ป้อมยาม หมู่โฮม

4 ส.ค. 60

ซีเกมส์มาแล้ว

คนเล่นมุก “ซีเกมส์” คือ “ซีโกง” มาทุกยุคสมัย แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องเชียร์

ซีเกมส์กลายเป็นเกมที่เจ้าภาพต้องการกำชัย ต้องการขึ้นสู่ยอดเสาในฐานะเจ้าเหรียญทอง หนนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีที่ มาเลเซีย กลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครา

ย้อนกลับไปครั้งกระโน้น ปี  2001 ทัพสอยคิวทำได้ถึง 5 เหรียญทอง มากที่สุดตั้งแต่เคยไปแข่งมา เป็นสังเวียนแจ้งเกิดของ 2 จอมคิวจากเชียงใหม่ นั่นก็คือ เบิ้ม-สมพร กับ แจ๊ค-สุพจน์

เบิ้ม ลงเล่นในฐานะมือ 1 สนุกเกอร์ มีดีกรีแชมป์ประเทศไทยพะไปด้วย เข้าชิงฯ กับ อึ้ง อัน เส็ง นักแทงเจ้าถิ่น ที่เล่นในบ้านแท้ ๆ แต่ อาเส็ง แทงได้แบบไม่เคร็ง และไม่เกร็งแม้แต่น้อย

ขึ้นนำ 2-0 แล้วกำลังจะเก็บเฟรมตัดสิน ขอสีเดียวเท่านั้น อาเส็งจะครื้นเครงกับเหรียญทอง

ปรากฏ มีเสียงเพลงชาติไทยดังขึ้นระหว่าง อาเส็ง กำลังจรดคิว ทำเอา อาเส็งเซ็งเป็ด แล้วแทงพลาด จากนั้นเหมือนเป็นคนละคน คิวที่เคยใช้แทง

กลายเป็น ชะแลง ที่ใช้งัด

สุดท้าย เบิ้ม ชนะไป 3-2 ได้เหรียญทองแบบยิ่งกว่าผีหลอก

ม่วนแท้เมื่อแลเห็นเหรียญทองประเภททีม ที่ตอนนั้นแข่งแบบปะทะกันไปเลย 3 คู่ แจ๊ค ที่เป็นเด็กสุด เพิ่งสดจากการซิวแชมป์เยาวชนเอเชีย พอแทงชนะ ก็ยืนจังก้าประกาศชัยชนะด้วยการชูจักกะแร้ขึ้นมาด้วยมือขวาสามัคคี

หวังว่าคราวนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่ทำให้หลายคนแจ้งเกิด เพื่อคว้าเหรียญทองมาให้ประเทศไทย

ถ้าทำได้ไม่ต้องไปหาใคร

ให้ไปเบิกที่ “ผู้จัดการยอด” ได้เลย

 

แชมป์ของหนู

คือต้องบอกว่า “หนู” ในที่นี้ไม่ใช่ “หนู” ที่เป็นเด็ก ๆ แต่เป็น “อดีตเด็ก” ต่างหาก

หนู หรือ มิกกี้เมาส์ ดาวดึงส์ นักสอยคิวรุ่นใหญ่ ที่มือเปล่าไปมือเปล่ามา นานถึง 8 ปี สุดท้ายถึงฝันด้วยการเป็นแชมป์ทรู-แสงโสมแรงกิ้ง ที่ระนอง

ในการดวลคิวสุดเร้าใจ ที่หลายคนเรียกว่า “วันหมากเดือด”

ปกติเราจะรู้จัก “วันแดงเดือด” เมื่อไหร่ที่ ลิเวอร์พูล เจอ แมนฯ ยู แต่ที่ต้องเดือดร้อนหมากพลู ก็เพราะ หนู เจอคู่ต่อกรที่เก๋าแลแก่กว่า ชื่อว่า “รมย์ สุรินทร์”

สองคนรวมกันร้อยกว่าปี ปกติเค้าแทงนัดชิงฯ กันไม่เกิน 2 ชั่วโมง

นี่ล่อกันไป 3 ชั่วโมง 37 นาที

งานนี้ หนู ดาวดึงส์ ดีใจที่สุด กับการคว้าแชมป์ที่รอคอย แต่มีคนที่ดีใจกว่ายังมี

ก็ “เจ๊ว์หลิน” ไง....จะใครล่ะ

 

เดือนแห่งรุ่นใหญ่

เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจาก หนู-นภดล จะเดินทางถึง “ดาวดึงส์” เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี

จาก ระนอง แล้วย่องมาที่ ลพบุรี ก็ยังเป็นคิวของ “รุ่นใหญ่” ที่ได้แชมป์อีกที

พูดถึงรุ่นใหญ่หลายคนชอบ นิ่งเงียบสุขุม ไม่ร้องไห้งอแง ไม่โยเยกินไอติมให้เสียเวลา ฮี่ฮี่

ศึกที่เมืองละโว้ แชมป์กลายเป็นของ “ตัวเล็ก สำโรง” ไพฑูรย์ ผลบุญ ที่ช่วงนี้เนื้อตัวดี เก็บตัวกับทีมซีเกมส์-อินดอร์เกมส์ แถมกลางค่ำกลางคืนก็ไม่ไปไหน

พระอาทิตย์ตกดินเมื่อไหร่ ก็สวดมนต์ท่องขึ้นใจตั้งสมาธิ อิติปิโสภัคควา

นอนแต่หัวค่ำ เย็นย่ำก็สวดมนต์ จนกระทั่งเป็นแชมป์

สะบัดบ็อบแทงสุดมันส์ ขย้ำ “นุ้ก สากล” ที่อุตส่าห์แทงดีไม่มีสาเก ไปได้ขาดลอย ครองแชมป์ดิวิชั่น 1 รายการที่ 5 ได้สำเร็จ

ปกติคนไหนได้แชมป์ก็จะยกชัยให้คนโน้นบ้างคนนี้บ้าง ให้ครอบครัวบ้าง ให้กองเชียร์บ้าง แต่ “ตัวเล็ก สำโรง” มนุษย์เจ้าสำราญตอบอย่างสบายหัวใจ

“ผมขอยกแชมป์นี้ให้ตัวผมเอง”

เยี่ยมเบยยยยยยยยยยยยยยย

คุณพ่อดีเด่น

สอยคิวทรู-แสงโสม ดิวิชั่น 1 รายการที่ 5 ที่เมืองลิง ลพบุรี หรือเรียกติดปากว่า “ละโว้คัพ” เป็นหนแรกที่พ่อกับลูกเข้ารอบด้วย

สมชาย กาวสำราญ กับ พรปิยะ กาวสำราญ

ย้ำกันอีกที สมชายคนนี้คนละคนกับ พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.)

ท่านตำรวจดังคนนั้นคือ “บิ๊กเกา” ส่วนของชาวคิวเราคือ “บิ๊กกาว” นะฮะ

สมชายผู้พ่อปัจจุบันวัย 50 ปี พรปิยะ วัย 19 ปี อยู่บนเวทีเดียวกัน แล้วถ้าพ่อเจอกับลูกล่ะ อ๋อ..... “ลูกชนะแน่นอนครับ” แกบอก

แต่ยังไม่ทันได้เจอ พรปิยะ คิวหักแพ้ไปก่อน ทำให้ คุณพ่อตัดสินใจแพ้ตาม

รับไปเลยดีกว่าคุณพ่อดีเด่นแห่งปี มาด้วยกันกลับด้วยกันดีกว่า

ปล. พ่อรักลูกนะ

 

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 417)