“บิ๊ก สระบุรี” แชมป์ประเทศไทยครั้งนี้เพื่อแม่

4 ก.ย. 60

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 หรือวันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

“บิ๊ก สระบุรี” อรรถสิทธิ์ มหิทธิ กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ หลังจากคว้าแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก หรือ IBSF World Championship 2007 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ในการดวลคิวที่โรงแรมสีมาธานี จังหวัดนครราชสีมา

บิ๊ก ออกคิวเชือด “กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ

มาถึงวันนี้ 10 ปีผ่านไป จากปี 2007 มาถึง 2017 “บิ๊ก สระบุรี” ประสบความสำเร็จ กับแชมป์ที่รอคอยมาโดยตลอด

นั่นก็คือตำแหน่งแชมป์ประเทศไทย

ในการดวลคิวสนุกเกอร์ ดิวิชั่น 1 รายการที่ 6 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายประจำปี 2560 “ทรู-แสงโสม ชลบุรีคัพ” ซึ่งถือเป็นการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย นัดชิงชนะเลิศ ระบบ 4 ใน 7 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมบางแสน เฮอร์ริเทจ จังหวัดชลบุรี ชิงเงินรางวัล 1,262,000 บาท

ครั้งนี้มี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายสนธยา คุณปลื้ม นายกสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี และนายฐาปบุตร ชมเสวี อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธาน

“บิ๊ก สระบุรี” ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นรองแชมป์ประเทศไทย 2 สมัย และแชมป์แรงกิ้ง 8 รายการ พบกับ “หยิก สำโรง” พิสิษฐ์ จันทร์ศรี แชมป์อาวุโสโลก 3 สมัยติดต่อกันคนแรกของโลก และแชมป์แรงกิ้ง 1 รายการ

ลงท้าย บิ๊ก สระบุรี ที่แทงได้พิเศษสุด ๆ ตลอดทัวร์นาเมนท์ ชนะไปได้ 4-2 เฟรม ด้วยสกอร์ 73(50)-6, 41-72, 93-35, 65(63)-17, 7-71 และ 81(61)-8 ทำให้ บิ๊ก รับเงินไป 200,000 บาท ส่วน หยิก สำโรง รับไป 80,000 บาท สำหรับรางวัลเบรกสูงสุดเป็นของ “ตูน วัดด่าน” เอกรวี อั๊งคำ ทำได้แม็กซิมั่มเบรก 147 แต้ม รับ 20,000 บาท

 

“บิ๊ก สระบุรี” บอกว่า ขอมอบถ้วยแชมป์ให้กับคุณแม่ทุกคน และพิเศษสุดก็คือมอบให้คุณแม่ของผม ถือว่าโชคดีที่โปรแกรมแข่งขันที่ต่อเนื่อง ทั้งรายการที่ 4, 5 และ 6 ทำให้ค่อย ๆ เล่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงแชมป์ในวันนี้ และได้ขึ้นมือ 1 ของประเทศไทยในปีนี้ อีกทั้งบรรยากาศที่สนามแข่งขัน และโต๊ะแข่งขันดีมาก ๆ ทุกอย่างเป็นใจทั้งหมดจริง ๆ ทำให้ผมประสบความสำเร็จในครั้งนี้

“ผมประกาศเลิกเล่นทีมชาติ และอาชีพที่อังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2556 ก็จะขอเวลาปรึกษากับครอบครัวว่า จากนี้จะเล่นต่อไปหรือไม่ และถ้าผมไม่เล่น จะให้สิทธิ์การเล่นชิงแชมป์เอเชีย กับ ชิงแชมป์สมัครเล่นโลก กลับคืนไปยังสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้เล่นแทน”

ในส่วนของความรู้สึกที่ได้แชมป์ครั้งนี้ กับแชมป์โลก เมื่อ 10 ปีก่อน “บิ๊ก สระบุรี” บอกว่า ความรู้สึกดีใจเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกัน เพราะครั้งนั้นก่อนแข่งชิงแชมป์โลกหลายคนมองว่า ผมเป็นรอง กร แต่ในใจผมคิดว่าผมเหนือกว่า ส่วนหนนี้แม้ผมจะแทงได้ดี และทุกคนมองว่าผมเป็นต่อ หยิก สำโรง แต่ผมกลับคิดว่า หยิก แทงได้เหนียวแน่นกว่า สุดท้ายผมทำได้ นี่คือแชมป์ที่ผมรอคอยมาทั้งชีวิต

เท่ากับว่า ปีนี้รายการสอยคิว ไทยแลนด์แรงกิ้ง จบไปเรียบร้อย 6 รายการ มาลุ้นกันใหม่ในปีหน้าว่า จะไปแข่งกันที่ไหน

แล้วใครจะเป็นแชมป์!

 

สรุปทำเนียบแชมป์ประเทศไทย

5 สมัย : ประพฤติ ชัยธนสกุล

4 สมัย : วิเชียร แสงทอง และอิศรา กะไชยวงษ์

3 สมัย : อุดร ไข่มุกค์

2 สมัย : ศักดิ์ชัย ซิมงาม, สมพร กันธวัง, สุพจน์ แสนหล้า, เทพไชยา อุ่นหนู

1 สมัย : มงคล กั้นฝากลาง, ตา ตันยุติธรรม, ปฏิพัทธิ์ วัฒนาพร, ลักษณ์ อุทกภาชน์, ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์, อำนวยพร โชติพงษ์, นพดล นภจร, อนันต์ เตรณานนท์, รัชพล ภู่โอบอ้อม, นพดล แสงนิล, ประมวล จันทร์ทัด, ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์, อรรถสิทธิ์ มหิทธิ

 

บี แหลมสิงห์

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่418)