“อิศ จันท์” ขึ้นชั้น แชมป์ประเทศไทยอันดับ 2 ตลอดกาล

11 ต.ค. 59

ปิดฉากแรงกิ้งปีนี้ไปอย่างเร้าใจ!

การแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนน ที่ได้ “แสงโสม” กลับมาเป็นสปอนเซอร์หลัก ร่วมกับสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ปิดซีซั่นลงไปแล้ว

การดวลคิวรายการที่ 7 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของซีซั่นนี้ “แสงโสม จันทบุรี คัพ 2016” หรือรายการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงเงินรางวัลรวม 1,350,000 บาท ที่โรงแรมมณีจันท์ รีสอร์ท จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 19-24 กันยายนที่ผ่านมา

ผู้เป็นแชมป์คือ “อิศ จันท์” อิศรา กะไชยวงษ์

ก่อนแข่ง “อิศ จันท์” ถือว่ากลับมาร้อนแรง เมื่อได้แชมป์แสงโสม ลพบุรี คัพ รายการที่ 6 ของปีนี้ และมาในฐานะ “หนึ่งในตัวเต็ง” ที่จะคว้าแชมป์พร้อมกับดีกรีอื่นๆ มากมาย

อาทิ แชมป์ประเทศไทย 3 สมัย, แชมป์ 6 แดงไทย 2 สมัย และแชมป์เอเชีย 2 สมัย แถมยังเคยเล่นในระดับอาชีพโลก เคยติดอันดับที่ 86

เส้นทางสู่แชมป์ครั้งนี้ถือว่า “สายโหด” เพราะรวม “เสือสิงห์กระทิงแรด” เอาไว้ทั้งหมด โดยเริ่มจากคว่ำ “หยิก สำโรง” พิสิษฐ์ จันทร์ศรี แชมป์อาวุโสโลก 3 สมัยซ้อนมาได้ 4-1 ในรอบ 32 คน ต่อด้วยการคว่ำ “เช็ก นครนายก” รัชโยธิน โยธารักษ์ อดีตมือโปร 4-2 ในรอบ 16 คน จากนั้นในรอบ 8 คนก็ทุบ “กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ อดีตแชมป์เอเชีย และเยาวชนเอเชีย มาได้ 4-2 และมาบด “นุ้ก สากล” กฤษณัส เลิศสัตยาทร 4-3 ทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศ

พบกับ “แมน นครปฐม” ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ แชมป์ประเทศไทย 1 สมัย, แชมป์เยาวชนโลก 1 สมัย และแชมป์เยาวชนเอเชีย 1 สมัย ที่เคยได้แชมป์ประเทศไทยที่สนามแห่งนี้

ปรากฏว่า ทั้งคู่สู้กันสูสีเสมอกัน 3-3 ต้องตัดสินเฟรมสุดท้าย

แมน แทงขึ้นหน้า 57 แต้ม แทงกันเอาขาวไว้ชิ่งล่าง อิศ เคาะแดงลงหลุมไกลก่อนกินดำ แต่ขาววิ่งเข้ากลุ่มแดง ต้องแทงกันไปหลังเขียว แมน แก้หนแรกไม่โดน แต่หนสองไม่พลาด จากนั้นกันไปคนละ 2 ไม้ อิศ ได้โอกาสออกไปแทง 52 แต้มพลิกนำ 60-57 ก่อนวางสนุ้กเขียวไว้หลังดำ แมน ออกมาแก้สนุ้ก แต่มาตั้งให้ อิศ เช็ดลงหลุม ก่อนชนะไปได้ 4-3 เฟรม สกอร์ 108(72)-0, 26-102(71), 63(59)-34, 0-73, 66(51)-33, 28-82 และ 75-57

จากชัยชนะครั้งนี้ให้ อิศ จันท์ เป็นแชมป์ประเทศไทย สมัยที่ 4 พร้อมรับเงินไป 200,000 บาท

“การได้แชมป์ครั้งนี้ ผมโชคดีที่เมื่อ 3 เดือนก่อน ผมได้ไม้คิวอันใหม่นี้จาก พี่โอ มีนบุรี หลังจากก่อนหน้านี้คิวคู่ใจของผมมันมีปัญหา ทำให้หามาใหม่อีก 4-5 อัน แต่ก็มาถูกใจกับไม้อันนี้ และแทงจนได้แชมป์รายการที่ลพบุรี ทำให้ฟิลลิ่งของผมกลับมาเหมือนเดิม และมีระบบการฝึกซ้อมที่ดีขึ้น จนกระทั่งกลับมาได้แชมป์ประเทศไทย ที่ถือว่าการได้แชมป์หนนี้ ตื่นเต้นกว่าเมื่อตอนได้แชมป์เอเชีย ที่นี่เมื่อ 5 ปีก่อน เพราะหนนี้สภาพร่างกายผมไม่ได้พร้อมเหมือนกับตอนนั้น ทำให้ผมดีใจและภูมิใจอย่างที่สุด”

เงินรางวัลคือสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดก็คือ ชัยชนะในถิ่นตัวเอง เหมือนกับที่เคยได้แชมป์เอเชียที่นี่ พร้อมกับขึ้นเป็นนักสอยคิวที่ได้แชมป์ประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 2 เทียบเท่าปรมาจารย์อย่าง “กิ๊ด นครสวรรค์” วิเชียร แสงทอง และตามหลัง “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล เพียงแค่สมัยเดียวเท่านั้น

“การเล่นในบ้านของสนุกเกอร์ถือว่าแบกมากๆ แบกความกดดันอย่างแท้จริง เนื่องจากว่า ทุกคนหวังเอาไว้ว่า เราเป็นเด็กท้องถิ่น เค้าก็อยากให้เราได้แชมป์ ยิ่งรายการนี้มือโปรชั้นดีมีมาเล่นอย่างมากมาย ยิ่งทำให้โอกาสของผมยากมาก แต่ผมก็มุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้ได้ และผมก็ทำได้ แน่นอนว่าผมอยากจะมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แม้ว่าอายุผมจะมาถึงวัย 33 ปี แต่ผมอยากจะกลับไปเหยียบถิ่นอังกฤษ เพื่อเทิร์นโปรอีกครั้ง ซึ่งการได้แชมป์ครั้งนี้ของผมถือเป็นใบเบิกทางชั้นดี ที่จะได้ไปสู้ชิงแชมป์โลก และชิงแชมป์เอเชีย หากผมได้แชมป์อีก ผมก็จะได้ไปเทิร์นโปร”

บี แหลมสิงห์ รายงาน

 (ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 407)