พงษ์ ระวี นักข่าวกีฬาไทยรัฐ เขียนเรื่องนี้เมื่อ 30 ปีก่อนเสียชีวิต - สนุกเกอร์ที่ผมรู้จัก

11 ธ.ค. 61

เมื่อยังเป็นเด็กโตพอจำความได้ ผู้หลักผู้ใหญ่เคยเฝ้าวอนสอนสั่งว่า

“ลูกเอ๋ย โรงฝิ่น กินกัญชา โรงบิลเลียด คือสิ่งชั่วร้าย อบายมุข สิ่งมอมเมาชีวิต อย่าได้ผ่านใกล้เป็นอันขาด”

ตัวกระผมเองก็ใช่ว่าจะเป็นลูกที่ดีนัก หรือเกิดมาในตระกูลเจ้าขุนมูลนายอะไรก็เปล่าเลย เพียงแต่ว่าเมื่อผู้หลักผู้ใหญ่กล่าวสอนเชิงขู่ไว้ว่า เป็นแหล่งสิงสถิตของสิ่งชั่วร้าย ก็เกิดความกลัวฝังหัวตามประสาเด็ก ๆ จนโตใหญ่

โตมาอีกหน่อย ออกจากบ้านมาอยู่วัด

ผมเป็นเด็กวัดปรินายก แถว ๆ ผ่านฟ้า ที่หน้าวัดจะมีโรงบิลเลียด สนุกเกอร์อยู่แห่งหนึ่ง

ความที่จำฝังหัวมาตั้งแต่คราวเป็นเด็ก ผมเลยไม่กล้าแม้กระทั่งว่าจะหันหน้าบาง ๆ เข้าไปดูผู้คนข้างในว่า สถานที่แห่งนั้นเขาทำอะไรกันบ้างเวลาผมเดินผ่าน

ผมเคยได้ยินชื่อเกมการเล่นบิลเลียดและสนุกเกอร์ แต่ไม่รู้ว่าเขาเล่นกันยังไง หรือเล่นแบบไหน เมื่อผมโตพอสมควร

ชีวิตเหมือนนิยาย เหมือนหนังไทย

ผมหันวัยเด็ก เข้าสู่เบญจเพสและมีโอกาสไปเรียนอยู่อังกฤษ

เป็นความโดยบังเอิญที่เมืองที่ผมไปเรียนอยู่นั่น คือเมืองเชฟฟิลด์ซิตี้ อยู่ทางเหนือของลอนดอนไปร่วม 200 ไมล์

และ เชฟฟิลด์ นี้มันเป็นเสมือนเมืองเจ้าของเกมการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกที่ใหญ่ที่สุดในแต่ละปีของอังกฤษ

ทุก ๆ ปีของการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกที่เมืองเชฟฟิลด์ อังกฤษ นักสนุกเกอร์ฝีมือฉกาจฉกรรจ์ทุกระดับชั้น อายุ มาชุมนุมร่วมการชิงชัยกันคับคั่ง

แม้กระทั่งสถานีโทรทัศน์ บี.บี.ซี. ของรัฐบาลอังกฤษ ที่ใหญ่ที่สุดยังต้องทำการถ่ายทอดสดให้ชาวประชาทางบ้านให้ได้ดูกัน

มันก็เลยเป็นอีกครั้งที่ทำให้ชีวิตของผมต้องมาเกี่ยวพันกับเกมกีฬาการแข่งขันสนุกเกอร์อีกจนได้

ผมย้อนหลังนึกดูและจนกระทั่งปัจจุบันว่า

“เอ๊ะ ! เจ้าเกมการแข่งขันบิลเลียด หรือสนุกเกอร์ ที่ผมเคยถูกสั่งสอนอบรมมา กับสภาพความเป็นจริงที่ได้เห็น ทำไมมันจึงแตกต่างกันมากนัก”

แล้วผมจึงเริ่มทำการศึกษาด้วยตัวเองเงียบ ๆ

ทุกวันที่ผมไปเรียนหนังสือยามนัดเที่ยงวัน ผมเดินเข้าไปในสโมสรนักศึกษาสำหรับนักศึกษาโดยเฉพาะ ผมสังเกตเห็นว่ามีโต๊ะบิลเลียดนับ 10 โต๊ะ เป็นกีฬาในร่มให้นักศึกษาได้เล่นกันอย่างเปิดเผยเหมือนเกมหมากรุกหมากฮอร์ส

หรือกีฬาในร่มอย่างอื่น เช่น วอลเล่ย์บอล อินดอร์ซ็อคเกอร์ หรือบาสเก็ตบอล

ก็ตามแต่ใครจะเลือกเล่น ตามความถนัดของตนว่างั้นเถอะ

ตกเย็นกลับบ้าน หลังอาหารเย็นผมจะเห็นลูกชายตัวเล็ก ๆ อายุ 7-8 ขวบ จะไปชวนเพื่อนเด็ก ๆ ข้างบ้านรุ่นราวคราวเดียวกัน มาเล่นสนุกเกอร์โต๊ะเล็ก ที่พ่อแม่เกือบจะทุกบ้านซื้อไว้ให้ลูก ๆ เล่น เป็นการพักผ่อนหลังอาหาร ก่อนอ่านหนังสือหรือเข้านอน

เอ๊ะ! อย่างนั้นการเล่นสนุกเกอร์หรือบิลเลียดก็มิใช่เกมการเล่นที่ชั่วร้ายอะไรนะสิครับ

ผมก็เลยศึกษาและหัดเล่นบ้างจนกระทั่งพอเล่นเป็น

จากนั้นเป็นต้นมา ผมก็เลยรู้ว่าสนุกเกอร์หรือบิลเลียดในอังกฤษ (มันก็คงเหมือนอีกหลาย ๆ ประเทศ ที่เขาเล่นกัน) มันก็คือ เกมกีฬาอย่างหนึ่ง

การเล่นสนุกเกอร์จะเป็นการฝึกให้คนรู้จักใช้ความคิด การวางแผนล่วงหน้าที่สุขุม รอบคอบ หากแผนที่วางไว้กับเกมสนุกเกอร์ไม่รอบคอบ ไม่วางไปล่วงหน้าว่า ถ้าเกิดเราคิดว่าจะเป็นเช่นนี้ แล้วมันไม่เป็นตามนั้น จะเกิดอะไรขึ้น

แผนการเล่นเราไม่ดี เราก็คือผู้ปราชัยแน่นอนครับ!

ผมมาคิดอีกทีว่า การเล่นสนุกเกอร์มัน (อาจ) สามารถฝึกคนให้เป็นคนระดับบริหารได้ ในการที่จะวางแผนล่วงหน้า มองปัญหาเฉพาะหน้าไป 2 กรณี ทั้งถ้าเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ จะมีวิธีแก้ไขป้องกันล่วงหน้าอย่างไร คู่แข่งหรือคู่ต่อสู้จึงจะไม่พบจุดอ่อนหรือช่องโหว่เรา

ผมเลยเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า สนุกเกอร์ฝึกคนให้สุขุม รอบคอบ ให้ใจเย็น ให้มีแผนในการที่จะทำอะไรอย่างหนึ่งขึ้นมา

ถึงขั้นเป็นผู้บริหารงานอะไรหลาย ๆ อย่างได้แน่นอนครับ ถ้าเราปรับมันจากเกมบนโต๊ะสักหลาดมาหางานการอาชีพประจำวันของเรา

เล่นสนุกเกอร์ อ่านเกมสั้นเราก็แพ้ เหมือนทำงานใช้ชีวิตทำงานวันต่อวัน ความเจริญก้าวหน้าในการงานที่ทำมันก็เท่านั้น

มิน่าคนอังกฤษจึงฝึกให้ลูกหลาน และปลูกฝังให้ลูกเต้าเล่นสนุกเกอร์เป็นเกมละเล่นในยามว่าง

เด็กที่อังกฤษเริ่มเล่นสนุกเกอร์เป็นตั้งแต่อายุก่อน 10 ขวบ

ดังนั้น หลายท่านอาจจะเห็นได้ว่า นักสนุกเกอร์ชื่อดังหรือชื่อก้องของโลกในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็น สตีฟ เดวิส, จอห์น พาร์ร็อทท์, จิมมี่ ไวท์, โทนี่ มีโอ ฯลฯ หรืออีกหลายคน อายุจะแค่ 21–22 เท่านั้น ก็โด่งดังเล่นจนเป็นฮีโร่ของกีฬาประเภทนี้แล้ว

หันย้อนกลับมามองนักสนุกเกอร์ของไทยบ้าง

ไม่ว่าจะเป็น “เซียนกิ๊ด” วิเชียร แสงทอง หรือ “เซียนตา” ตา ตันยุติธรรม กว่าจะเล่นสนุกเกอร์ให้ฝีมือเฉียดฉิวมีชื่อขึ้นมาได้ไม่ต่ำกว่า 35 กันทั้งนั้น

ผมเลยขอทึกทักเอาว่า สาเหตุเหล่านี้

ก็คงจะเป็นเพราะว่าคนไทยหลาย ๆ คน ไปคิดและจำฝังหัวหรือถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า

บิลเลียด, สนุกเกอร์ คือเกมการพนัน เกมของพวกปีศาจการพนัน เป็นสิ่งชั่วร้าย อย่าไปริหัดเล่นเข้า จะฉิบหายเข้าสักวัน

ผมว่านั่นเป็นทัศนคติที่ผิด ๆ

สำหรับคนไทยนั้น การเล่นพนันมันแทบจะอยู่ในสายเลือดทุกอณูอยู่แล้ว

กะอีแค่สุนัข 2 ตัววิวาทกัน ยังพนันกันเลย!

ส่วนใหญ่คนไทยเราจะบิดพริ้วเกมกีฬา หันเหเข้าหาการพนันขันต่อเสียมากกว่า

ก็ลองทำเกมการเล่นสนุกเกอร์ให้กลายเป็นกีฬาบ้างสิครับ จะได้รู้ว่าที่แท้จริงหรือแก่นแท้ของมัน ก็คือเกมการเล่นกีฬาสนุก ๆ ชนิดหนึ่ง

สนุกเกอร์นั่นมันเป็นเกมบริสุทธิ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว คนเท่านั้นแหละครับจะทำให้มันเป็นเกมพนันหรือเกมกีฬา

ผมดีใจเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันที่เริ่มจะเห็นทัศนคติการเล่นสนุกเกอร์ จากที่เคยเชื่อว่าเป็นเกมการเล่นของพวกปีศาจการพนัน หันมาแพร่หลายเป็นเกมกีฬาอย่างหนึ่งในบ้านเราขณะนี้

และจะเห็นได้จากนักสนุกเกอร์ดัง ๆ ของโลก เริ่มเข้าทำการแข่งขันในเมืองไทยได้บ่อยและถี่ขึ้น ล่าสุดข่าวว่าคณะของสตีฟจะมาไทย แล้วขึ้นไปโชว์ที่เชียงใหม่

ผมขอเอาใจช่วยและสนับสนุนเต็มที่ครับ

ผมทายไว้อีกไม่นานข้างหน้า ถ้าช่วย ๆ กันทำให้สนุกเกอร์เป็นเกมกีฬาที่แท้จริง คงไม่นานนักหรอกที่เราจะเห็นนักสนุกเกอร์ของไทยมีฝีมือเก่งกาจในชั่วอายุแค่ 20 กว่า ๆ ดังเช่นในอังกฤษ

หรือเช่น ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เป็นเทพบุตรนักเตะของเยาวชนคนไทย อายุเขาก็แค่ 21–22 ปี

หรือ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย เป็น “วีรบุรุษกีฬา” นักชกเหรียญเงินกีฬาโอลิมปิกของไทยคนแรก ก็อายุแค่ 24–25 ปี

 

 

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคาดการณ์ว่า อนาคตข้างหน้าสนุกเกอร์ก็คงจะเป็นกีฬาประเภทหนึ่ง ที่ได้รับการบรรจุไว้ในโปรแกรมการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ หรือ เอเชียนเกมส์ ก็เป็นได้

และอาจมีนักสนุกเกอร์ของไทยอายุน้อย ๆ เป็นแชมป์เหรียญทองที่โด่งดัง มีชื่อไปก้องโลก ก็อาจเป็นได้

ไม่ได้อยู่ที่ใครหรอกครับ

อยู่ที่พวกเรา ๆ เท่านั้น จะสนับสนุนกันจริง ๆ จัง ๆ เพียงไร

และผมก็เลยขอลบคำว่า บิลเลียดกับสนุกเกอร์เป็นเกมการพนันของบุคคลที่มั่วสุม หรือเป็นเกมชั่วร้าย ออกไปจากความทรงจำเก่า ๆ ของผมไปด้วย

เพราะผมเห็นว่าสนุกเกอร์ที่เมืองนอกหรือเมืองไหน ก็คือเกมกีฬาอย่างหนึ่งทั่ว ๆ ไปเท่านั้น ที่เราน่าจะสนับสนุนกันต่อ ๆ ไปอย่างจริง ๆ จัง ๆ

ว่ากันถึงที่มา...

ตามหลักฐานทางการค้นคว้าวิจัยและศึกษาพบว่า บุคคลแรกผู้ให้กำเนิดกีฬาสนุกเกอร์คือ ท่านพันเอก เซอร์เนวิลล์ ฟรังซิส ฟิตซ์เจอรัลด์ แชมเบอร์เลน ชาวอังกฤษ

โดยท่านนำมาเล่นเป็นการแข่งขันครั้งแรกเมื่อฤดูร้อนปี ค.ศ. 1875 (พ.ศ. 2418) ที่อูตาคานันด์คลับ เมืองนิลจิรีส แคว้นมัทราส อินเดีย

แรกเริ่มเดิมที รู้ในชื่อว่าเกม แบล็คพูล ต่อมาเป็น พีรามิดส์ เรียกชื่อใหม่อีกที่ว่า บิลเลียด แล้วก็วิวัฒนาการเป็นเกม สนุกเกอร์ โดยใช้โต๊ะแข่งขันเช่นเดียวกับบิลเลียด

สนุกเกอร์เดินทางจากอินเดีย ทวีปเอเชีย ไปสู่ประเทศอังกฤษครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1885 (พ.ศ. 2428)

ส่วนระบบการนับคะแนนแบบสมัยใหม่ ใกล้เคียงกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เริ่มเมื่อปี 1891 (พ.ศ. 2434) ที่อังกฤษ

เริ่มจัดการแข่งขันเป็นแบบชิงแชมป์ทางการจริง ๆ เมื่อปี 1916 (พ.ศ. 2459)

จนกระทั่งมาถึงช่วงสนุกเกอร์กลายเป็นกีฬาที่คนนิยมเล่นทั่วไป โดยเฉพาะในอังกฤษ และก็เกิดการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกเป็นทางการครั้งแรก

The World Professional Championship ในปี 1927 หรือ พ.ศ. 2470 และจนถึงปัจจุบันชิงแชมป์โลก ปี 29 นี้ โจ จอห์นสัน เป็นแชมป์โลกคนล่าสุด !