๊ค สระบุรี ทำได้สูงอันดับ 50 และ เอฟ มาลำดับที่ 57 นั่นหมายถึงต่ำกว่า 64 ตามกฎระเบียบของสมาคมสนุกเกอร์โลก จะเป็นห่วงก็ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เพราะรายการสุดท้ายชิงแชมป์โลก หาก 4 รอบแรกเอาชนะไม่ได้ นั่นหมายถึงฤดูกาลหน้าจะไม่มีชื่อ เจมส์ วัฒนา จึงต้องมาช่วยกันลุ้นให้มีมืออาชีพไปจากเมืองไทยให้มากๆ

ปัจจุบัน เอฟ นครนายก มีลูกชายที่น่ารัก 2 คน วัย 1 ขวบ 11 เดือน และอีกคนวัย 2 เดือนกับ "น้องนิก" เนตรอนงค์ วุฒิทรัพย์ทวีสุข สาวงามเมืองสมุทรสงคราม โดยมีบ้านราคาเฉียด 5 ล้านในหมู่บ้าน ECO SPACE ย่านถนนนวมินทร์ โดยอยู่ พ่อ-แม่-ลูก 4 ชีวิต อย่างมีความสุขและน่าอิจฉา ซึ่งแต่ละวัน เอฟ จะอยู่บ้านช่วยภรรยาเลี้ยงลูก โดยการช่วยอาบน้ำและทำอาหารเป็นประจำ

มาลุ้นรายการสำคัญชิงแชมป์โลก เอฟ นครนายก จะฝ่าด่านอรหันต์ถึงรอบไหน โดย คนไทย ขอเป็นแรงใจให้ประสบความสำเร็จ สำหรับแชมป์โลกคนสุดท้ายที่ 7 แจ๊ค สระบุรี จะเริ่มในฉบับพฤษภาคม ซึ่งขอบอกล่วงหน้าแชมป์โลกรายนี้ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เนื่องจากมีวันนี้

มีมาได้อย่างไรเจ้าตัวก็งุนงงถึงทุกวันนี้

คิวทอง