"แสงโสม โคราชคัพ" ดิวิชั่น 1 รายการที่ 6 เริ่มแล้ววันนี้ที่ นครราชสีมา

ต่าย พิจิตร สร้างเซอร์ไพร์ส โค่น สอย เอฟวัน ร่วงกลางอากาศ

รอบรองชนะเลิศคู่แรก เป็นการพบกันของอดีตแชมป์โลกต่าวสมัย ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ แชมป์สมัครเล่นโลกปี 2536 และ เทพไชยา อุ่นหนู แชมป์สมัครเล่นโลก 15 ปีต่อมาในปี 2551

ก่อนการแข่งขัน เทพไชยา ถูกมองว่าเป็นต่ออยู่หลายขุม ด้วยความที่เพิ่งคว้าแชมป์มา 2 รายการติดที่ จ.ภูเก็ต และ จ. สระบุรี ในขณะที่ ต่าย พิจิตร ไม่ได้หลุดเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศมาเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว

เฟรมแรก เทพไชยา เป็นผู้เปิดเฟรมก่อน แล้วจับเบรคไปก่อน 38 แต้ม ขึ้นนำไป 47-9 ต่าย พิจิตร มาจับได้ 5 ชุด ตบไป 38 คะแนน ไล่ตามมาที่ 47 เท่ากัน แต่มาโดน เทพไชยา ตบแดงลูกสุดท้าย แล้วไล่สีถึงชมพู โดยไม่ต้องแทงดำ ชนะไปก่อน 75-47 คะแนน

เฟรมที่สอง ต่าย พิจิตร เริ่มออกฤทธิ์ หลังจากเปิดเบรคแล้ว สามารถเก็บเบรคไปถึง 7 ชุด 49 แต้ม ขึ้นนำไปค่อนข้างมาก แถมยังต่อด้วยเบรคที่สองไปอีก 4 ชุด 23 แต้ม ขึ้นนำไป 72-0 ทำให้ เทพไชยา ไม่ออกจากมุมยอมแพ้ไปในเฟรมนี้ เสมอกันไป 1 ต่อ 1 เฟรม

ขึ้นเฟรมที่สาม เทพไชยา ออกนำไปก่อน 10-0 แล้วมาโดน ต่าย พิจิตร เข้าเบรคไป 5 ชุด กลับขึ้นมานำ 35-10 และหนีออกไปอีกเป็น 42-10 เทพไชยา ไล่วางสนุ้กฯ ตามมาเป็น 28-42 แล้วตบชมพูไปอีก 1 ชุด ไล่มาเหลือ 7 แต้ม แต่ก็ถูกต่าย พิจิตร หนีไปอีกเป็น 62-35 และชนะไปในเฟรมนี้หลังตบลูกน้ำเงิน 67-42 ขึ้นนำ เทพไชยา ไปเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม

ในเฟรมที่สี่ ต่าย พิจิตร ได้ดำไปก่อน 1 ชุด แล้วโดน เทพไชยา กดเบรคไม้เดียวไป 6 ชุดดำ 48 แต้ม ต่าย พิจิตร มาได้คืน 1 ไม้ ตบไป 4 ชุดครึ่ง 31 แต้ม ไล่มาเป็น 42-49 แต่ก็โดน เทพไชยา เก็บแดงชุดสุดท้าย กินชมพู แล้วเก็บสีไปจนเหลือลูกดำ ชนะไป 76-42 ตีเสมอเป็น 2-2 เท่ากัน

เฟรมที่ห้า เป็นเฟรมที่ ต่าย พิจิตร ใช้เวลาเพียง 15 นาที เข้าเบรคไม้เดียว 10 ชุด 72 แต้ม เอาชนะ เทพไชยา ไปแบบขาดลอย 72-16 ขึ้นนำเป็น 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่หก เป็นเฟรมที่ เทพไชยา พลาดอีกไม่ได้ แต่เกมยังตกเป็นของ ต่าย พิจิตร ที่ใช้ประสบการณ์ และความแน่นอนในการเล่น คุมเกมไว้ได้ตลอด ค่อย ๆ นำ ค่อย ๆ เหน็บไปทีละน้อย ทำคะแนนหนีห่างไปเรื่อย ๆ จาก 9-0 เป็น 31-0 เทพไชยา ได้ฟาล์วมา 7 แต้ม แต่ก็โดน ต่าย พิจิตร ตีจากไปอีก 1 ชุดชมพู บวกกับได้ฟาล์วอีก 4 แต้ม ขึ้นนำ เทพไชยา ไป 42-7 คะแนน แล้วมากดเบรคสุดท้ายอีก 8 ชุด 57 แต้ม เอาชนะไปขาดลอย 103-7 ลอยลำเข้ารอบชิงชนะเลิศไปก่อนเป็นคนแรก 

อิศ จันท์ จอดแค่รอบ 8 พ่าย หนู ดาวดึงส์ 4-1 เฟรม

รอบ 8 คนคู่สุดท้าย เป็นการแข่งขันระหว่าง นพดล นภจร หรือ หนู ดาวดึงส์ อดีตมืออันดับ 1 ของไทย พบกับ อิศรา กะไชยวงษ์ แชมป์เอเซีย 2 สมัย เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ สนุกเกอร์เดี่ยวที่ประเทศฟิลิปปินส์

เปิดเฟรมแรก นพดล นภจร เป็นผู้เปิดเฟรม ได้แต้มมาก่อน 8 คะแนน จากการวางสนุ้กฯ แล้วตบแดงกินน้ำเงิน นำไปก่อน 14-0 อิศรา มาเก็บคะแนนแรกได้ จากการเข้าเบรคกินแดงสลับดำไป 4 ชุดครึ่ง ทำไป 33 แต้ม ขึ้นนำไปเป็น 33-14 แล้วมาโดน หนู ดาวดึงส์ วางสนุ้กฯ เสียไปอีก 8 คะแนน ทำให้หนูตามมาเป็น 22-33 ก่อนที่ หนู จะเข้าเบรค 50 แต้ม กลับขึ้นมานำ และปิดเฟรมแรกไปด้วยสกอร์ 87-33

ขึ้นเฟรมที่สอง อิศ เป็นฝ่ายเปิดเฟรมก่อน แต่ถูก หนู ทำคะแนนออกนำไปในช่วงแรก 23-0 อิศ มาตีคืนได้ 20 แต้ม ไล่ตามมาเป็น 20-23 แล้วเกมออกเบียด หนักไปในทางการกัน จน หนู มาเก็บคะแนนได้อีกครั้ง โดยทำเบรคย่อย ๆ ไป 3 ไม้ ชนะไป 55-20 คะแนน ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 0 เฟรม

ขึ้นเฟรมที่สาม ทั้งคู่ยังจับเบรคยาว ๆ กันไม่ได้ หนู ดาวดึงส์ เป็นฝ่ายเก็บแต้มไปได้ทีละน้อย ออกนำไปก่อน 21-11 ก่อนจะมาเข้าเบรค 4 ชุด 28 แต้ม นำไปเป็น 49-12 อิศ ยังไม่สามารถจับอะไรได้ ปล่อยให้ หนู เก็บแดงกินสีไปอีก 3 ชุด 19 แต้ม ชนะไปขาดลอยด้วยคะแนน 68-12 ขึ้นนำเป็น 3 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สี่ เป็นเฟรมเดียวที่ อิศรา ได้ลุกขึ้นมาสู้ เปิดเบรคแรกไปก่อนถึง 9 ชุด 65 แต้ม ในขณะที่ หนู ตบแดงมาได้เพียงคะแนนเดียว ปล่อยให้ อิศ เก็บเบรคที่สองไปอีก 4 แดง 4 ดำ 32 แต้ม ชนะไป 97-1 ตามมาเป็น 1-3 เฟรม

ถึงเฟรมที่ห้า เกมพลิกกลับมาเป็นฝ่าย หนู เมื่อเข้าทำ 2 เบรค 17 และ 54 แต้ม เอาชนะไปอีกในเฟรมนี้ 71-1 อิศ ลุกขึ้นมาจับมือแสดงความยินดีด้วย และยอมแพ้ไปในที่สุด 4 ต่อ 1 เฟรม

บิ๊ก สระบุรี พ่าย ฮาบิบ ซูบาห์ เฟรมตัดสิน 3-4 ตกรอบ 8 คน

คู่นี้ เป็นการพบกัน ระหว่าง อรรถสิทธิ์ มหิทธิ แชมป์สมัครเล่นโลกปี 2550 ของไทย กับ แชมป์บาห์เรน 4 สมัย ฮาบิบ ซูบาห์ ที่เอาชนะ มานะ อู่ประไพ และ พิสิษฐ์ จันทร์ศรี มาใน 2 รอบแรก

เฟรมที่หนึ่ง อรรถสิทธิ์ ขึ้นนำก่อน จากการตบแดงกินดำ ไป 4 ชุด นำไปก่อน 32-0 แล้วตามด้วย ชุดชมพู กับ 2 ไม้ นำห่างเป็น 46-0 ฮาบิบ มาตีคืนได้ในไม้ต่อมา เข้าเบรคไป 4 ชุดครึ่ง 29 คะแนน ไล่ตามมาเป็น 29-46 แต้ม  บิ๊ก ออกคิวด้วยความมั่นใจ ตบไปอีก 3 แดง 1 สี นำเป็น 56-29 แล้วมาได้ฟาล์ว 4 แต้ม นำเป็น 60-29 โดยเหลือ 2 แดงบนโต๊ะ ซึ่ง บิ๊ก สระบุรี เป็นฝ่ายเก็บไปได้ โดยกวาด 2 แดง แล้วตบหมดโต๊ะ ชนะไปขาดลอยในเฟรมแรก 100-29 ขึ้นนำไปก่อน 1-0 เฟรม

เฟรมที่สอง ฮาบิบ เป็นฝ่ายเข้าทำก่อนบ้าง หลังจากเสียฟาล์วให้ บิ๊ก ไป 4 แต้ม แล้วเข้าเบรคไป 6 ชุด 26 คะแนน ขึ้นนำไปก่อน 26-4 อรรรถสิทธิ์ มาโต้กลับบ้าง ตบไป 4 แดง + 3 ดำ กลับขึ้นมานำที่ 29-26 เกมยังสูสี โดยเหลือแดง 6 ลูกบนโต๊ะ ซึ่งปรากฏว่า ฮาบิบ ซูบาห์ เป็นฝ่ายเก็บเกี่ยวไปได้ทั้งหมดในไม้เดียว 35 แต้ม ขึ้นนำ บิ๊ก ไป 61-29 ก่อนจะมาเก็บเหลืองจน บิ๊ก ยอมแพ้ไปในเฟรมนี้ 63-29 คะแนน

ถัดมาเฟรมที่สาม เป็นโอกาสของนักสอยคิวจากบาห์เรนบ้าง เข้าเบรคยาว 8 ชุด นำ บิ๊ก สระบุรีไปถึง 64-0 บิ๊ก มาตีตื้นได้เล็กน้อย ตามมาที่ 28-64 แต่ ฮาบิบ เก็บแดงอีก 1 ชุด + แดงลูกสุดท้าย เอาชนะ บิ๊ก ไปในเฟรมนี้ 70-28 คะแนน กลับขึ้นมานำ บิ๊ก สระบุรี ไป 2 ต่อ 1 เฟรม

มาเฟรมที่สี่ บิ๊ก ไม่รอช้า กดเบรค ไปก่อน 4 แดง 4 ดำ 32 คะแนน บวกกับอีก 1 แดง เป็น 33-0 ฮาบิบ ตีตื้นขึ้นมาบ้าง โดยตบแดง กินน้ำตาล + กับแดงอีก 1 ลูก ตามมาห่าง ๆ ที่ 6-33 คะแนน แล้วมาเก็บแดงกินดำได้ไปอีก 3 ชุด 24 คะแนน จี้ติดมาถึง 32-33 คะแนน บิ๊ก รออยู่ไม่ไหว เร่งเครื่องทำเบรคอีก 25 แต้ม หนีห่างออกไปอีกเป็น 58-30 ก่อนจะชนะไปในเฟรมนี้ 65-36 ตีเสมอได้สำเร็จที่ 2 เฟรมเท่ากัน

เข้าเฟรมที่ห้า บิ๊กเป็นฝ่ายทำแต้มนำไปก่อน โดยตบไป 2เบรค 12 และ 24 แต้ม นำไป 36-0 แล้วมาโดน ฮาบิบ ตีคืน 6 ชุด 45 แต้ม กลับมานำ 45-36 บิ๊ก ตบแดงกินเขียว แล้วได้ชุดดำต่ออีก 1 ชุด แซงขึ้นหน้าไป 2 แต้มที่ 47-45 แต่มาเสียลูกสีตั้งแต่เหลืองถึงชมพูในไม้เดียว 20 แต้ม ทำให้ ฮาบิบ ชนะไปในเฟรมนี้ 65-47 ขึ้นนำไป 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่หก เป็นเฟรมที่พลิกผัน เพราะ ฮาบิบ ทำแต้มขึ้นนำไปก่อนถึง 44-5 และทำท่าจะปิดแมตช์ได้สำเร็จ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก แต่เมื่อ ฮาบิบ พลาดแดงเพื่อที่จะเขี่ยดำออกมาเล่น ทำให้ บิ๊ก ได้โอกาสลุกขึ้นมาเข้าเบรคไม้เดียว 67 แต้ม โดยแทงไป 6 ชุด แล้วกวาดสีหมดโต๊ะ ตีเสมอได้ที่ 3 ต่อ 3 เฟรมเท่ากัน ต้องไปตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย

ขึ้นเฟรมสุดท้าย ฮาบิบ คุมสถานการณ์ได้ตั้งแต่ต้นเกม ทำแต้มนำไป 45-0 จาก 2 เบรค 32 และ 13 แต้ม  บิ๊ก ตีคืนมาได้ 22 คะแนน ไล่ตามมาห่าง ๆ แต่มาโดน ฮาบิบ วางสนุ้กหลังน้ำเงิน ที่อยู่ปากหลุมเขียว ทำให้เสียคะแนนจากการฟาล์ว ทำให้ ฮาบิบ ขึ้นนำไปถึง 54-22 แล้วมาเก็บอีก 2 ชุดครึ่ง นำไปเป็น 64-22 แถมยังวางสนุ้กต่ออีก บิ๊ก แก้ไม่ถูกถึง 2 ครั้ง จึงยอมแพ้ไปในที่สุด ด้วยสกอร์ 22-72 ทำให้ ฮาบิบ เข้ารอบรองชนะเลิศ รอพบผู้ชนะระหว่าง หนู ดาวดึงส์ กับ อิศ จันท์ ที่กำลังแข่งขันอยู่ในขณะนี้ 

เอฟ วัน เร็วสมชื่อ ใช้เวลา 47 นาที ชนะ เต่า มาสเตอร์ 4 เฟรมรวด

รอบ 8 คน คู่ที่สอง วันนี้ เทพไชยา อุ่นหนู นักสอยคิวที่มีคะแนนสะสมขึ้นเป็นอันดับ 1 ของไทยในปัจจุบัน ควงเพลงคิว เอาชนะ สมพล แซ่ตั้ง หรือ เต่า มาสเตอร์ 4 เฟรมรวด ใช้เวลาเพียง 47 นาที

เฟรมแรก เอฟเป็นฝ่ายเปิดเฟรมก่อน แล้วทักทายไปก่อน ด้วยการตบแดง กินชมพู ตามด้วยแดงอีก 1 ลูก นำไป 8-0 แล้วมาเข้าเบรคยาว 12 ชุด โดยมี 7 น้ำเงิน กับ 5 ดำ รวม 84 คะแนน ใช้เวลาเพียง 10 นาที นำไปก่อน 1-0 เฟรม

เฟรมที่สอง เต่า มาสเตอร์ ออกสตาร์ทไปก่อน ด้วยการเข้าเบรคไป 2 ชุดครึ่ง 16 แต้ม นำ 16-0 แต่มาโดน เอฟ กดเบรคอีกครั้ง คราวนี้ทำไป 7 ชุด 52 แต้ม ก่อนชนะไปอีกในเฟรมที่สอง 78-22 คะแนน

เฟรมที่สาม เอฟออกก่อนบ้าง แต่ทำไปเพียง 1 ชุดดำ แล้วโดน เต่า เข้าเบรค ไป 3 ชุดครึ่ง กลับขึ้นมานำ 23-8 แต่ เอฟ โต้กลับทันควัน 8 ชุด ถึงเหลือง ทำไปอีก 64 คะแนน ชนะไปอีกในเฟรมนี้ 80-23 คะแนน ขึ้นแท่นไปก่อนทันที

ในเฟรมถัดมา เต่า เป็นฝ่ายเปิดเฟรมก่อน แล้วเข้าเบรคไป 4 ชุดครึ่ง นำไป 31-0 แต่ เอฟ ก็กลับมาเข้าเบรคคืนอีก 8 ชุด 59 คะแนน กลับมานำ 59-31 แล้วต่อด้วย 2 ชุดสุดท้าย และลูกสีถึงชมพูอีก 34 คะแนน ชนะไปในเฟรมที่สี่ 93-31 คะแนน ลอยลำเข้ารอบรองชนะเลิศ พบต่าย พิจิตร ต่อไป   

ต่าย พิจิตร ทะลุเข้ารอบ 8 ชนะ นัท แปดริ้ว 4-1 เฟรม

การแข่งขันคู่แรก รอบ 10.00 น. เช้าวันนี้ (28 ก.ค.) ต่าย พิจิตร ที่หักคิว รมย์ สุรินทร์ มาในรอบ 16 คน ลงสนามพบ นัท แปดริ้ว ที่เอาชนะ ที่ชนะ แจ็ค เชียงใหม่มา 4-2 เฟรม วานนี้เช่นกัน

เฟรมแรก ต่าย ออกนำไปก่อน หลังจาก นัท แปดริ้ว ทำฟาล์ว 4 คะแนน เข้าเบรค 3 ชุดครึ่ง 24 แต้ม นำไปก่อน 28-0 นัท มาได้ฟาล์ว 5 คะแนน แล้วโดนต่ายเบรคต่ออีก 3 ชุด 19 แต้ม หนีห่างไปเป็น 47-5 คะแนน หลังจากนั้น นัท แปดริ้ว ก็ยังจับอะไรไม่ได้ เสียแดงไปอีก 5 ลูก - 4 ชุด ทำให้ต่าย พิจิตร ชนะไปก่อนในเฟรมแรก 77-5 คะแนน

ขึ้นเฟรมที่สอง นัท มีโอกาสเข้าเบรค 3 ชุด ขึ้นนำไป 19-0 ต่าย ตามมาติด ๆ อีก 3 ชุดเล็กเช่นกัน ไล่ตามมาเป็น 16-19 แล้วมาเสียฟาล์ว 4 คะแนน ทำให้นัท เขยิบไปนำเป็น 23-16 แล้วกดเบรคอีก 4 ชุด 27 คะแนน หนีห่างไปเป็น 50-16 ต่ายมาเก็บแดงได้อีก 2 ลูก แต่ไม่มีลูกสี ตามมาเป็น 18-50 แล้วโดน นัท แปดริ้ว เก็บแดง 1 ชุด - 8 แต้ม ขึ้นนำเป็น 58-18 ตามด้วยแดงชุดสุดท้าย กินดำ แล้วตบเหลืองถึงชมพูอีก 28 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 86-18 คะแนน ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 เท่ากัน

เฟรมที่สาม ต่ายเป็นผู้เปิดเฟรม แล้วกินแดง+ดำ นำไปก่อน 8 แต้ม นัท ตามด้วยเบรค 4 ชุด 30 คะแนน ขึ้นนำ 30-8 ต่ายมาเก็บแดงกินดำ ตามด้วยอีก 1 แดง ไล่ตามมาเป็น 17-30 แต่ นัท ก็ตบแดง+ดำอีก 2 ชุด หนีไปอีกที่ 47-17 นำอยู่ 30 คะแนน หลังจากนั้น นัท ตบแดง แล้ววางสนุ้ก ต่ายแก้ไม่โดน เสียไปอีก 7 แต้ม ตามหลัง นัท อยู่ 24-47 นัท ลุกขึ้นมาตบแดงกินน้ำเงินไปอีก 1 ชุด แต่เข้าเบรคต่อไม่ได้ ได้ไปแค่ 5 คะแนน ขึ้นนำ ต่าย อยู่ที่ 53-24 แล้วโดน ต่าย เข้าเบรคยาว 4 ชุดสุดท้าย ได้ไปถึงลูกเขียว กลับขึ้นมานำ 57-53 เมื่อเหลือ 4 ลูกบนโต๊ะ  นัท เก็บน้ำตาล กินน้ำเงินได้ไป 9 คะแนน กลับมานำ 62-57 แต่มาถูก ต่าย พิจิตร ปล้นชมพู เก็บดำไปในไม้เดียว 13 แต้ม กลับมาเฉือนชนะไป 70-62 คะแนน ขึ้นนำ นัท แปดริ้วที่ 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่สี่ นัท เป็นผู้เปิดเฟรมบ้าง ต่าย ตบแดง แล้วต้องแทงกัน ได้ไป 1 คะแนน หลังจากนั้น นัทเก็บไป 2 แดง 1 น้ำเงิน กลับมานำ 7-1 ก่อนที่จะถูก ต่าย พิจิตร เข้าเบรคไม้เดียว 6 ชุด 45 คะแนน กลับขึ้นนำที่ 46-7 นัท โต้กลับทันควัน ด้วยเบรค 3 ชุดครึ่ง 22 คะแนน ตามมาห่าง ๆ ที่ 29-46 แล้วมาเก็บได้อีก 1 แดง เป็น 30-46 ก่อนที่ ต่าย พิจิตร จะเก็บ แดงชุดสุดท้าย กินชมพู แล้วเก็บเหลือง นำเป็น 55-30 ขาดลอย 1 สนุ้กฯ  และในที่สุดก็ตบเขียวและน้ำตาลไปได้อีก ชนะไป 62-30 คะแนน ขึ้นแท่นนำเป็น 3 ต่อ 1 เฟรม

ในเฟรมที่ห้า ต่าย ออกนำไปอีก 18-0 นัท ตามมาเป็น 7-18 แล้วโดน ต่าย หนีไปเป็น 25-7 นัท กลับมานำได้ที่ 32-25 เมื่อเข้าเบรคไป 3 ชุดครึ่ง 25 คะแนน แต่ก็โดนหนีไปอีก ด้วยการเข้าเบรค 34 แต้มของ ต่าย พิจิตร ทำให้ ต่าย กลับมานำ 59-32 คะแนน นัท ไล่ตามมาสูสีกันที่ 48-59 หลังแทงเขียวถึงน้ำเงิน 12 แต้ม  แต่ ต่าย มาเก็บชมพูได้ และชนะไปในที่สุด 65-48 คะแนน เข้าไปรอพบผู้ชนะ ระหว่าง เต่า มาสเตอร์ กับ เอฟ นครนายก ที่จะแข่งในคู่ต่อไป 

หนู ดาวดึงส์ พลาดทำแม็คซิมั่ม อดซิวรางวัล 147,000 บาท

การแข่งขันสนุกเกอร์ "แสงโสมโคราชคัพ" รอบ 16 คนคู่สุดท้าย หนู ดาวดึงส์ ลงแข่งขันกับ สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง เพื่อหาผู้ชนะเข้าไปพบกับ อิศรา กะไชยวงษ์ ในรอบ 8 คน

เฟรมที่ 1 หนูตบแดง+ดำไปก่อน 2 ชุด 16 แต้ม แล้วตามด้วยเบรคยาวอีก 7 ชุด 51 นำไปก่อนถึง 67-0 ขวัญมาจับเบรคได้ 2 ไม้ 26 กับ 28 แต้ม ไล่ตามมาเป็น 54-67 แต่เสียชมพู ทำให้หนู ดาวดึงส์ เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก 73-54

เฟรมที่สอง หนู ยังเครื่องร้อน ใส่ไปอีก 10 ชุด 71 แต้ม นำไปอีก 71-0 ขวัญตามเก็บมาได้ 3 ชุดดำ 24-71 ก่อนแพ้ไปอีกในเฟรมนี้ 28-76 หนู ขึ้นนำ 2-0 เฟรม

เฟรมที่สาม หนู ดาวดึงส์ พลาดโอกาสทำแม๊คซิมั่มเบรค หลังจากตบแดง กินดำ ไปถึง 12 ชุดครึ่ง โดยเหลือแดงแอบอยู่ข้างชิ่ง 2 ลูก ซึ่งจะต้องเขี่ยออกมาหลังตบลูกดำที่ 13 จึงทำให้พลาดดำ หมดโอกาสคว้ารางวัล 147,000 บาทจากแสงโสมไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ชนะไปในเฟรมนี้ 97-0 ใช้เวลาเพียง 10 นาที

เฟรมที่สี่ เป็นทีของ ขวัญ ออกมาโต้บ้าง กดเบรค 7 ชุดครึ่งไปก่อน 41 แต้ม แล้วตามด้วยเบรคอีก 6 ชุด 34 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้แบบขาดลอย 75-0 แต่ก็ยังตามหลังอยู่ 1 ต่อ 3 เฟรม

ในเฟรมที่สี่ หนู ไม่ปล่อยให้ วัญ ลุกขึ้นมาทำแชอะไรได้ถนัด กดทำแต้มไปก่อน 2 ชุด 16 แต้ม แล้วมาได้ฟาล์วอีก 4 นำไปเป็น 20-7 แล้วเข้าเบรคยาวอีกครั้ง คราวนี้ แทงไป 10 ชุด กับอีก 1 เหลือง 74 แต้ม ชนะไปอย่างท่วมท้น 94-7 ชนะไป 4 ต่อ 1 เฟรม เข้ารอบไปพบกับ อิศ จันท์ ต่อไปในวันพรุ่งนี้

อิศ จันท์ ใช้เวลาเพียง 57 นาที ชนะ นะ จันท์ แบบม้วนเดียวจบ 4-0 เฟรม

คู่ที่ 3 วันนี้ เป็นการพบกันของนักสอยคิวจากจันทบุรี โคจรมาเจอกันเอง โดย อิศรา กะไชยวงษ์ หรือ อิศ จันท์ มืออันดับ 8 ลงสนามกับ มานะ อู่ประไพ หรือ นะ จันท์ ที่เอาชนะแชมป์เก่า มูฮัมเหม็ด ซัจจาด มาในรอบไวล์การ์ดก่อนหน้านี้

อิศ จันท์ ใช้เวลาเพียง 57 นาที ทำเบรค 27 และ 90 แต้ม ในเฟรมที่ 1 ชนะไป 117-14

ในเฟรมที่สอง อิศ เข้าเบรคอีก 47 แต้ม ชนะไป 65-16

ส่วนเฟรมที่สาม อิศเปิดไม้เดียว 50 แต้ม แทงไป 6 แดง 6 ดำ แต่แดงชุดที่ 7 แดงลงไป 2 ลูก เลยหมดโอกาสทำแม็คซิมั่ม ชนะไปในเฟรมนี้อีก 68-13

และเฟรมที่สี่ นะ จันท์ มีโอกาสได้แทงบ้าง นำไปก่อน 31-19 แต่มาโดน อิศ เข้าเบรคอีกครั้ง เมื่อบนโต๊ะเหลืออยู่ 6 แดง กวาดไม้เดียว 6 ชุด และสีหมดโต๊ะ เอาชนะไปขาดลอย 87-31 เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมชาวนครราชสีมาได้อย่างกึกก้อง  

ฮาบิบ พิชิต หยิก สำโรง 4-3 เข้าไปเจอ บิ๊ก สระบุรี รอบ 8 คน

คู่นี้เป็นการพบกันในรอบ 16 คนสุดท้าย คู่ที่ 6 ระหว่าง นักสนุกเกอร์ไวล์การ์ด จากบาห์เรน ฮาบิบ ซูบาห์ ที่เอาชนะ ธัชชัย สุขสำราญ มาในรอบไวล์การ์ด กับ พิสิษฐ์ จันทร์ศรี หรือ หยิก สำโรง มืออันดับ 11 ของไทย

เฟรมแรก ทั้งสองออกคิวกันอย่างรัดกุม ผลัดกันตบแดงกินดำไปกันคนละ 2 ชุด หยิก มาได้อีก 2 ชุดชมพู ขึ้นนำไป 45-24 ในช่วงแรก หลังจากนั้น เกมเน้นหนักไปทางด้านการป้องกัน และวางสนุ้กฯ ทำให้ ฮาบิบ ได้แต้มจากการแก้ไม่โดนของ หยิก มาอีกถึง 20 คะแนน ไล่ตามมาเป็น 44-45 เกมเบียดกันอย่างมากในช่วงนี้ ก่อนที่ หยิก จะมาเก็บลูกสีได้ ตั้งแต่เหลือง ถึง น้ำเงิน เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก 72-50 คะแนน

ฮาบิบ มาแผลงฤทธิ์ทันควันในเฟรมที่สอง ทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียว พร้อมเบรค 30 และ 35 แต้ม เอาชนะไปขาดลอบ 81-9 ไล่ตามมาเป็น 1 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สาม สถานการณ์กลับมาเป็นของ หยิก สำโรง อีกครั้ง ค่อย ๆ ทำคะแนนนำ ฮาบิบ ไปทีละน้อย จนเอาชนะไป 63-24 คะแนน ขึ้นนำไป 2 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สี่ เป็นเฟรมที่สถานการณ์มีการพลิกผัน โดย ฮาบิบ ทำคะแนนในช่วงแรกขึ้นนำไปก่อน โดยมีเบรค แดง+ดำ 3 ชุด 24 แต้ม และชุดเล็กอีก 2 ชุด 14 แต้ม ขึ้นนำ หยิก สำโรง ไป 42-4 แล้วมาพลาดแดงหลังตบดำลูกที่ 3 ส่งผลให้ หยิก สำโรง ลุกขึ้นมาแทงไม้เดียว 8 ชุด 57 แต้ม ทำท่าจะเก็บชัยชนะได้อย่างง่ายดายในเฟรมนี้ แต่กลับมาพลาดแดงลูกสุดท้ายโดยต้องใช้เรสต์ข้างชิ่ง  ส่งผลให้ ฮาบิบ ลุกพรวดขึ้นมาแทงแดงลูกสุดท้าย พร้อมกวาดสีหมดโต๊ะ กลับมาเอาชนะไปในเฟรมนี้ 75-61 คะแนน ไล่ตีเสมอมาได้เป็น 2 ต่อ 2 เฟรมเท่ากัน

เฟรมที่ห้า หยิก สำโรง ฉวยโอกาสเข้าเบรคได้ 5 ชุด 37 แต้ม เก็บชัยชนะในเฟรมนี้ไปเพียงแค่ลูกเหลือง 67-27 คะแนน กลับมาขึ้นนำอีกครั้ง 3 ต่อ 2 เฟรม ในเฟรมถัดมา ทั้งคู่ผลัดกันเข้าเบรคชุดเล็ก มาสูสีกันโดย หยิก เป็นฝ่ายนำอยู่ 29-24 แต้ม ก่อนที่ ฮาบิบ จะจับเบรคได้ 4 ชุด 1 ดำ + 3 ชมพู 29 แต้ม กลับมานำ 53-29 แล้วเก็บแดงลูกสุดท้าย กับเหลือง และเขียว ชนะไป 67-29 คะแนน ตีเสมอได้เป็น 3 เฟรมเท่ากัน

เฟรมตัดสินเฟรมสุดท้าย ฮาบิบ เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน โดยเข้าเบรคไป 4 ชุด 3 ดำ และ 1 เหลือง 27 แต้ม นำไป 33-0 หยิก ไล่ทำแต้มตามมาเป็น 21-33 แล้วผลัดกันทำแต้มอีกคนละชุด โดย ฮาบิบ นำอยู่ 41-28 เมื่อเหลือแดง 3 ลูกบนโต๊ะ  ซึ่งนักสอยคิวต่างชาติ เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปได้ในที่สุด ด้วยการตบ 3 ชุดแดง แล้วแทงถึงน้ำเงินวางขาวมากินชมพู ทำให้ พิสิษฐ์ จันทร์ศรี ลุกออกมาจับมือยอมแพ้ไปในที่สุด 70-28 แต้ม   

บิ๊ก สระบุรี พลิกชนะ 4 เฟรมรวด หลังถูก นุ๊ก คอนหวัน นำไปก่อน 2-0

เช้าวันที่ 4 ของการแข่งขัน "แสงโสม โคราชคัพ" ที่ห้างสรรพสินค้า คลังพลาซ่า จ.นครราชสีมา คู่แรก เป็นการพบกันระหว่าง มือวางอันดับที่ 6 อรรถสิทธิ์ มหิทธิ แชมป์สมัครเล่นโลกปี 2550 กับ ปรมินทร์ ด่านจิรกุล มือวางอันดับที่ 16 ของประเทศไทย อดีตแชมป์เยาวชน 2 สมัย

เปิดเฟรมแรก นุ๊ก คอนหวัน จับจังหวะแรกได้ เข้าเบรคไปก่อน 9 ชุด 54 แต้ม แล้วตามเก็บแดงอีก ชุดครึ่ง เอาชนะ บิ๊ก สระบุรี ไปก่อน 71-9 นำ 1 ต่อ 0 เฟรม

ความสดของเด็กหนุ่มวัย 23 ปี จากเมืองปากน้ำโพ ยังเข้มข้นต่อมาในเฟรมที่สอง หลังจากที่โดน บิ๊ก สระบุรี นำไปก่อน 13-0 นุ๊ก คอนหวัน ก็เข้าเบรคอีก 2 ชุด 28 และ 37 แต้ม ก่อนชนะไปอีก 69-20 ในเฟรมที่ 2

ขึ้นเฟรมที่สาม นุ๊ก คอนหวัน ก้ยังคงออกสต๊าร์ทก่อน แทงไป 3 ชุดครึ่ง 23 แต้ม แล้วตามด้วยอีก 3 ชุดชมพู กับอีก 1 แดง ขึ้นนำไปถึง 54-16 ทำท่าจะนำถึง 3-0 เฟรม  บิ๊ก ไล่มาห่าง ๆ โดยตบชมพูไป1 ชุด ไล่มา 23-55 แล้วเก็บ 2 แดงสุดท้ายพร้อมกับกวาดหมดโต๊ะไปอีก 39 แต้ม เฉือนเอาชนะไป 63-55 ไล่ตามมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม

ขึ้นเฟรมที่สี่ นุ๊ก ก็ยังคงออกนำไปอีกโดยเบรคไป 6 ชุด 46 แต้ม นำไป 46-0 บิ๊กมาโต้กลับทันควัน ด้วยการเข้าเบรค 7 ชุด 48 แต้ม ไล่มานำ 48-46 แล้วคุมสถานการณ์ เก็บลูกที่เหลือถึงชมพู เอาชนะไปในเฟรมนี้ 76-46 ตามมาเสมอกันที่ 2 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่ห้า ทั้งสองผลัดกันทำคนละเบรค โดยบิ๊กนำไปก่อนบ้างถึง 51-0 ทำเบรค 35 และ 16 แต้ม นุ๊ก มาเก็บไปอีก 5 ชุดครึ่ง ไล่ตามมาเป็น 39-51 ก่อนโดนบิ๊ก แทงแดงลูกสุดท้าย แล้วตบสีถึงดำ ชนะไป76-39 กลับขึ้นมานำ นุ๊ก 3-2 เฟรมบ้าง

เฟรมสุดท้าย บิ๊ก แทงคนเดียว 3 เบรค 17, 31 และ 42 แต้ม ชนะไปขาดลอยถึง 96-9 เก็บชัยชนะ 4 เฟรมรวด เข้ารอบไปรอพบคู่ชนะ ระหว่าง พิสิษฐ์ จันทร์ศรี กับ ฮาบิบ ซูบาห์ จากบาห์เรนต่อไป 

เทพไชยา ยังมีลุ้น 3 แชมป์ติด หลังผ่านรอบ 16 คน

คู่สุดท้าย เป็นการพบกันระหว่าง โก๋ โคราช นักสอยคิวเจ้าถิ่น ที่เอาชนะแชมป์เก่าปีที่แล้ว มูฮัมเหม็ด ซัจจาด มาในรอบไวล์การ์ด กับ เทพไชยา อุ่นหนู มือวางอันดับหนึ่งคนล่าสุดของไทยอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากคว้าแชมป์ 2 รายการติดที่ภูเก็ต และที่สระบุรีที่ผ่านมา

ในเฟรมแรก โก๋ โคราช สามารถออกนำไปก่อน 62-50 เทพไชยา มาตีเสมอได้ในเฟรมที่สอง ด้วยเบรค 68 แต้ม หลังจากตามหลังอยู่ 1-42 พลิกกลับมาเอาชนะไป 69-42 และนำต่อในเฟรมที่สาม ด้วยการเฉือนเอาชนะไปเพียง 9 คะแนน 59-50 ขึ้นนำ 2 ต่อ 1 เฟรม

โก๋ โคราช มาตีเสมอได้อีกในเฟรมที่ 4 โดยเบียดเอาชนะไปอีกแบบสูสี 65-60 คะแนน

เทพไชยา มาเอาชนะได้ใน 2 เฟรมที่ห้า โดยในเฟรมที่ 5 เอาชนะไปแบบขาดลอย 85-9 ขึ้นแท่นไปก่อนที่ 3 ต่อ 2 เฟรม

ในเฟรมที่หก เอฟ นครนายก ก็สามารถปิดแมตช์ได้สำเร็จ ชนะไปอีก 72-41 ผ่านเข้ารอบ 8 คนไปเป็นรายที่สี่ ลุ้นโอกาสคว้า 3 แชมป์ติดได้ต่อไป

เต่า มาสเตอร์ ออกนำก่อน 2-0 แล้วเก็บอีก 2 เฟรมหลัง ชนะ ชิม ศิษย์ต่ายไป 4-1

คู่ที่ 3 ของวันนี้ รอบ 16.00 น. สมพล แซ่ตั้ง หรือ เต่า มาสเตอร์ มือวางอันดับ 9 ของประเทศ เชือด รองแชมป์เยาวชนโลกปี 2547 กอบกิจ พลาจิณ หรือ ชิม ศิษย์ต่าย แชมป์พูล 9 ลูกประเทศไทยคนล่าสุด สบายมือ 4-1 เฟรม เข้ารอบ 8 คนรอพบคู่ชนะ ระหว่าง เทพไชยา อุ่นหนู กับ นคร ชาพล ที่จะลงแข่งขันเป็นคู่ต่อไป

เฟรมที่ 1 เต่า มาสเตอร์ ออกคิวทักทายก่อน ด้วยเบรค 37 แต้ม แล้วเก็บชุดเล็กอีก 2 ชุด นำไป 51-0 กอบกิจ มาจับเบรคย่อยได้ 3 ชุด 21 คะแนน ไล่ตามมาห่าง ๆ แล้ววางสนุ้กฯ ได้มาอีก 10 แต้ม เขยิบมาเป็น 39-52 เต่า มาเก็บแดงสุดท้าย ถึงน้ำเงิน ชนะไปก่อนในเฟรมแรก 77-39 คะแนน

เต่าหนีห่างไปเป็น 2-0 เฟรมในเฟรมที่สอง ด้วยการเข้าเบรคเล็ก ๆ  3 เบรค ชนะไปขาดลอย 75-1 คะแนน ในเฟรมที่สอง

ชิม ศิษย์ต่าย มาตีคืนได้ในเฟรมที่ 3 จับแดงดำได้ไป 1+4ชุดครึ่ง นำไป 42-0 ก่อนจะชนะไปในเฟรมนี้ด้วยคะแนน 71-15 ไล่ตามมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม

ในเฟรมที่สี่ ชิม ทำท่าจะดีขึ้น เข้าเบรคไป 3 แดง 3 ดำ 24 แต้ม แล้วมาพลาดแดงลูกที่สี่ เปิดโอกาสให้ เต่า มาสเตอร์ โต้กลับด้วยการเข้าเบรคไปก่อน 2 ชุด 14 คะแนน ตามด้วยเบรคใหญ่อีก 10 ชุด และทำท่าจะกวาดหมดโต๊ะ แต่มาพลาดดำลูกสุดท้าย เลยทำไปแค่ 89 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 107-24 ขึ้นนำเป็น 3 ต่อ 1 เฟรม

ในเฟรมที่ห้า เต่า มาสเตอร์ ไม่รอช้า ก้มหน้าทำคะแนนทีละ 2-3 และ 4 ชุด เอาชนะไปอีกด้วยสกอร์ 67-8 ส่งผลให้ลอยลำเข้าไปเล่นในรอบ 8 คน รอพลผู้ชนะ ระหว่าง เทพไชยา อุ่นหนู กับ นคร ชาพล ต่อไป 

ต่าย-รมย์ เรียกผู้ชมค่อนสนาม ผล ต่าย ชนะไป 4-1 ชน นัท แปดริ้ว รอบ 8 คน

คู่ที่สอง เป็นการพบกันของอดีตยอดคิวเมืองไทย ต่าย พิจิตร และ รมย์ สุรินทร์ ที่เคยพบกันมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศทั้งระดับเอเซีย และระดับสมัครเล่นโลก โดย รมย์ สุรินทร์ เอาชนะไป 2 ครั้ง ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเซีย ปี 2535 และ 2536 ส่วน ต่าย พิจิตร มาคว้าชัยชนะในการแข่งขันชิงแชมป์สมัครเล่นโลก ไปในปี 2536

รมย์ เปิดการทักทายก่อนในเฟรมแรก ด้วยการตบ 2 ชุดดำ + 1 ชุดเขียว และ 1 ชุดน้ำตาล ออกนำไปก่อน 25-0 ก่อนจะมาวางสนุ้กฯได้ฟาล์วมาอีก 3 ไม้ และเมื่อมีโอกาส รมย์ ก็กดเบรคอีก 49 แต้ม ประเดิมชัยไปก่อนในเฟรมแรก 88-12

ขึ้นเฟรมที่สอง รมย์เป็นฝ่ายเปิดเฟรม แต่โดนต่าย พิจิตร กดเบรคไป 48 แต้ม ด้วยการแทง 6 แดง + 6 ดำ ขึ้นนำไปก่อน 48-3 รมย์ไล่มาสูสีในช่วงกลางเฟรม ตบแดงกินดำไป 3 เช่นกัน ไล่ตามมาเป็น 42-49 แต่ก็มาโดน ต่าย พิจิตร เก็บแดงสุดท้าย แล้วกินสีถึงลูกน้ำเงิน ชนะไปขาดลอย 68-42 ตามมาเสมอกันที่ 1 เท่า

เฟรมที่สาม ต่าย พิจิตร ยังคงขึ้นนำด้วยการตบแดงกินดำ 3 ชุด 24 แต้ม แล้วมาเก็บต่ออีก 5 ชุด 5 แดง 3 น้ำเงิน 2 ดำ 34 แต้ม ชนะไปในเฟรมที่สาม 62-13 ไฃกลับขึ้นมานำเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม

ในเฟรมถัดมา ต่าย พิจิตร ยังคงออกนำไปก่อน กดเบรค 6 ชุดครึ่ง 44 แต้ม ก่อนที่รมย์จะสอยกลับไป 5 ชุด กับ 1 ลูกเหลือง ไล่ตามมาเป็น 36-52 แต่มาเสียฟาล์ว 7 แต้มให้ ต่าย พิจิตร คุมสถานการณ์ได้ แถมยังเก็บลูกสีไปถึงชมพู ชนะไปขาดลอย 77-36 ขึ้นแท่นไปก่อนที่ 3 ต่อ 1 เฟรม

ในเฟรมที่ห้า ซึ่งเป็นเฟรมสุดท้ายของ รมย์ สุรินทร์ ที่เข้าเบรคชุดเล็กไปก่อน 2 ชุดครึ่ง ได้ไป 17 แต้ม แล้วเก็บอะไรไม่ได้อีก นอกจากลูกแดง 2-3 ลูก ในขณะที่ ต่าย พิจิตร เครื่องเริ่มร้อน เข้าเบรค ไปอีก 8 ชุด 5 ชมพู + 3 ดำ 59 แต้ม ชนะ รมย์ สุรินทร์ ไป 63-20 และสกอร์รวม 4 ต่อ 1 เฟรม ลอยลำเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย ไปพบ นิธิวรรธก์ กาญจนศรี ในรอบ 8 คน เวลา 10.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.)  

นัท แปดริ้ว ระเบิดฟอร์ม ชนะ แจ็ค เชียงใหม่ รอพบ ต่าย-รมย์

การแข่งขันสนุกเกอร์ "แสงโสม โคราชคัพ" เช้านี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. เป็นการพบกันระหว่าง สุพจน์ แสนหล้า กระบี่มือ 1 ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ กับ นิธิวรรธก์ กาญจนศรี นักกีฬาพูล ชุดทีมชาติซีเกมส์ที่อินโดนีเซียในปีนี้

นัท แปดริ้ว ออกคิวข่มขวัญคู่ต่อสู้ทันทีในเฟรมแรก เข้าเบรคไม้เดียว 83 แต้ม โดยตบไป 9 แดง 9 ดำ แต่แดงลูกที่ 10 ต้องหันไปเล่นเหลือง เลยหมดโอกาสทำแม็คซิมั่ม เบรค 147 แต้ม แล้วกลับมาตบแดง-ดำได้อีก 1 ชุด ชนะไปก่อนด้วยคะแนน 96-20

แจ็ค เชียงใหม่ โต้กลับทันควันในเฟรมที่ 2 หลังถูก นัท แปดริ้วนำไป 20-4 เข้าเบรค 9 แดง 9 ชมพู 63 แต้ม เอาชนะไปในเฟรมนี้ 67-20 ไล่ตามมาเป็น 1 ต่อ 1 เท่ากัน

สถานการณ์ในเฟรมที่สาม กลับมาเป็นของ นัท แปดริ้ว อีกครั้ง โดยแทงไป 4 แดง + 3 ดำ นำไปก่อน 25-0 หลังจากนั้น ก็มาเก็บชุดเล็ก ๆ ได้อีก รวมทั้งวางสนุ้กฯ และเข้าเบรคเล็กอีก 20 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 75-9 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม

ในเฟรมถัดมา นัท แปดริ้ว ยังรักษารูปเกมไว้ได้ ทำอีก 2 เบรค 31 และ 28 แต้ม ในขณะที่ แจ็ค เชียงใหม่ เก็บคะแนนไปได้เพียงไม้เดียว 2 ชุด 13 แต้ม นัท แปดริ้ว ชนะไปอีกในเฟรมนี้ 72-13 ขึ้นนำเป็น 3 ต่อ 1 เฟรม

แจ็ค เชียงใหม่ มาตีคืนได้ในเฟรมที่ห้า หลังจาก นัท แปดริ้ว ตบแดงกินน้ำเงินไป 2 ชุด 12 แต้ม ก็โดน แจ็ค เชียงใหม่ เข้าเบรคไม้เดียว 9 ชุด โดยมี 9 แดง + 3 น้ำเงิน + 2 ชมพู และ 4 ดำ รวม 64 แต้ม เอาชนะไป 65-12 ไล่ตามมาเป็น 2 ต่อ 3 เฟรม

ในเฟรมที่ 6 แจ็ค เชียงใหม่ เข้าเบรคในขณะที่แดงเปิดออกมาหลายลูก แต่มาพลาดลูกดำหลังจากเข้าเบรคไป 4 ชุดครึ่ง 28 แต้ม แถมวางขาวตั้งไว้กินแดงเตรียมต่อเบรค ส่งผลให้ นัท แปดริ้ว ลุกออกมาเก็บคะแนนรวดเดียวอีก 10 ชุด + ลูกเหลือง ก่อนจะมาพลาดลูกเขียว ทำไปอีก 73 คะแนน เอาชนะไปในเฟรมนี้ 73-28 ลอยลำเข้ารอบ 8 คน ไปรอพบคู่ชนะ ระหว่าง รมย์ สุรินทร์ และ ต่าย พิจิตร ในรอบ 8 คนต่อไป 

ฮาบิบ ซุบาห์ ผ่านเข้ารอบ 16 หลังชนะ ตัวเล็ก ใส่หมวก 4-2 เฟรม

ไวล์การ์ด คู่ที่สาม เป็นการพบกันระหว่าง ธัชชัย สุขสำราญ หรือ ตัวเล็ก ใส่หมวก มือคิวอันดับ 33 ของประเทศ โดย ตัวเล็ก ทักทายผู้มาเยือนจาก บาห์เรน ก่อนเบา ๆ ด้วยเบรค 2 ชุดเล็ก 24 และ 35 ออกนำไปก่อนในเฟรมแรก 76-30

เฟรมที่สอง ตัวเล็ก ใส่หมวก เริ่มเล่นของหนัก กดเบรคโป้งเดียว 65 แต้ม โดยตบไป 10 แดง, 2 น้ำตาล, 2 เขียว, 1 ชมพู กับอีก 5 ดำ นำไปก่อนทันที 65-0 ฮาบิบ มาตีคืนได้ด้วยการเข้าเบรคเบา ๆ ไป 4 ชุด 31 แต้ม ไล่ตามมาเป็น 31-65 แต่ ตัวเล็ก ก็เก็บแดงลูกสุดท้าย เอาชนะไป 68-31 นำห่างเป็น 2-0 เฟรม

จบเฟรมสอง ฮาบิบ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นรองอยู่ไม่น้อย เริ่มระวังตัวมากขึ้นในเฟรมที่สาม ไม่ปล่อยให้ ตัวเล็ก เข้าเบรคยาวได้ง่าย ๆ ซึ่งก็ได้ผล โดยในเฟรมที่สาม ตัวเล็ก ไม่สามารถจับเบรคยาวได้เลย แล้วแพ้ไป 21-57 คะแนน ฮาบิบไล่ตามมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม

สถานการณ์เริ่มกลับมาของ ฮาบิบ มากขึ้นอีกในเฟรมที่สี่ เข้าเบรคสั้น ๆ ได้อีก 2 ชุดเล็ก 21 และ 22 คะแนน แล้วปิดท้ายด้วยการตบแดงสุดท้ายถึงน้ำตาล ในขณะที่ ตัวเล็ก ตบได้ไม่เกิน 2 ชุด ฮาบิบ ชนะไปในเฟรมที่สี่อีก ด้วยคะแนน 65-36 ตามมาเสมอกันที่ 2-2

เฟรมที่ห้า ฮาบิบ คุมเกมได้มากขึ้น เข้าเบรคอีก 28 แต้มในช่วงต้นเฟรม ตามด้วยการวางสนุ้กฯ ทำให้นำ ตัวเล็ก ไป 44-1 คะแนน ตัวเล็ก มาเข้าเบรคได้ 30 แต้ม ไล่ตามมาเป็น 32-44 แต่ก็โดน ฮาบิบ เก็บ 3 แดงสุดท้าย และไล่เหลืองถึงน้ำตาล เอาชนะไปอีก 68-32 กลับมานำ ตัวเล็ก เป็น 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่หก ตัวเล็ก ทำแต้มนำไปก่อน ด้วยการตบ 1 ชุดดำ กับอีก 1 แดง นำไป 9-0 ฮาบิบทำคะแนนตามมาด้วยการตบ 1 ชุดดำ + 2 ชุดน้ำเงิน 20 คะแนน แล้วเก็บเล็กผสมน้อย ขึ้นนำไปเป็น 47-16 ตัวเล็กมาเก็บชุดเล็กได้อีก 4 ชุด 29 แต้ม ตามมาเบียดกันที่ 47-45 เกมออกมาชิงกันในช่วงเหลืองถึงดำ โดย ฮาบิบ เก็บเหลืองได้ ขึ้นนำ 49-45 ตัวเล็กได้เขียว ตามมาเป็น 49-48 แล้วมาเสียน้ำตาลกับน้ำเงินให้ฮาบิบขึ้นนำอีกครั้งที่ 58-48 ทำให้ตัวเล็กต้องชิง 2-1 เมื่อเหลือชมพู+ดำ ตัวเล็กเก็บชมพูได้ ตามมาเป็น 54-58 ต้องเล่นชิงดำ ซึ่ง ฮาบิบเก็บดำไปได้ในที่สุด ชนะไป 65-54 ผ่านเข้ารอบ 16 คน ไปพบกับ พิสิษฐ์ จันทร์ศรี ในวันที่ 27 ก.ค. ต่อไป 

มูฮัมเหม็ด ซัจจาด แชมป์ปีที่แล้ว ถูก มานะ อู่ประไพ สอยร่วง ในรอบไวล์การ์ด

มานะ อู่ประไพ หรือ นะ จันท์ ควงคิวสยบคู่แข่งชาวปากีสถาน มูฮัมเหม็ด ซัจจาด แชมป์แสงโสมโคราชคัพ และรองแชมป์เอเซียเมื่อปีที่แล้ว สวยงาม เป็นการเปิดสนามดิวิชั่น 1 รายการที่ 6 "แสงโสม โคราชคัพ" ที่อีเวนท์ ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า เมื่อบ่ายวันนี้ (25 ก.ค.)

ก่อนการแข่งขัน เจ้าภาพได้จัดพิธีเปิดการแข่งขันขึ้น โดยมี นายกมล ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบุคคลและนิติการ สำนักงานคณะกรรมการ การประถมศึกษาแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมกับ นายมานพ จันทร์สูงเนิน - ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา และผู้จัดการสโมสรกีฬาบิลเลียด-สนุกเกอร์ จ. นครราชสีมา และ นายแอนดี้ เฮเดน - ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คลังพลาซ่า จำกัด เจ้าของสถานที่แข่งขัน และ นายสมศักดิ์ จักสาร - เลขานุการสโมสรกีฬาบิลเลียด-สนุกเกอร์ จ.นครราชสีมา ร่วมในพิธีเปิด

การแข่งขันคู่แรก เป็นการพบกันในรอบไวล์การ์ด ของนักสนุกเกอร์ชาวปากีสถาน เจ้าของตำแหน่งแชมป์รายการนี้ เมื่อปีที่แล้ว ลงสนามพบกับ มานะ อู่ประไพ มือคิวรุ่นเก๋าชาวจันทบุรี เฟรมแรก ซัจจาด พุ่งออกจากมุมเหมือนธนูออกจากคันศร กดเบรคไม้เดียว 83 แต้ม เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก แบบ นะ จันท์ ไม่ทันได้กระดิก 91-0

เฟรมที่สอง เฟรมดำเนินไปอย่างสูสีโดย นะ จันท์ ทำเกมได้ดีกว่า ออกนำไปก่อน 39-1 แล้วตามเก็บเล็กผสมน้อย เอาชนะไปได้ในเฟรมนี้หลังได้น้ำตาล ด้วยสกอร์ 58-29 ไล่ตามมาเป็น 1 ต่อ 1 เฟรมเท่ากัน มานะ มาเครื่องร้อนในเฟรมที่ 3 เข้าเบรคยาวหลังจากออกนำไปก่อน 21-0 โดยทำไปอีกไม้เดียว 50 แต้ม เอาชนะไป 71-5 ขึ้นนำแชมป์เก่าไปเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม

ซัจจาด โต้กลับในเฟรมต่อมา ใช้เวลาเพียง 10 นาที ซัดไม้เดียว 70 แต้ม โดยตบไป 10 ชุดครึ่ง ไล่ตีเสมอ นะ จันท์ มาเป็น 2 ต่อ 2 เฟรม ขึ้นเฟรมที่ห้า ซัจจาด ตบไปก่อน 2 ชุด นำไป 15-0 ก่อนถูก นะ จันท์ โต้กลับ แล้วชนะไปในเฟรมนี้ 73-16 ขึ้นแท่นไปก่อนที่ 3 ต่อ 2 เฟรม

ในเฟรมที่หก ซัจจาด หลังชนฝา ออกมาตบได้แค่ 6 แต้ม แล้วโดนจับนั่งยาว ปล่อยให้ นะ จันท์ ไล่ทำเบรคสนุกมือไปอีก 3 ชุด ชนะไปขาดลอย 71-6 ผ่านเข้ารอบ 16 คนไปพบ นักสอยคิวรุ่นน้องจากจันทบุรีเช่นกัน คือ อิศ จันท์ ต่อไป 

นคร ชาพล หรือ โก๋ โคราช เอาชนะ เป้า ศิษย์ฉ่อย ผ่านเข้ารอบ 16 คน

ผลการแข่งขันสนุกเกอร์ดิวิชั่น 1 รายการที่ 6 ประจำปี 2554 “แสงโสม โคราชคัพ” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2554 ที่ห้องอีเวนท์ ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้า คลังพลาซ่า จอมสุรางค์ จ.นครราชสีมา รอบไวล์การ์ดคู่แรก เป็นการพบกันระหว่าง ธงชัย ปุณยวีร์ หรือ เป้า ศิษย์ฉ่อย กับ นคร ชาพล หรือ โก๋ โคราช มือวางอันดับที่ 29 อย่างเป็นทางการ ที่ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 19 แล้วในขณะนี้

ผลปรากฏว่า โก๋ โคราช สามารถเอาชนะ เป้า ศิษย์ฉ่อยไปได้ 4-1 เฟรม ด้วยสกอร์ 50-70 (28), 69 (56)-10, 73-65 (36), 63-43 (27), 70 (33)-21

ส่งผลให้โก๋ โคราช ได้เข้าไปแข่งขันในรอบ 16 คนสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) โดยจะต้องไปพบกับ เทพไชยา อุ่นหนู มือ 1 ประเทศไทยคนปัจจุบัน ที่เพิ่งกวาดแชมป์สะสมคะแนน 2 รายการล่าสุด ที่ จ.ภูเก็ต และ จ.สระบุรี มาสด ๆ ร้อน ๆ โดยจะพบกันในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) เวลา 19.00 น.

** เส้นทางรอบ 16 คน **                     ** คะแนนเฟรมต่าง ๆ **

อัพเดทล่าสุด 1 ส.ค. 54 - เวลา 18.40 น.