"คิวทอง" เปิดตำนาน 7 แชมป์โลกไทย คนที่ 2 "นพดล นภจร"

6 ธ.ค. 56
ศักดา รัตนสุบรรณ แสดงความยินดี หนู ดาวดึงส์ หลังพิชิต โดมินิค เดล คว้าแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก เมื่อปี 2534
ศักดา รัตนสุบรรณ แสดงความยินดี หนู ดาวดึงส์ หลังพิชิต โดมินิค เดล คว้าแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก เมื่อปี 2534

"คิวทอง" เปิดตำนาน 7 แชมป์โลกไทย คนที่ 2 "นพดล นภจร"

ถ้า อ่านชื่อตามบัตรประชาชน (เต็มขั้น) นายนพดล นภจร เชื่อว่าหลายคนอาจนึกไม่ออกว่าเป็นใคร แต่ถ้าเอ่ยนิคเนม หนู ดาวดึงส์ คนในแวดวงสอยคิวต้องร้องอ๋อไปตามๆ กันเพราะ หนู ดาวดึงส์ ผู้สร้างตำนานคว้าแชมป์สมัครเล่นโลกคนที่ 2 ต่อจาก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ซึ่งเรื่องราวและที่มาของนิคเนม หนู ดาวดึงส์ เป็นมาอย่างไร "คิวทอง" ขุดคุ้ยเล่าสู่กันฟังดังนี้

เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2511 คุณพ่อบุญเลิศ และ คุณแม่ ล้วน ได้ให้กำเนิดทายาทคนที่สองเพศชายของตระกูล นภจร ที่โรงพยาบาลศิริราช กทม. โดยครบครัวนี้มีบุตร 4 คนเป็นชาย 3 และ หญิง 1 ซึ่งถือเป็นครอบครัวชาวบ้านธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาเพราะลูกชายคนที่ 2 นามว่า ไอ้หนู มันดันก้าวไกลไปเป็นแชมป์โลกสอยคิวทำให้ ประชาชนคนไทย รู้จักและคุ้นหูกับคนตระกูลนี้

และจากที่ครอบครัวนี้มีถิ่นฐานอาศัยอยู่ย่านฝั่งธนฯ ปัจจุบันกลายเป็น กรุงเทพมหานคร ไม่มีฝั่งธนฯ หรือฝั่งพระนคร ซึ่งย่านฝั่งธนฯ สมัย 40 ปีก่อน จะมีโต๊ะสนุกเกอร์หลายแห่ง ทำให้ลูกเด็กเล็กแดงที่ไม่ค่อยจะยอมไปโรงเรียนหันมาเข้าโต๊ะสนุกฯ แทน สร้างปัญหาให้แก่ผู้ปกครองเป็นอย่างมากจนมีการร้องเรียนไปยัง กระทรวงมหาดไทย ให้ช่วยกำราบและที่สำคัญอย่าได้ออกใบอนุญาตเปิดโต๊ะสนุกเกอร์อีกต่อไป ซึ่งต่อมาในยุคที่ พล.อ.สิทธิ์ จิรโรจน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงออกคำสั่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ห้ามเซ็นใบอนุญาตเปิดโต๊ะสนุกเกอร์ หากใครไม่ปฏิบัติจะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาดเพราะถือว่า โต๊ะสนุกเกอร์คือแหล่งมั่วสุมอบายมุขและเป็นจุดที่ทำให้เกิดอาชญากรรม โดยเน้นหนักห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปในสถานที่แห่งนี้โดยเด็ดขาด เป็นการสกัดกั้น นักเรียน (ขาสั้น) ที่ไม่ยอมไปโรงเรียนแต่เข้าโต๊ะสนุกฯ แทน

แต่ถึงจะมีกฎเข้มขนาดไหนก็ยังมี "อัศวินลอดห่วง" กำเนิดเด็กวัย 13 ปีที่ว่ากันว่าฝีมือยอดเยี่ยม โดยปราบเซียนดังๆ มานักต่อนัก ไอ้หนูที่ว่าอยู่โต๊ะคลองเตยชื่อ เจ้าต๋อง เป็นลูกเจ้าของโต๊ะคุณพลอยรุ้ง โดยมีเซียนฉ่อยผู้เป็นพ่อให้การฝึกสอน เซียนฉ่อยในยุคนั้นต้องยอมรับว่าฝีมืออยู่ในขั้นระดับเซียนแต่ไม่ใช่ประเภทหัวแถวโดยได้เพื่อนซี๊ วิเชียร แสงทอง หรือ "เซียนกิ๊ด นครสวรรค์" ซึ่งเป็นกระบี่มือหนึ่งในสมัยนั้นช่วยกันฝึกสอนจนชื่อ ไอ้ต๋อง โด่งดังก่อนเห็นตัว ซึ่งในช่วงเวลานั้นเกิด เด็กเก่งขึ้นมาอีกคนแต่อยู่ย่านฝั่งธนฯ เด็กรายนี้คือ เจ้านพ อายุ 15 ปีซึ่งเป็นศิษย์ของอดีตแชมป์ประเทศไทยผู้โด่งดัง มงคล กั้นฝากลาง หรือ เซียนตึ๊ก โคราช ซึ่งเป็นเซียนอาวุโสรายเดียวที่ยังมีชีวิตเพราะเพื่อนพ้องเซียนรุ่นราวคราวเดียวต่างหนีไปเกิดใหม่กันหมดอาทิ งี๊ ดำรงรักษ์-ตา ลพบุรี-เง็ก อ่างทอง-โก๊ะ อยุธยา-กิ๊ด นครสวรรค์-นพ บ้านใหม่-บัติ หัวตะเข้ คนพวกนี้ไปฝนคิวรออาจารย์ตึ๊ก ซึ่งปัจจุบันอายุ 83 เดินเหินชักมีปัญหาต้องมีคนคอยพยุงซึ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น โรคถุงลมโป่งพอง กำลังมาเยือนเพราะเซียนรุ่นเก่าหนีไม่พ้นเรื่อง เหล้า-บุหรี่ ดังนั้นพออายุมากสารพัดโรคก็ทยอยกันมาเป็นชุด ซึ่งขณะนี้เซียนตึ๊กอาศัยอยู่ตึกแถวย่านลำสาลีโดยมีหลานๆ ผลัดกันมาดูแล

และเนื่องจากในยุคนั้น เซียนกิ๊ด และ เซียนตึ๊ก ถือเป็นยอดกระบี่หากสู้กันไม่รู้ว่าออกใคร หากเปรียบหนังกำลังภายในก็ต้องบอกว่า เส้าหลิน ปะทะ บู๊ตึ๊ง โดยทั้งคู่สู้กันนานหลายปีผลัดกันแพ้ชนะ ซึ่งแต่ละคนก็เริ่มสูงวัย เมื่อต่างฝ่ายต่างมีศิษย์ความคิดจึงเข้าสมอง คิวทอง โดยจัดให้ลูกศิษย์อาจารย์ตึ๊ก คือ เจ้าหนู ปะทะลูกศิษย์เซียนกิ๊ด เจ้าต๋อง โดยในช่วงนั้นเด็กทั้งคู่ยังไม่มี ฉายา มีแต่คนเรียกว่า หนู เรือนไทย กับ ต๋อง คลองเตย

การประลองฝีมือหนนั้นจัดให้มีขึ้นที่ลานจอดรถราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) โดยนำเต็นท์มาขึงเป็นวงกลมและเช่าแอร์คอนดิชั่นมาเปิดในห้องแข่งขัน ปรากฏว่าแฟนสนุกเกอร์แห่เข้าชมอย่างแน่นขนัดโดย หนู เอาชนะ ต๋อง 3-2 เฟรม ซึ่งการแข่งขันมีขึ้นกลางปี 2526 หรือ 30 ปีที่ผ่านมาซึ่งปัจจุบัน เจ้าต๋อง อายุ 43 และ เจ้านพ อายุ 45

ว่ากันถึงฉายาที่มาของ ต๋อง และเซียนดังเกือบทุกคนในปฐพี ไม่ว่ารุ่นเก่ารุ่นใหม่ ฉายา ที่ได้ส่วนใหญ่จาก คิวทอง ซึ่งผู้ตั้งมีจุดประสงค์เพื่อเจตนาดีกับตัวนักกีฬา จึงตั้งฉายาไปตามถิ่นฐานตามกำเนิด หลายคนอาจสงสัยทำไมเป็น ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เหตุผลก็เพราะ เจ้าฉ่อย เป็นพ่อ เจ้าต๋อง และเป็นครูคนแรกที่สอนวิทยายุทธ ส่วนเจ้านพ ซึ่งสมัยนั้นตัวเล็กมากจนหลายคนเรียก ไอ้หนู แต่เนื่องจากพ่อ-แม่ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ย่านวัดดาวดึงส์ เชิงสะพานกรุงธนฯ ข้างห้าง พาต้า จึงเป็นที่มาของ หนู ดาวดึงส์ นอกจากนี้ฉายาที่ คิวทอง มอบให้แก่นักสนุกเกอร์ทั่วประเทศโดยส่วนใหญ่ยึดชื่อเล่นเป็นหลัก และตามด้วยสถานที่กำเนิด เพื่อให้ทุกคนรู้ว่า คนๆ นี้เป็นคนจังหวัดไหนและที่สำคัญเป็นการสร้างชื่อให้จังหวัดบ้านเกิดอาทิ ต่าย พิจิตร-ณุ ลำปาง-เบิ้ม เชียงใหม่-รมย์ สุรินทร์-วัช หาดใหญ่-แจ๊ค เชียงใหม่-แจ๊ค สระบุรี-บิ๊ก สระบุรี เป็นต้น แม้แต่เซียนรุ่นเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็น เซียนกิ๊ด-เซียนตึ๊ก-เซียนเง็ก-เซียนโก๊ะ-เซียนรินทร์ ระยอง-เซียนเอ็ง บ้านใหม่-เซียนยี่ กรมชลฯ, เซียน กุ่ม ดาวคะนอง ฯลฯ คิวทอง เป็นผู้มอบฉายาให้ทุกคน เพราะนอกจากจะรู้ว่า จอมคิวรายนี้มาจากไหน แค่รู้ฉายาก็จะรู้ได้ทันที

หลังจากการประลองฝีมือระหว่าง นพดล นภจร กับ วัฒนา ภู่โอบอ้อม ซึ่งผลปรากฏว่า เจ้านพ เฉือนชัยเอาชนะไปแบบเฉียดฉิว 3-2 เฟรม ซึ่งใครได้ชมฝีมือเด็กคู่นี้ต้องทำนายว่าอนาคต เด็กทั้งคู่ต้องไปไกล และในเวลาต่อมาการคาดคะเนของใครต่อใครก็เกิดขึ้นจริง เจ้าต๋อง สร้างชื่อตั้งแต่อายุ 14 ปีกับ 8 เดือนด้วยการคว้าแชมป์สนุกเกอร์เอเชีย เมื่อปี 2528

จากนั้นในปี 2531 ต๋อง ก็ก้าวสู่แชมป์สมัครเล่นโลกโดยปราบ แบรี่ พริ้นเชส แชมป์อังกฤษที่ประเทศออสเตรเลียและขึ้นสู่ทำเนียบมืออาชีพปีนั้น แต่ช่วงเวลาห่างกันแค่ 3 ปีก็กำเนิดแชมป์สมัครเล่นโลกคนที่ 2 โดยหนนี้จัดขึ้นที่โรงแรมแม่น้ำ กรุงเทพฯ ช่วงปลายปี 2534 ซึ่งในปีนี้มี รอนนี่ โอซุลลิแวน ร่วมแข่งขันด้วย แต่แข่งแค่รอบแรกต้องถอนตัวกลางคัน เนื่องจาก บิดา ถูกข้อหาฆ่าคนตาย และในปีนั้นมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ทั้งรอบรองและรอบชิงชนะเลิศ

 

คิวทองอบรม หนู ดาวดึงส์ ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังครองแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก
คิวทองอบรม หนู ดาวดึงส์ ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังครองแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก

ในรอบชิงชนะเลิศปรากฏว่า หนู ดาวดึงส์ ผ่านเข้าไปชิงกับยอดฝีมือจากเวลส์ โดมินิค เดล ซึ่งทีวีช่อง 9 ทำการถ่ายทอดสดในเวลา 17.30 น. โดยก่อนหน้านี้ทางสมาคมฯ ได้จัดให้แข่งขันล่วงหน้าไปก่อน 6 เฟรมและมาต่อในช่วงถ่ายทอดสดในเวลาดังกล่าว ซึ่งการแข่งขันเป็นที่น่าตื่นเต้นจนมาถึงเฟรมที่ 16 ในขณะที่ หนู ดาวดึงส์ ขึ้นนำ โดมินิค เดล 8-7 เฟรมและเฟรมนี้ เดล นำห่าง 50 แต้มเหลือแดง 3 ลูก หนู ต้องตบแดงแล้วกินดำทุกลูก จากนั้นต้องกวาดสีเหลืองจนถึงดำลูกสุดท้ายจึงจะได้เฟรม

ในขณะที่เกมแข่งขันกำลังตื่นเต้น ซึ่งอยู่ในไม้แทงของ หนู ดาวดึงส์ และตบแดงกินดำผ่านไป 2 ชุดทางสถานีได้แจ้งให้ผู้บรรยาย นายศักดา รัตนสุบรรณ และ นายศุภพร มาพึ่งพงศ์ ทราบว่าเวลาถ่ายทอดหมดให้ลาแฟนๆ โดยย้ำจะแจ้งผลแข่งขันให้ทราบในช่วงเวลาข่าว โดยนายศักดา ได้ทำการต่อรองกับผู้ควบคุมการถ่ายทอดสดโดยขอเวลาแค่ 5-6 นาทีขอให้ผ่านไม้นี้แล้วจึงตัดสัญญาณแต่ ผู้กำกับ ไม่ยอม ดังนั้นแดงลูกที่ 3 ที่ ไอ้หนู กำลังเล็งเลยไม่ได้ออกทีวี และปรากฏว่าในไม้เดียวกันนั้น หนู ดาวดึงส์ กวาดหมดโต๊ะตั้งแต่แดง 3 ลูกทำให้ได้รับชัยชนะและกลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 2 เพราะหากเฟรมนั้น ไอ้หนูแพ้ก็จะเสมอ 8-8 และตัดสินเฟรมสุดท้ายซึ่งอาจทำให้แชมป์โลกหลุดจากไทยก็ได้

 

ภาพในอดีตเมื่อปี 2534 "คิวทอง" โดดกอด หนู หลังคว้าแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก
ภาพในอดีตเมื่อปี 2534 "คิวทอง" โดดกอด หนู หลังคว้าแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก

หลังจากการแข่งขันจบลงและสถานีช่อง 9 ได้รายงานผลแข่งขันโดยแทรกเข้าข่าวประจำวัน ทำให้ ประชาชน ต่างแสดงความยินดีแต่ก็มีแฟนสนุกเกอร์จำนวนไม่น้อยที่ต่อว่าต่อขาน ช่อง 9 ที่รีบตัดภาพกลับสถานีทั้งที่เกมกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม และจากประชาชนจำนวนมากที่ตำหนิช่อง 9 มี ฯพณฯประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นั่งลุ้นอยู่หน้าตู้ เมื่อท่านไม่ได้ชมไม้สำคัญ เจ้าหน้าที่ช่อง 9 จึงรับสายจากนายทหารประจำตัวที่สอบถามเหตุผลทำไมจึงถ่ายไม่จบ เล่นเอา ผอ.ช่อง 9 ถึงกับไข้ขึ้น

จากนั้น หนู ดาวดึงส์ ก็เดินตามรอย ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ได้ไปเล่นอาชีพโดยมีเจ้าของโต๊ะสนุกเกอร์โซโห คุณวิสุทธิ์ ชัยพงษ์พิพัฒน์ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเข้าสู่เส้นทางสายอาชีพ ซึ่งการเล่นอาชีพในยุค 30 ปีนั้นเล่นง่าย ใครมีสตังค์จ่ายค่าสมัครก็สามารถเล่นได้โดยไม่ผิดกติกา ซึ่งในเวลาต่อมา สนุกเกอร์โลก ได้ออกกฎระเบียบเข้ม ใครไม่มีดีกรีไม่ได้เป็นแชมป์เยาวชนเอเชีย-แชมป์เอเชีย-แชมป์เยาวชนโลก-แชมป์สมัครเล่นโลก-แชมป์ยุโรป และ แชมป์อังกฤษ จะไม่ได้สิทธิ์เล่นอาชีพ พร้อมกำหนดให้มีมืออาชีพ 128 คน โดยแต่ละปีมีการคัดจากมือสมัครเล่นขึ้นสู่อาชีพ 8 คนและเอามืออาชีพ 8 อันดับสุดท้ายตกไปอยู่สมัครเล่น

ในช่วงที่ หนู ดาวดึงส์ ขึ้นเล่นอาชีพไม่โดดเดี่ยวเหมือนยุค ต๋อง เนื่องจากในช่วงนั้นยังมี นักกีฬาไทย ที่ได้รับการสนับสนุนจากลูกพี่ในเรื่องค่าใช้จ่ายให้เดินทางไปเล่นอาชีพอีกหลายคนอาทิ หรั่ง พัทยา หรือ สุริยา สุวรรณสิงห์ ก็ได้รับการสนับสนุนจากลูกพี่ ป้อม ดาร์ลิ่ง และ ใหญ่ ทนาย และอีกคนคือ นกแล มหาสิน ที่ได้รับทุนจากลูกพี่ เสี่ยใบ โคราช โดยทั้งคู่ไปเล่นอยู่หลายปีเมื่อไม่ประสบความสำเร็จ ลูกพี่ ก็เรียกตัวกลับ ส่วนหนู ดาวดึงส์ เล่นอยู่นานเกือบ 10 ปี จึงกลับมาเมืองไทย

แต่เหมือนดวงจะถูกโฉลกกับอังกฤษ หนู ดาวดึงส์ ได้กลับไปเล่นอาชีพอีกครั้งเพราะในปี 2542 ได้แชมป์ประเทศไทยจึงได้สิทธิ์ไปชิงแชมป์เอเชียและสามารถคว้าแชมป์เอเชียในปีนั้นสำเร็จ แต่การได้แชมป์เอเชียในยุคนั้นไม่ได้หมายความว่าจะได้สิทธิ์เล่นอาชีพเพราะสนุกเกอร์โลกได้จัดการแข่งขันรายการชิงแชมป์ โซนโอชีเนีย ซึ่งถือว่าสำคัญเพราะใครได้แชมป์รายการนี้จะได้สิทธิ์ไป เล่นอาชีพ ดังนั้นการแข่งขันจึงมีหลายสิบชาติส่งนักกีฬาเข้าแย่งสิทธิ์ ซึ่งผลปรากฏว่า เจ้าหนู จากไทย สามารถคว้าชัยได้สิทธิ์ไปเล่นอาชีพอีกครั้งซึ่งสร้างประวัติศาสตร์ให้แก่ตัวเองโดยสามารถครองแชมป์ 3 รายการสำคัญในปีเดียวกันคือ แชมป์ประเทศไทย-แชมป์เอเชีย และ แชมป์โอชีเนีย

การไปอังกฤษครั้งนี้ หนู ดาวดึงส์ ฝีไม้ลายมือเริ่มจัดจ้านสามารถเอาชนะมืออันดับสูงของโลกหลายต่อหลายคนรวมทั้ง จิมมี่ ไวท์–เดนนิส เทเลอร์-จอห์น พาร์ร็อตต์ แต่ที่ทำได้ดีที่สุดคือได้เข้าไปแข่งขันในรายการสำคัญของโลกแค่รอบ 32 คน ซึ่งในช่วงเวลาต่อมา สนุกเกอร์โลกได้ให้สิทธิ์นักสนุกเกอร์เอเชียถ้าหากใครได้เป็นแชมป์เยาวชนเอเชีย-แชมป์เอเชีย-แชมป์เยาชนโลกและแชมป์สมัครเล่นโลก จะได้สิทธิ์ขึ้นไปเล่นอาชีพโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้ นักกีฬา หลายต่อหลายคนพาเหรดสู่อาชีพกันระนาวไม่ว่าจะเป็น ต่าย พิจิตร-รมย์ สุรินทร์-เซ้ง ปากน้ำ-ตัวเล็ก สำโรง-เบิ้ม เชียงใหม่-เสือ ทองราชา-เริญ สระบุรี-ขวัญ สระบุรี-ชาญ สีคิ้ว-ชิม ศิษย์ต่าย-แซค โซโฟน-กร นครปฐม จนมาถึงรุ่นหลังๆ เอฟ นครนายก-แมน นครปฐม-หมู ปากน้ำ-เช็ค นครนายก

นพดล นภจร (หนู ดาวดึงส์) ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่บนผืนสักหลาด หลังจากกลับจากอังกฤษก็มีคิวลงแข่งขันรายการ ไทยแลนด์แรงกิ้ง ซึ่งเป็นรายการใหญ่ในประเทศสะสมคะแนนมืออาชีพ โดยแชมป์แต่ละรายการได้เงินรางวัลไม่น้อย ชนะเลิศ 100,000 บาท รองแชมป์ฯ 50,000 บาทซึ่ง หนู ดาวดึงส์ เคยกวาดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 แชมป์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและทำเงินรายได้มากพอสมควร ปัจจุบันเปิดกิจการโต๊ะสนุกเกอร์เป็นของตัวเองชื่อ "โต๊ะดาวดึงส์" สนุกเกอร์คลับ อยู่ตึกแถวชั้น 2 ซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 5 ถนนประชาราษฏร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง ใครสนใจอยากได้อาจารย์หนู เป็นครูสอนติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 691 1968

นอกจากเปิดโต๊ะเป็นของตัวเอง รายได้แต่ละเดือนไม่พอค่าใช้จ่ายเพราะต้องส่งเสียลูกสาว 2 คนที่กำลังศึกษาระดับมหาลัย ดังนั้น หนู ดาวดึงส์ จึงต้องหารายได้พิเศษโดยเป็น

"มือปืนรับจ้าง"

แต่ไม่ใช่ใช้อาวุธปืนไปดักยิงใครใช้เฉพาะ ไม้คิว เดินสายไปทุกแห่งทั่วประเทศ ที่ไหนมีมือดีและต้องการปะทะอดีตทีมชาติ หนู ดาวดึงส์ ก็จะบุกเข้าถ้ำเสือทันที โดยเฉพาะล่าสุดเข้าถ้ำ 4 คูณ 4 ซึ่งเป็นที่แหล่งสถิตของ เซียนดังทุกคน และที่โต๊ะ 4 คูณ 4 ของ เสี่ยปอง ดีทุกวัน กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากนายทุนใหญ่ ป็อก บ้านบึง ย้ายถิ่นฐานไปปักหลักอยู่ระยองทำให้โต๊ะ 4 คูณ 4 เงียบเหงา แต่บัดนี้ทุกอย่างกำลังกลับคืนสภาพเดิม บรรดาเซียนน้อยใหญ่ต่างกลับมาเป็นขาประจำ ซึ่งล่าสุดมีทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเล็กวัดฝีมือเป็นประจำ รุ่นใหญ่ หนู ดาวดึงส์ พิชิต เอฟ นครนายก ถึง 2 ครั้ง 2 คราเพราะ เอฟ อหังการต่อ 5 แต้ม 2 กา ส่วนรุ่นเล็กขาประจำที่ปักหลักขณะนี้ต้องยกให้ เสี่ยพิสิษฐ์ แป้งมัน สู้ทุกคน เรื่องราวความเป็นมาของ หนู ดาวดึงส์ ได้บอกเล่าพอสังเขป ฉบับหน้าพบแชมป์โลกคนที่ 3

จอมคิวจากเมืองชาละวัน ต่าย พิจิตร

"คิวทอง"