นัดชิงแห่งความทรงจำ 6 แดงโลก

4 ก.ย. 61

ศึก 6 แดงโลกหมุนกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง ตามวันและเวลากำหนด

หลายคนไม่ต้องถามหาเรื่องความมันส์ เพราะมีตลอด แต่ถามหา “แมตช์แห่งความทรงจำ” กันดีกว่า ว่ามีปีไหนที่สุด ๆ บ้างในนัดชิงชนะเลิศ

นับจาก 7 ครั้งหลังสุดที่เป็นการ “ชิงแชมป์โลก” ส่วนใหญ่ เกมมักจะจบลงแบบขาดลอย แต่มีอยู่ 2 นัดที่ถือว่ายังคงติดตาตรึงใจแฟนสอยคิวให้พูดกันจนถึงวันนี้

ในฐานะที่ทำข่าวรายการนี้มาทุกสมัย มี 3 เกมนัดชิงชนะเลิศที่สุดยอดมาก ๆ

 

เริ่มจากเกมแรก “แสงโสม ซิกซ์เร้ด เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2014” ที่โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ พระราม 3 รอบชิงชนะเลิศ ระบบ 8 ใน 15 เฟรม ระหว่าง ริกกี้ วอลเด้น นักแทงมือ 10 ของโลกในตอนนั้น จากอังกฤษ พบกับ สตีเฟ่น แม็กไกวร์ มือ 14 ของโลกชาวสกอตแลนด์

เกมมันสนุกตรงที่เสมอกันก่อน 2-2 จากนั้นคิดว่า “จบง่าย” เพราะ วอลเด้น ฉีกกระดาษนำห่างถึง 6-3 เฟรม

โม่กันไปโม่กันมา กลายเป็นเสมอกัน 7-7 ต้องมาวัดดวงกันในเฟรมสุดท้าย

ครั้งนั้น แม็กไกวร์ ได้ออกคิวก่อน และแทงมาจนถึงแดงเม็ดสุดท้าย แต่หนาเกินไปไม่ลง ทำให้ วอลเด้น ที่ตามหลัง 4-35 ลุกขึ้นมาสู้ ตบแดงกินดำแต่ดันสกรูไม่ดีจนไม่มีเหลี่ยมตบ สกอร์ตามหลัง 12-35 ทำให้ต้องแทงกัน ทำให้ แม็กไกวร์ จะโดนวางสนุ้กหลังน้ำเงิน และแก้ไม่โดน 2 ที เสียไป 9 แต้ม วอลเด้น ไล่มา 21-35 ก่อนจะแทงเหลืองไม่ลง

แม็กไกวร์ ลุกจากหลุม มากดเหลืองถึงชมพูเอาชนะไปได้สุดมันส์ 8-7 เฟรม ใช้เวลาการดวลคิวไปทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง 10 นาที

เรื่องของเรื่องครั้งนั้นก็คือ เขาเป็นชาวสกอตแลนด์คนแรกที่ได้แชมป์ โดยก่อนหน้านี้ทั้ง 5 ครั้ง ชาวอังกฤษได้แชมป์มาทุกครั้ง

นอกจากเป็นแชมป์แล้ว ยังเปลี่ยนบันทึกหน้าใหม่อีกด้วย

เกมที่สองที่ถือว่า สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก นั่นก็คือ นัดชิงชนะเลิศที่ ชั้น 5 ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ปี 2016 เป็นการดวลคมคิวรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง “ไอ้ลูกหิน” สจ๊วร์ต บิงแฮม แชมป์ 15 แดงโลก ปี 2015 และมือ 2 โลก ดวลกับ “ไอ้ลูกระเบิด” ติง จุ้นฮุย มือ 1 ของจีน

เหมือนกับคู่ที่แล้วก็คือ บดกันอย่างสูสี ติง ขึ้นแท่นนำ 7-5 ก่อนจะโดน บิงแฮม ไล่ตามตีเสมอเป็น 7-7 เฟรม ทำให้ต้องมาตัดสินในเฟรมที่ 15 เฟรมสุดท้าย

บิงแฮม เป็นฝ่ายเปิดและเปิดได้ดี บีบให้ ติง ต้องแทงกันบาง ทำให้แดงจ่อ บิงแฮม ออกมาแทง 24 วางสนุ้กหลังน้ำเงิน ติง แก้แดงไม่โดน ทำให้ บิงแฮม ตบแดงแต่กินชมพูไม่ลง นำ 29-0

เกมพลิกกลับมาให้ ติง ออกมากินชุดน้ำเงิน ก่อนจะแทงเหลือง, เขียว และกินน้ำตาลพร้อมเตะดำออกมาจากมุม ต่อด้วยเช็ดน้ำเงินหลุมกลาง แต่กินชมพูเบาไป ต้องหักคอหลุมกลาง ซึ่ง ติง ทำได้ไม่พลาด พลิกกลับมากำชัยสุดมันส์ 8-7 เฟรม ใช้เวลาแข่งขัน 2 ชั่วโมง 35 นาที

 

อีกหนึ่งเกม คงจะห้ามใจกันไม่ได้ เพราะเป็นแมตช์ที่ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู คว่ำ เหลียง เหวินโป๋ จากจีน สุดสะใจ 8-2

เกมขาดลอย เอฟ นำ 7-2 แต่เฟรมตัดสินแชมป์ เชื่อว่าทุกคนคงจะจดจำได้เป็นอย่างดี

เกมนั้น เหลียง แทงนำ 17-0 แต่ เอฟ ลุกมาแทง 2 ชุดก่อนกดถึงน้ำตาลแต่แทงน้ำเงินไม่ลงแซงนำ 22-17 เหลียง ออกมาสู้แต่แทงไม่ลง โดน เอฟ วางสนุ้กหลังชมพู เหลียง แก้โดน จากนั้น เหลียง ออกมาแทงน้ำเงินแต้มเท่า 22-22 จากนั้น เหลียง แทงกันไปหนึ่งไม้หวังให้ขาวเข้าสนุ้กหลังดำ แต่ทำไม่ได้ เอฟ สู้หลุมยาวลงวับไปกับตา

ก่อนจะตบดำชนะไปในที่สุด 8-2 เฟรม

จากชัยชนะครั้งนี้ทำให้ เอฟ นครนายก เป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์รายการนี้ หลังจากจัดมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 รับเงินรางวัล 2.5 ล้านบาท พร้อมโล่แชมป์ และยังเป็นคนไทยคนแรกในรอบ 21 ปี ที่ได้แชมป์สนุกเกอร์โลกในประเทศไทย โดยคนสุดท้ายที่ทำได้คือ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม ในรายการไทยแลนด์ โอเพ่น ปี 1995

ไม่สุดยอดไม่รู้จะพูดยังไง

หวังว่าเหตุการณ์นี้จะกลับมาเกิดกับนักกีฬาไทยอีกครั้ง ในนัดชิงชนะเลิศ ต่อให้ต้องลุ้นจนถึงเฟรมสุดท้าย เม็ดสุดท้าย

ก็รอได้แน่นอน!!!

 

บี แหลมสิงห์

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 430)