ป้อมยาม หมู่โฮม - ลืมได้ไง?

6 ก.ค. 60

ลืมได้ไง?

เดือนที่ผ่านมา เกิดเรื่องรุ่มร่ามในวงการกีฬาไทย

“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล อุตส่าห์ตีไกลไปจนถึงมือ 1 กอล์ฟโลก แต่อยู่ ๆ ต้องตกลงมาที่ 2 เพราะ แอลพีจีเอ ผิดพลาดจนเกินอภัย

ลืมไปใส่คะแนนผิด

ต้องรออีกอาทิตย์จนกว่าจะได้ขึ้นบนลีดเดอร์บอร์ดสมใจ

ให้หลังได้แค่อาทิตย์เดียว สมาคมสอยคิวโลก ทำเรื่องรุ่มร่ามไม่แพ้กันเมื่อ “ลืมใส่ชื่อ” เจมส์ต๋อง ลงแข่งขันในฐานะมือไวลด์การ์ด

ใครคิดว่าฝรั่งเป็นเทวดา นี่กรุณาคิดใหม่

ลืมน่ะลืมได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่กับเหตุการณ์นี้ถือว่า เบ๊อะบ๊ะ มาก ๆ

เพราะมันเป็นเรื่องตลกร้าย สไมล์บัฟฟาโล่

 

คนละ “นุ้ก”

วงการสนุกเกอร์ไทย ไม่น่าเชื่อว่า จะมีนักสนุกเกอร์ชื่อตรงกันถึง 3 คน และอยู่ในวงการในเวลาไล่เลี่ยกัน

นุ้ก จันท์, นุ้ก คอนหวัน และ นุ้ก สากล

คนแรก ยุทธภพ ภาคพจน์ เริ่มต้นดังก่อนในเวลาไล่เลี่ยกันกับ คนที่สอง ปรมินทร์ ด่านจิระกุล

ส่วนคนหลังมาช้าแต่แซงผ่าน ได้มีโอกาสไปบรรเลงเพลงคิวระดับโลก นั่นคือ กฤษณัส เลิศสัตยาทร

นุ้กหลัง หรือ นุ้ก สากล โกยอ้าวกวาดแชมป์ในประเทศ เรื่อยไปจนถึงแชมป์เอเชีย ด้วยสไตล์เล็กสั้นขยันซอย เดินทางดันแทงแรง แต่ช่วงหลังดูเหมือนกับไฟอ่อนลงไป นับตั้งแต่ได้แชมป์เอเชีย

ขณะที่สองนุ้กแรก เหมือนกับตกหลุมอากาศ กว่าจะได้แชมป์แรงกิ้งได้ ต้องรอกันเกือบจะแถกเหงือก

ไอ้ปากแดง-นุ้ก คอนหวัน ได้แชมป์แรงกิ้งแรกในชีวิต ก็คือ หัวหิน ปีกลาย จนมาในปีนี้ถึงคิวของ ไอ้หนุ่มตาโศกจากจันทบูรณ์

นุ้ก จันท์ ได้แชมป์ด้วยการหักคิวเจมส์ต๋อง และเส้นทางกว่าจะถึงก็คว่ำ เอฟ นครนายก มาได้อีกต่างหาก

ได้แชมป์ที่รอคอยได้สำเร็จ คนร่วมยินดีมากมาย แต่ส่วนใหญ่ Line เจ้ากรรมดันไปดังที่เครื่องของไอ้ปากแดง

“ยินดีด้วยได้แชมป์” ... “เลี้ยงฉลองที่ไหน” ... “จัดมื้อใหญ่เลยนะเมิง” มากมายประดามี

ไอ้ปากแดง เดินเซ็งมาหน้าป้อม เล่าความเฟอะฟะ ก่อนจะบอกว่า สบายใจผมตอบไปแล้วว่า ขอบจายยยยย

“นี่กูคอนหวัน คนที่ได้แชมป์อ่ะเค้าอยู่จันทบุรี”

 

“คิงส์คัพ” นอกประเทศ

ศึกชิงแชมป์ทีมโลก ชิงถ้วยในหลวง รัชกาลที่ 9 จะแข่งขันครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ เริ่มวันที่ 3 กรกฎาคมนี้

หลายคนถามไถ่ ทำไมถ้วยพระราชทานไม่ได้จัดในเมืองไทย เพราะนี่ไม่ใช่แค่ถ้วย “คิงส์คัพ” แต่เป็นถึงระดับ “คิง ออฟ คิงส์”

เหตุเพราะเศรษฐกิจตกสะเก็ด ไร้ผู้สนับสนุน และงบประมาณบานปลายทะลุหลายสิบล้านบาท เลยไม่สามารถจัดได้

แต่ถ้าภาครัฐให้ความสนใจจริง ๆ ตามที่ “ปากว่าไว้” อันนี้น่าสนใจ เพราะจัดจริง ๆ ประมาณ 70 ล้านบาท

นักกีฬาไทยในฐานะเจ้าภาพ ลงดวลคิวได้ 2 ทีม ทีมละ 2 คน และได้ลงเล่นในฐานะทีมชาติไทย

ยิ่งเดี๋ยวนี้หลายช่องต้องการคอนเทนท์ คุยกันดี ๆ เสียไม่กี่ตังค์ เผลอ ๆ เข้าช่วยถ่ายให้ฟรีอีกต่างหาก เพียงแต่ว่าของอันนี้ต้องได้ความจริงใจจริง ๆ จากภาครัฐ มาช่วยเหลือ

ยกตัวอย่าง โมโตจีพี นี่โคตรจะพีค ทะลุไปเป็นหลักพันล้านยังจัดได้หน้าตาเฉย

หรือว่าท่านผู้บริหารชอบ “เจ้าความเร็ว” เพราะสนุกเกอร์อาจเป็นกีฬาชิง “เจ้าความช้า”

แต่อย่าลืมว่า ถ้วยพระราชทาน ไปแข่งนอกประเทศไทย

อ้ายเณร ขอเอาหัวพุ่งชนป้อมเพราะงงยิ่งกว่า นายกฯ ไปยุ่งอะไรกับ ลำไย ไหทองคำ อีกนะเนี่ย

แชร์ให้ชัวร์

สมัยนี้อยากเป็นคนดังไม่ยาก

แก้ผ้า เปิดเต้า เต้นเด้าแรง เดี๋ยวเดียวก็ดังได้ ยิ่งถ้าผู้ใหญ่บ้าจี้ไปให้ความสำคัญ แป๊ปเดียวเป็นสิบเป็นร้อยล้านวิว

คำว่า “เนตไอดอล” เป็นกันง่ายจนน่าตกใจในสังคมไทยยุค “แชร์ก่อนชัวร์”

และไม่รู้ว่า “ชั่วที่แชร์”

ขนาดฆาตรกรโรคจิตฆ่าหั่นศพ ยังยกให้เป็น “เนตไอดอล” บ้าง “สวยสังหาร” บ้าง “น้องเปรี้ยว หั่นสวยดุ” บ้าง

จริง ๆ สมัยก่อนถ้าพาดหัวข่าวเค้าจะเรียกว่า “อีเปรี้ยว”

ประเทศไทยสมัยสังคมเป็นสังฆัง ไม่ว่าจะไปไหนเจอแต่คนก้มหน้า ไม่รู้จะดู “ห้า” อะไรกันนักหนาในมือถือตัวเอง

วอนฝากไปช่วยแชร์ และวานผ่าน “สื่อหลัก” บางราย ที่ทำงานคล้ายเป็น “สื่อโหล” ทำให้ได้ NGO โดนสังคมอีกฟากฝั่งที่เป็นตัวกรองสับด่าว่า ไร้ค่าหมดราคาสื่อมวลชน

บนโลกปัจจุบันอย่างที่ว่าไว้ บางทีแค่ปลายนิ้วสัมผัส ก็ฆ่าคนตายผ่านทางโซเชียลออนไลน์ ฝากไว้ให้ระมัดระวังและต้องร่วมกันสอดส่องดูแล

อย่ามั่ว ไม่ชัวร์อย่าแชร์

อย่าคิดว่า “เฮียแม้” เป็น “เขาทราย”

อย่าคิดว่า “ไวน์” เป็น “น้ำเปล่า”

อย่าคิดว่า “เหล้า” เป็น “ยาชูกำลัง”

อย่าคิดว่า “หลัง” ดีกว่า “หน้า”

ดังนั้นได้หน้าอย่าลืมหลัง................

 

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่416)