เซียนเง็ก อ่างทอง

11 ส.ค. 59

ชะตาชีวิตคนเราโดยแท้ ที่รักที่ชอบและมีอิสระในการเลือกทางเดิน หากตอนเด็กๆ เซียนเง็กไม่ชอบไปดูผู้ใหญ่เขาเล่นสนุกเกอร์แถวโต๊ะข้างบ้านที่วิเศษไชยชาญ อ่างทอง

เขาก็คงได้ครอบครองกิจการ และเป็นมรดกตกทอดเป็นเถ้าแก่ร้านทอง นั่งกินนอนกินสบายๆ ชีวิตไม่ต้องดิ้นรนมาเป็นเซียนสนุกเกอร์จนบั้นปลายชีวิต มันเป็นความชอบของเขาที่เขาเลือกเอง เลือกอิสระ เลือกการต่อสู้ ท้าทาย และการมีเดิมพัน

เขาว่าเซียนเง็ก อ่างทองนั้น มีฝีมือในการเล่นไพรัมมี่ (ไพ่ดัมมี่) พอๆ กะฝีมือทางสนุกเกอร์ เมื่อหาคู่เล่นไม่ได้ก็เข้าร่วมวงไพ่รัมมี่ ตามสมาคมสโมสรที่เล่นได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ช่วงหนึ่งพบเขาบ่อยในวงรัมมี่ที่ราชตฤณมัยสมาคม สนามม้านางเลิ้ง

เซียนเง็ก เป็นคนมีฐานะดีแต่กำเนิด แต่ความรักชอบ ไหลหลงในสิ่งที่ลูกผู้ชายชอบเข้าไปคลุกคลี ชีวิตเขาจึงจากบ้าน เดินสายมาสู่กรุงเทพฯ ก็ปักหลักแถวโต๊ะสนุกเกอร์ท่าน้ำ ที่เป็นเส้นทางคมนาคมของคนต่างจังหวัดแถวผักไห่ แถววิเศษไชยชาญ ในสมัยโน้น คลุกคลีฝังตัวหลายปีจนมีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะมีเซียนเดินสายมาบุกถึงถิ่น ส่วนใหญ่ก็พ่ายยับเยินกลับไป แล้วนำไปร่ำลือกล่าวถึง จนเซียนเง็กหมดคู่ต่อสู้ที่จะเล่นด้วย จำต้องเดินสายไปตามโต๊ะสนุกเกอร์อื่นๆ บ้าง

แม้กระทั่งบุกไปเล่นตามต่างจังหวัด เขาก็เป็นเซียนเดินสายรุ่นแรกๆ

เซียนเง็ก อ่างทอง เดินสายไปเล่นที่ไหนจะหาคู่เล่นได้ง่าย กวาดเดิมพันได้แล้วก็ออกมาได้อย่างปลอดภัย เพราะ เซียนเง็กเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน ไม่โอ่อ่า ไม่พูดมาก ไม่ทำตัวให้คนอื่นหมั่นไส้

แถมรูปร่างเล็ก บาง ผิวขาว หน้าละอ่อน เหมือนอาตี๋มาเป็นพ่อค้าขายเร่ แล้วก็ใช้เวลาว่างเข้าโต๊ะสนุกเกอร์ ฆ่าเวลาเพื่อความสนุกสนาน และมีเดิมพันให้ตื่นเต้นนิดหน่อย เจ้าถิ่นเห็นว่าไอ้ตี๋คนนี้ท่าทางมีเงิน รูปร่าง หน้าตา ก็ไม่เหมือนเซียนสนุกเกอร์โดยทั่วไป

ก็ตายใจ หลงเป็นเหยื่อไปทุกราย

 

 

เขาเดินสายไปทั่วประเทศไทย จนคนรู้จักหน้า รู้จักชื่อ และรู้จักฝีมือ จนไม่มีที่จะไป ก็ต้องหาที่ปักหลักตามสูตรเซียนสนุกเกอร์ในกรุงเทพฯ ทั่วไป คือ หาที่ทางประจำ เป็นเซียนประจำโต๊ะ หรือเป็นผู้ใหญ่ให้นักสนุกเกอร์ที่นั่นเกรงอกเกรงใจ หรือยกย่องให้เป็นซือแป๋ หรือปรมาจารย์

ประมาณปี ๒๕๑๐ เซียนสนุกเกอร์ฝีมือดีชอบไปรวมตัวที่โต๊ะสนุกเกอร์เป็นแห่งๆ หมายถึงเหมือนนัดหมายไปรวมตัวกันเล่นที่โต๊ะสนุกเกอร์แห่งหนึ่ง จับคู่เล่นกันเองโดยมีแต้มต่อตามน้ำหนักฝีมือ คนดูก็ถือหางเล่นนอกกันแน่นขนัด ทำให้โต๊ะสนุกเกอร์แห่งนั้นคึกคัก บางทีเซียนเหล่านี้เล่นกันจนรู้ทางกัน และไม่รู้จะต่อกันอีท่าไหน ก็ต้องนั่งประจำทั้งวัน แต่หารำไพ่ด้วยการถือหางพนันนอกที่คนอื่นเขาเล่นบ้าง

โน่นแหละครับ จนกว่าจะมีงาน หรือเกิดมีนักสนุกเกอร์คู่ใดรู้กัน จัดงาน สมยอม กำหนดผลได้ล่วงหน้า แล้วมีพรรคพวกเป็นหน้าม้าไปถือหางพนันนอก

เหมือนแทงไฮโลว์เปิดถ้วย หรือเปิดถ้วยแทงไฮโลว์ มีแต่เจี๊ยะกับเจี๊ยะ 

แต่คนเล่นเดิมพันนอกที่ไม่รู้ ก็ถือหางวัดดวงไปตามการอ่านเกม มีแต่เสียกับเสีย เจ๊ายังไม่มีเลยครับ  เจอหยั่งงี้เข้าสักสองสามคู่ หรือสามสี่วัน ก็รู้ทันอ่านออก ก็เลิกขึ้นโต๊ะสนุกเกอร์หันไปที่อื่นแทน โต๊ะสนุกเกอร์นั้นก็วายไปเอง

ส่วนเซียนสนุกเกอร์ไม่ยอมวายหรอกครับ เขาก็หาโต๊ะอื่นไปรวมตัวกันใหม่ แล้วพวกขาสนุกเกอร์ก็จะตามไปเอง ในวงการนี้แปลกนะครับ เขานับถือเซียนสนุกเกอร์กัน ไปอยู่กันที่ไหน พวกเขาก็จะตามไป ไม่ตามไปเล่น ก็ตามไปถือหางพนันวงนอก

ตอนนี้ ฝีมือเซียนเง็ก เหนือชั้นไปอีกระดับแล้ว เวลาจับคู่เจอกะใคร เวลาเข้าเบรกยาวสอยคิวออกไปที จะมีเสียงพวกถือหางรอบโต๊ะตะโกนว่า ... เง็ก  เทวดา

เหมือนไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ไปนั่น ตบลูกไหนลูกนั้นไม่มีพลาด

เซียนเง็ก ตอนมีชื่อคนรู้จักไปมักหาคู่เล่นไม่ได้ นอกจากต่อแต้มเขามากๆ หรือมีมือดีจากต่างจังหวัดเพิ่งมีนายทุนพาเข้ากรุง มีเจตนาจะปะทะกับเซียนเง็ก โดยตรงเท่านั้น ส่วนใหญ่เดินสายเล่นรัมมี่บ้าง หรือเล่นสนุกเกอร์ประปรายบ้าง ถ้าประจำก็จะเคยอยู่ราชตฤณมัยสมาคม สมาคมมิตรสัมพันธ์ สุรวงศ์ เพชรบุรีตัดใหม่ เดือนเด่น อินทรา ฯลฯ

สมัยเสื้อยืดมองตากูร์ดังๆ เซียนเง็ก อ่างทอง ใส่แต่เสื้อยืดมองตากูร์ทุกวัน มีทุกสี สีละวัน หลังๆ เขาก็มีแท็กซี่ขับเป็นงานอดิเรก หมายถึงยามใดวงการสนุกเกอร์วาย ซบเซา เขาก็ขับแท็กซี่หารายได้จริงจัง ยามใดวงการสนุกเกอร์คึกคัก เขาก็แวะจอดแท็กซี่และขึ้นโต๊ะสนุกเกอร์

เดินสายไปเล่นสนุกเกอร์ต่างจังหวัด หลายครั้งที่เขาขับแท็กซี่ไปจอดหน้าโต๊ะสนุกเกอร์ ทำเป็นว่า เขามาส่งผู้โดยสารที่เหมามาจากกรุงเทพฯ  อาจรอเวลาเหมากลับ หรือตัวเขายังไม่กลับ แวะเข้ามาเล่นสนุกเกอร์เพื่อความสนุกสนานก่อน

แค่เข้าไปนั่ง แล้วทำท่าทีอยากจะเล่น ไม่นานก็มีคนเข้ามาทาบทาม ท้าทาย จากเดิมพันเล็กน้อย เล่นไปก็เห็นว่าแท็กซี่คนนี้มีเงิน เดิมพันก็ถูกเกี่ยงขึ้นไปเรื่อย

กว่าเงินจะหมดกระเป๋า หรือวางคิว ยอมรับว่าสู้ไม่ได้ หรือไปตามมือดีๆ ที่เหนือกว่าตนมาลงเล่นแทน กี่คนๆ ก็ต้องสูญเดิมพันหนักไปอีก ถึงจะสังเกตได้ว่า ไอ้แท๊กซี่คนนี้ ยิ่งเล่นฝืมือมันยิ่งดีขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องยอมดีกว่าถลันลึกลงไปมากกว่านี้

เซียนสนุกเกอร์ในอดีตของเราท่านนี้ก็ลาลับโลกไปแล้วอีกหนึ่งท่านครับ เหลือเป็นตำนานให้วงการสนุกเกอร์ได้รำลึกนึกถึงกัน

 

อ๊อด หัวหิน

 (ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 396)