ชัยชนะของ “ไอดอล”

2 ต.ค. 61

สนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย ชื่อนี้ยังเข้มขลังอยู่เสมอ

จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ปีนี้แชมป์ตกเป็นของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม กระบี่มือ 1 ตลอดกาลของไทย เป็นสมัยที่ 2

ตามลิสต์รายชื่อแชมป์ประเทศไทย ต๋อง เพิ่งได้แชมป์เป็นสมัยที่ 2 เท่านั้น หลังจากลงแข่งขันเป็นครั้งที่ 3

อันเนื่องมาจากต้องไปท่องยุทธจักรในฐานะมืออาชีพโลก

การออกคิวตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ที่โคราช โดยเฉพาะเกมนัดชิงชนะเลิศ ต๋อง ต้องมาดวลกับ “สีนิล ศิษย์เป้า” สิทธิชัย เชี่ยวชาญ ที่ออกคิวได้อย่างน่าสนใจตลอดทัวร์นาเมนต์ และทดสอบมาแล้วว่า ปีนี้ยกระดับตัวเองได้อย่างน่าสนใจ

ออกสตาร์ตขึ้นมา ต๋อง กดไม้เดียว 71 แต้ม ขึ้นนำ 1-0 ก่อนจะโดน สีนิล ออกมาแทงสองไม้ตีเสมอกัน 1-1 แต่จากนั้น ต๋อง ติดเครื่องเข้าเบรก 88, 101 และ 52 เอาชนะไปได้อย่างเด็ดขาด 4-1 เฟรม ด้วยสกอร์ 80(71)-30, 43-86, 128(88)-4, 101(101)-0 และ 80(52)-18

ทำให้ ต๋อง คว้าแชมป์พร้อมรับเงินไป 200,000 บาท ส่วน สีนิล รับไป 80,000 บาท ส่วนรางวัลเบรกสูงสุด 137 แต้ม เป็นของ “นัท แปดริ้ว” นิธิวรรธก์ กาญจนศรี รับไป 20,000 บาท

หลายคนมองแตกต่างกันออกไป แยกออกมาได้ 2 ประเด็น

  1. ต๋อง ยังอมตะนิรันด์กาล และกำลังจะกลับมา
  2. คนอื่นไม่พร้อมหรืออย่างไร ในการขึ้นมาแทน ต๋อง

ตรงนี้แล้วแต่มุมมอง

 

 

สีนิล ศิษย์เป้า
สีนิล ศิษย์เป้า

เรื่องแบบนี้ทุกคนทราบกันดีว่า สนุกเกอร์ในเมืองไทย ใครก็ผ่านต๋องไม่ได้ง่าย ๆ เพราะเส้นบาง ๆ ระหว่างคำว่า “ฝีมือ” กับ “บารมี” นี่มันยากที่จะแยกออกโดยแท้

ใครเจอในรอบสำคัญ ๆ แบบนี้ ก็ต้องมีใจหล่นเหมือนกัน เพราะอย่างที่นับตัวเลขดู ชัดเจนเลยก็คือ ต๋อง ได้แชมป์สมัครเล่นโลก

สีนิล ยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ!

ที่สำคัญ มันได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการสอยคิว อย่างน้อยกระตุกต่อมแฟนานุแฟนรุ่นเก่า ให้หันกลับมามองวงการกันอีกรอบ

คอมเมนต์บนโลกออนไลน์ ชัดเจนว่า มันได้ปลุกทุกคนขึ้นมา และทุกคนยังคุ้นชินกับคำว่า “สนุกเกอร์-ต๋อง” มันแยกกันไม่ออก

คำว่า ต้องตื่นขึ้นมาดูตอนดึก คึกกันขึ้นมาอีกครั้ง

 

ต๋อง ศิษย์ฉ่อย
ต๋อง ศิษย์ฉ่อย

ในเวลาที่ไล่เลี่ยกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง อีกหนึ่งมุมของชัยชนะของ ไทเกอร์ วูดส์ กับแชมป์แรกในรอบ 5 ปี ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการกีฬาโลก

ทุกคนพูดคำเดียวกันว่า ช่วยปลุกวงการกอล์ฟชายให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากช่วงหลังนี่เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ กันอย่างเดียว

ตรงนี้ก็มองกันได้ 2 มุมอีกนั่นแหละ

  1. ไทเกอร์ ยังอมตะนิรันด์กาล และกำลังจะกลับมา
  2. คนอื่นไม่พร้อมหรืออย่างไร ในการขึ้นมาแทน ไทเกอร์

 

ตรงนี้แล้วแต่มุมมอง

ง่าย ๆ ก็คือ ต๋อง ปลุกกระแสในเมืองไทย ในวงการที่เขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างขึ้นมา.....ส่วน ไทเกอร์ ปลุกกระแสกอล์ฟโลก ในวงการที่เขาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันจนดังทะลุพลุแตกในสหัสวรรษใหม่

ความใหญ่โตมันอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ทั้งสองคนทำสิ่งที่เหมือนกัน

นั่นคือชัยชนะของ “ไอดอล”

ต๋อง คือมนุษย์คนแรกของเอเชีย ที่ไปบุกเบิกความสำเร็จ จนเป็นตัวท็อปในวงการสนุกเกอร์โลก ขณะที่ ไทเกอร์ แม้ว่าตัวเขาจะรู้หรือไม่รู้สึกว่า เขาเป็นคนไทย เพราะเขาคือ “อเมริกันชน” แต่เขาก็ไม่ผิด เพราะนั่นคือสิ่งที่คุ้นชินตัวเขามาตั้งแต่เกิด

แต่เลือดครึ่งหนึ่งเขาคือคนไทย ที่เชื่อว่า คนไทยเกินครึ่งตามให้กำลังใจเขาอยู่ ไม่ได้แพ้กับเลือดไทยแท้ ๆ อย่าง ต๋อง ศิษย์ฉ่อย

ทั้งสองคนคือ “ปรากฏการณ์” และจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ไม่ว่าอนาคตข้างหน้า พวกเขาจะเป็นอย่างไร

จะเป็นแชมป์ได้อีกหรือไม่...ไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป

สรุปทำเนียบแชมป์ประเทศไทย

5 สมัย : ประพฤติ ชัยธนสกุล

4 สมัย : วิเชียร แสงทอง และอิศรา กะไชยวงษ์

3 สมัย : อุดร ไข่มุกค์

2 สมัย : ศักดิ์ชัย ซิมงาม, สมพร กันธวัง, สุพจน์ แสนหล้า, เทพไชยา อุ่นหนู และรัชพล ภู่โอบอ้อม

1 สมัย : มงคล กั้นฝากลาง, ตา ตันยุติธรรม, ปฏิพัทธิ์ วัฒนาพร, ลักษณ์ อุทกภาชน์, ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์, อำนวยพร โชติพงษ์, นพดล นภจร, อนันต์ เตรณานนท์, นพดล แสงนิล, ประมวล จันทร์ทัด, ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ และอรรถสิทธิ์ มหิทธิ

 

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 431)