ที่สุดแห่งถ้วยพระราชทาน...King of Kings

14 พ.ย. 59

เมื่อปี พ.ศ. 2539 หรือ ค.ศ. 1996 เมื่อ 20 ปีที่แล้ว .....

เป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทย เนื่องจากเป็นปีเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี

ในปีนั้น ประเทศไทยได้รับเกียรติจากสมาคมสนุกเกอร์โลก ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก ในประเภททีม

ทำให้สมาคมสนุกเกอร์แห่งประเทศไทย (ปัจจุบัน คือสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย) โดย นายสินธุ พูนศิริวงศ์ ในฐานะนายกสมาคมฯ ได้หารือกับคณะกรรมการบริหารของสมาคมฯ และคณะกรรมการบริหารสนุกเกอร์โลก เพื่อจัดการแข่งขันให้สมพระเกียรติของพระองค์

พร้อมกับขอพระราชทานถ้วยรางวัลประจำการแข่งขัน

นายสินธุ กล่าวว่า จากการที่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ได้เห็นการยกย่อง ในหลวงของเรา โดยใช้คำว่า King of Kings” ซึ่งถือเป็นคำที่สูงสุด เป็น “กษัตริย์ที่ยิ่งกว่ากษัตริย์”

สูงสุดของการยกย่องสมพระเกียรติของพระองค์ท่านอย่างแท้จริง..........

จึงมีแนวคิดที่จะใช้คำว่า King of Kings” เป็นชื่อของถ้วยรางวัล จึงปรึกษากับ สมาคมสนุกเกอร์โลก และได้รับการตอบรับที่เห็นไปในทิศทางเดียวกัน

ดังนั้น จึงเริ่มต้นการแข่งขันและคิดค้นในเรื่องของ “ถ้วยรางวัล” ครั้งนั้นทันที

 

 

ถ้วยพระราชทานฯ นี้ ได้รับการออกแบบ และหล่อขึ้นมาเป็นพิเศษด้วยทองคำแท้ๆ โดยนักออกแบบอัญมณีในราชสำนักแห่งสหราชอาณาจักร (United Kingdom)

ด้วยตั้งใจให้ถ้วยนี้มีความสูง 50 เซ็นติเมตร

เท่ากับปีที่พระองค์ทรงครองราชย์

ยังผลให้ ถ้วยพระราชทานฯ นี้ มีมูลค่าในสมัยนั้นสูงถึง 24,000 ปอนด์ หรือกว่า 1,200,000 บาท

การแข่งขันใช้ชื่อเป็นทางการว่า Castrol-Honda World Cup 1996” หรือ สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก ประเภททีม มีขึ้นระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต ประตูน้ำ

เป็นครั้งแรกที่มีการคัดเลือกทีมชาติจากทั่วโลก ให้มาแข่งขันในรอบสุดท้ายที่ประเทศไทย

การจัดการแข่งขันครั้งนั้นยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ มีทั้งหมด 20 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน โดยใช้งบประมาณในการจัดกว่า 50 ล้านบาท

ประเทศไทยที่ตอนนั้น กีฬาสนุกเกอร์ของเรากำลังบูมสุดขีด มี 3 นักสนุกเกอร์ดังอยู่ในทีม ประกอบด้วย “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา (สมัยนั้น) ภู่โอบอ้อม, “หนู ดาวดึงส์” นพดล นภจร และ “ต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์

ปรากฏว่า ตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของ ทีมชาติสกอตแลนด์ ที่มีนักสนุกเกอร์ชั้นนำคือ “มัจจุราชผมทอง” สตีเฟ่น เฮนดรี้, “พ่อมดวิสกี้” จอห์น ฮิกกินส์ และ “จอมละเอียด” อลัน แม็คมานัส ที่รอบรองชนะเลิศ

เอาชนะทีมไทยไป 10 – 5 เฟรม และในนัดชิงชนะเลิศ คว้าชัยเหนือ ทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ไปได้ 10 – 7 เฟรม

จากนั้นในปี พ.ศ. 2554 ได้มีการจัดการแข่งขันนี้อีกครั้ง ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัล เวิลด์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ภายใต้ชื่อ “พีทีที-อีแกต สนุกเกอร์ เวิลด์คัพ 2011” ระหว่างวันที่ 11 – 17 กรกฎาคม 2554 ที่ใช้งบประมาณจัดสูงถึง 70 ล้านบาท

ครั้งนี้มี 19 ชาติ 20 ทีมลงแข่งขัน และเป็นทีมชาติจีน ที่มี ติง จุ้นฮุย กับ เหลียง เวนโบ คว้าแชมป์ด้วยการชนะ ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ 4 – 2 เฟรม

ภายหลังจากจบการดวลคมคิวครั้งนี้ มีการประชุมกันว่า ต้องการจัดการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานนี้ 2 ปีต่อครั้ง แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่มหาศาลทำให้ไม่สามารถจัดได้ เนื่องจากต้องใช้เงินต่อรายการมหาศาล

ทำให้ครั้งล่าสุดที่มีการจัดการแข่งขันรายการนี้ เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว พ.ศ. 2558 หรือ ค.ศ. 2015 ที่เมืองหวู่ซี ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 – 21 มิถุนายน ปรากฏว่า ทีมชาติจีน ชุด บี ได้แชมป์ ด้วยการชนะ ทีมชาติสกอตแลนด์ 4 – 1 เฟรม

ปัจจุบัน ถ้วยใบนี้ได้รับการรักษาเป็นอย่างดี อยู่ในตู้เซฟของ เวิลด์ สนุกเกอร์ ณ ประเทศอังกฤษ และเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย ที่ถ้วยรางวัลที่สุดของที่สุด

คือถ้วยพระราชทานจากในหลวงของปวงไทย “ราชาของราชัน”

หนึ่งเดียวในโลก………….King of Kings

 

บี แหลมสิงห์

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 408)