เซียนตา ลพบุรี

27 เม.ย. 59

ชื่อของคน นามของไม้ โบราณว่า มักจะบ่งบอกอะไรๆ อยู่ในตัว

เซียนตา ลพบุรี เติบโต คลุกคลี และเอาดีได้มาจากโต๊ะสนุกเกอร์ ตั้งแต่หัวเพิ่งพ้นโต๊ะ พอผู้ใหญ่จับให้สอยคิวก็ต้องเขย่ง หรือเอาลังใส่น้ำอัดลมมารองเท้า ลูกไกลๆ ก็ต้องใช้เรสท์ หรือไม้ง่ามช่วย

เขากลายเป็นเซียนอยู่ลพบุรีตั้งแต่เด็ก แทบหาผู้ใหญ่ปะฝีมือด้วยไม่ได้ ก็เลยต้องเดินสาย เข้าทำนองชีวิตของเซียนสนุกเกอร์ยุค ๒๕๐๐ ต้นๆ

ที่เมื่อเก่งฉกาจขึ้นมาในถิ่น หาคนต่อกรได้ยากแล้ว ก็จำเป็นต้องไปแสวงโชค หรือวัดฝีมือกับนักสนุกเกอร์มือดีๆ ต่างถิ่น สูตรแรกก็ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพราะเป็นแหล่งที่นักสนุกเกอร์มือดีรวมตัวกันอยู่ กับอีกอย่างหนึ่งโต๊ะสนุกเกอร์ในกรุงเทพฯ มีทุกหัวระแหง อาทิ พระโขนง มีนบุรี ปากคลองตลาด นางเลิ้ง บางลำพู สาธร พรานนก สะพานควาย ดอนเมือง เฉลิมกรุง ประตูน้ำ วงเวียนใหญ่ ราชเทวี บางกะปิ วังบูรพา ศาลเจ้าพ่อเสือ สามย่าน คลองเตย เยาวราช ยานนาวา ห้วยขวาง ฯลฯ

เซียนจากบ้านนอกก็ต้องเลือกเอา หรือเดินตามเส้นทางที่นายทุนพาเดินสาย เลือกเอาใกล้ท่าน้ำท่าเรือที่เดินมาจากบ้านนอก หรือเล็งเอาว่า มือดีประจำโต๊ะแห่งไหน ที่ฝีมือเราเหนือกว่า สามารถผ่านได้สบายๆ ก็ไปหมกตัวอยู่ที่แห่งนั้นได้นานๆ นานจนกว่าหาคู่เล่นยาก ก็เริ่มข้ามไปโต๊ะสนุกเกอร์แห่งอื่น หรือโต๊ะสนุกเกอร์ที่เป็นแหล่งชุมนุมของเซียนมือดีหลายแห่งมารวมตัวกัน สมัยนั้นก็มี ที่ใต้ฟ้า ย่านวังบูรพาภิรมย์ ข้างโรงภาพยนตร์ควีนส์ โต๊ะสนุกเกอร์ย่านสุริวงศ์ ใกล้สี่พระยา โต๊ะสนุกเกอร์มิตรเดือนเด่น หลังศูนย์การค้าอินทรา โต๊ะสนุกเกอร์เพชรบุรีตัดใหม่ โต๊ะสนุกเกอร์อินทรา ราชตฤณมัยสมาคม ฯลฯ

 

พอเซียนบ้านนอกคนใดมารวมตัวในแหล่งเดียวกัน และในวงการยกย่องยอมรับฝีมือเป็นเซียนสนุกเกอร์แล้ว ก็จะมีนายทุนทาบทามพาไปเดินสายต่างจังหวัด เพื่อล่าเดิมพัน ดังนั้น เซียนทุกคนในยุคโน้นจะต้องผ่านการเดินสายต่างจังหวัดมาทั้งสิ้น อาทิ เชียงใหม่ โคราช บ้านดอน หัวหิน จันทบุรี ฯลฯ ห้าหกแห่งดังกล่าวนี้ มักจะมีเซียนมือดีประจำโต๊ะที่คอยรับแขก และมีนายทุนที่นั่นเงินหนา ใจนักเลง และยินดีที่จะวัดฝีมือกัน

แน่นอนทีเดียว เซียนเดินสายมักจะเก็บเดิมพันกลับบ้านไป ก็เพราะ ก่อนที่จะเดินสาย นายทุนก็เล็งและประเมินแล้วว่า มือดีเจ้าถิ่นที่นั่นฝีมือระดับไหน นายทุนก็ต้องหิ้วเซียนเดินสายที่ฝีมือเหนือกว่าไป หากประเมินพลาด หรือเซียนเดินสายเกิดใจกระเส่า ถูกพวกเจ้าถิ่นถือหางวงนอกแซว หรือกวน หรือขู่ขวัญ ทำให้มือไม้สั่นไปหมด สาวคิวแทบไม่ออก ฝีมือที่เหนือกว่ากลายเป็นรองไปทันที เที่ยวหน้า นายทุนก็ต้องหาเซียนที่ฝีมือดีกว่าเดินสายกลับไปไล่ล่าเดิมพันใหม่

เยี่ยงนี้ ให้เซียนประจำถิ่นมือดีขนาดไหน ก็ต้องเสียเดิมพันก้อนโตให้แก่เซียนเดินสาย

ต่อๆ มา เซียนประจำโต๊ะตามต่างจังหวัด ก็เดินสายเข้ากรุงเทพฯ บ้าง เพราะมักคุ้นหน้าตา และคุ้นเคยกลายเป็นเพื่อนกับเซียนที่เคยเดินสายไปเล่นกัน ฉะนั้น โต๊ะสนุกเกอร์ในกรุงเทพฯ บางแห่ง จึงเป็นสถานที่เซียนสนุกเกอร์มือดีจากต่างจังหวัดไปรวมตัวกัน อาทิ รินทร์ ระยอง, พล ขอนแก่น, ดำ ศรีราชา, เง็ก อ่างทอง, ชัย ลำพูน, เชียร ลำปาง, บัติ หัวตะเข้, ตึ๊ก โคราช, เสริฐ จันทบุรี, เก๊า แปดริ้ว, ดำ หนองมน, โก๊ะ อยุธยา, อ้วน พิษณุโลก และที่จะเอ่ยถึง คือ ตา ลพบุรี

ตา ลพบุรี เป็นคนแปลก มีความหยิ่งในตัวพอประมาณ ไม่ค่อยคบใครที่ฝีมือระดับเดียวกันเป็นเพื่อน จะว่าไปแล้ว ที่นักสนุกเกอร์ยอมรับฝีมือและยกย่องให้เป็น “เซียน” นำหน้าชื่อนั้น หาใช่มีฝีมือเท่ากันไม่ ต่างชั้นกันหลายแต้มมากก็มี ส่วนเซียนตา ลพบุรีนั้น มีฝีมือชั้นแนวหน้าที่มีเพียงไม่เกินห้าคนในยุคนั้น ที่ฝีมือพอกัน เข่นกันไม่ลง จนเลิกปะทะกัน อาทิ เง็ก อ่างทอง, ตึ๊ก โคราช, รินทร์ ระยอง, โก๊ะ อยุธยา

ตา ลพบุรี นั่น เป็นเซียนตั้งแต่เล็ก จะว่าตอนเป็นวัยรุ่นก็ไม่ใช่ หรือหนุ่มรุ่นกระทงก็ไม่เชิง เพราะ เซียนตา เดินสายไปเล่นตามต่างจังหวัดนั้น ยังนุ่งกางเกงขายาวไม่เป็นเลย

ขาเดินสายไปที่ใด ก็อยู่ในชุดกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ดีเสียอีกที่มือดีประจำถิ่นต่างก็ตายใจ ที่ไอ้หนูคนนี้ถึงจะแทงได้แม่นยำ แต่จิตใจและฝีมือก็คงไม่เท่าไหร่ เดิมพันแต่ละเกมจึงเทลงไปโดยไม่เกี่ยง ไม่น่าเชื่อ ไม่มีแห่งใดเลยที่เซียนตาเดินสายไปเล่น แล้วจะแพ้มือต่างถิ่นกลับมา จึงไม่แปลกที่เขาเป็นเซียนอยู่ในระดับ ๑ ใน ๕ ของเซียนเดินสายของเมืองไทย

พอเดินสายอิ่มตัว ผู้คนรู้จักทั่ว และเป็นหนุ่มขึ้น ก็ปักหลักประจำโต๊ะสนุกเกอร์ในกรุงเทพฯ จะเล่นแต่ละครั้งต้องต่อแต้ม หรือแทงมือเดียวบ้าง ส่วนใหญ่จะเล่นโชว์มากกว่า บางทีก็สอนวิธีการสอยคิว เทคนิคบางอย่างให้แก่นักสนุกเกอร์ จนผู้คนเรียกว่า “อาจารย์” กันไปหมด

บุคลิกของเซียนตามีจุดเด่น ที่ขาสนุกเกอร์หน้าใหม่ขึ้นไปก็ต้องสะดุดตา เพราะระยะหลังๆ ที่แกมองดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รูปร่างจะอ้วนท้วนสมบูรณ์ ชอบสวมเสื้อฮาวายปล่อยชายเสื้อ และนั่งประจำโต๊ะ ทำเหมือนเป็นประธาน ใครต่อใครมักแวะเวียนเข้าไปหาเรื่องมาพูดคุยด้วย

วันๆ แกไม่ค่อยได้แสดงฝีไม้ลายมืออย่างจริงจัง เอาแต่ถนัดถือหางวงนอกมากกว่า

ไม่วายที่คนรุ่นเดียวกันจะเรียก “บิ๊กเมาท์” เด็กรุ่นหลังไม่รู้ที่มาก็เรียกตาม แต่ต้องลับหลังนะ หากต่อหน้าต่อตา เซียนตาแกด่าสวนกลับทันที ยับเยินเสียผู้เสียคนเลย

ฉายา “บิ๊กเมาท์” นั้น เพราะเซียนตาเป็นคนชอบวิพากษ์ วิจารณ์ ชอบออกความเห็น แล้วก็ทื่อๆ ตรงๆ ไม่เกรงอกเกรงใจใคร แถมพวกนักสนุกเกอร์ก็ชอบให้แกออกความเห็นเสียด้วย พอแกพูดออกมาดังๆ ผู้คนทั้งโต๊ะก็ต้องเงียบ เชื่อหรือไม่เชื่อก็ต้องฟังแก แต่พอแกพูดจบก็เฮฮา ครื้นเครงกัน ไม่เครียด คือขอให้เซียนตาแกได้ระบาย และสำแดงกึ๋นออกมา

ส่วนใหญ่นักสนุกเกอร์จะเล่นแบบมีงาน หรือสมยอมกัน หลอกกินเงินเดิมพันจากคนนอก เซียนตาก็มองออกว่าคนไหนฝีมือแค่ไหน ลีลาการเล่นเป็นแบบใด เมื่อผิดฟอร์มขึ้นมา หรือคนไหนเล่นเอาเปรียบใครมาก เซียนตาจะไม่รีรอ ใช้คำพูดฟันทันที

นี่คือลักษณะประจำตัวของเซียนตา ดังที่เกริ่นไว้ในบรรทัดต้นๆ ว่า

ชื่อของคน นามของไม้

ถึงเซียนตา จะร่ำเรียนมาน้อย ชีวิตคลุกคลีอยู่ในโต๊ะสนุกเกอร์ วันๆ เจอแต่เสือ สิงห์ กระทิง แรด แต่เขาเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และมีความเป็นธรรมสูง

วันนี้ ชีวิตของเขาไม่มีแล้ว แต่ยังเหลือชื่อเสียงไว้ในวงการ “ตา ตันยุติธรรม”

อ๊อด หัวหิน

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 395)