สนุกเกอร์ไทย ... จะไปนรก หรือเปล่า

21 ต.ค. 58

สนุกเกอร์ไทย ... จะไปนรก หรือเปล่า

    มีเกจิทางด้านวงการธุรกิจกีฬากอล์ฟกล่าวเอาไว้ว่า กีฬาก้านเหล็กหรือกอล์ฟในวันนื้ ที่รุ่งเรืองมีคนดูทั่วโลกเป็นอันดับรองก็แค่ฟุตบอลเท่านั้น นั่นก็เพราะมีจุดกำเนิดมาจากนักกอล์ฟคนหนึ่ง และที่สำคัญก็คือเป็นนักกอล์ฟที่มีเลือดไทยอยู่ครึ่งตัวเสียด้วย

     นั่นก็คือ ไทเกอร์ วูดส์ ครับท่าน

  จะว่ากันไปแล้ว กีฬากอล์ฟก่อนหน้าที่ "เจ้าเสือน้อย" จะลงมาจุตินั้น มันก็แค่ทรงๆ เรื่อยๆ มาเรียงๆ ฮอตฮิตแค่อเมริกาและยุโรปอย่างเครือจักรภพ พวกนั้น

   แต่พอ ไทเกอร์ วูดส์ โชว์ให้เห็นความเป็นยอดอัจฉริยะทางกีฬาก้านเหล็ก จนได้รับฉายาเป็น "เจ้าเสือน้อย" ซึ่งต่อมาเขาเติบใหญ่เป็น เสือลายพาดกลอนเต็มตัว กินรวบในกีฬาชนิดนี้ทุกๆ ด้าน

     และที่สำคัญยังเลยเถิดไป "กินเด็ก" อย่างอร่อยปากเข้าอีก ก็ติดลมบนกู่ไม่กลับ

    ผมจำได้ว่าเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ตอนนั้นยังเป็นนักข่าวกีฬาหัวสีบานเย็น ถนนวิภาวดี เดินไปที่เครื่อง เคาะข่าว ยี่ห้อ เอพี (AP) เขาตีข่าวออกมาทำให้ นักข่าวอย่างผมตาโต ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดีมีสุขอะไรด้วย

     ก็แค่ โอ้โห นี่มันข่าวใหญ่ระดับพาดหัวตัวไม้ (ภาษาหนังสือพิมพ์ยุคนั้น) ทีเดียวเชียว นั่นก็คือ เอพี เขาเคาะข่าวออกมาว่าไนกี้ ทุ่มมโหฬารจับ ไทเกอร์ วูดส์ เซนต์สัญญาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้า 5 ปี ในวงเงิน 100 ล้านดอลล่าร์ ตัวเลขกลมๆ เงินยูเอสดอลล่าร์ตอนนั้นยังไม่มีรายการต้มยำกุ้ง 1 ดอลล่าร์เท่ากับประมาณ 25 บาทไทยกว่าๆ

     ลองคิดดูเถอะครับ คนอายุยังไม่ถึง 20 ปี ยังไม่เข้ามหา’ลัย ทำเงินได้กว่า 2,500 ล้านบาท

     มันยิ่งกว่าไมโครซอฟท์ อีกครับท่าน

     ข้อสำคัญก็ตรงที่เขามีพ่อเป็นอเมริกัน ส่วนแม่เป็น คนไทยแท้ ร้อยเปอร์เซนต์พื้นเพแถวๆ เมืองกาญจน์โน่น

    ไทเกอร์ วูดส์ เปิดโลกกีฬาก้านเหล็กให้เป็นยุคใหม่ ทั้งลีลาการเล่นที่เป็นไปแบบธรรมชาติ แสดงออกเป็นตัวตนของตัวเอง ทะลุม่านประเพณีกีฬาเมืองผู้ดี รวมไปถึงการแต่งตัวที่นำเอาแฟชั่นเข้าไปบุกเบิก เพิ่อหวังขายเสื้อผ้าตามประสานักธุรกิจที่ทุ่มเงินเซนต์สัญญา

   สรุปว่า ไทเกอร์ วูดส์ คนเดียวแท้ๆ ที่ปลุกผีกีฬาก้านเหล็กจนทำให้ นักกอล์ฟอีกมากมาย ผู้คนอีกหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องทั้งโลก ได้รับอานิสงส์อย่างล้นเหลือมาจนถึงทุกวันนี้

     จากกีฬาก้านเหล็กมาถึงกีฬาก้านไม้อย่าง สนุกเกอร์ บ้างครับท่าน

     สตีฟ เดวิส เจ้าของฉายา "ไอ้หน้าแก่" นักสอยคิวของอังกฤษ เป็นผู้ทำให้คนทั้งโลกหันมาสนใจเกมชนิดนี้ โดยที่ก่อนหน้านั้นมันก็แค่ ทรงๆ แข่งกันไปตามธรรมชาติ

     ด้วยลีลาการแทงอย่างแม่นยำ ก้มเป็นลง จนนักพากย์สนุกเกอร์คนแรกของเมืองไทย เจ้าของนามปากกา "คิวทอง" ตั้งให้อย่างไพเราะเพราะพริ้งในช่วงที่หนุ่มหน้าเหี่ยวคนนี้มาเมืองไทย ชนิดที่ฟังแล้ว แฟนสนุ้ก ตั้งแต่วัยทีนจนถึงวัยทอง ต้องเสียวไปถึงลำไส้นั่นแหละ

     ว่า "ไอ้รูขยาด" ซึ่งก็เพราะก้มเป็นลง ออกคิวทีไรลูกหายลงรูทุกครั้ง ทุกหลุม ทุกเหลี่ยม เป็นแชมป์โลกจนเบื่อ ครับท่าน

     สนุกเกอร์ในบ้านเราฮอตฮิตขึ้นมาก็มีต้นกำเนิดจาก ช่อง 7 เอาเทปมาฉาย และจัดถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ดูกันทั่วประเทศ โดย คุณสมภพ ศรีสมวงศ์ (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปแล้ว) เป็นคนแรก

     เท่ากับท่านเป็นคนแรกอีกเช่นกันที่ ดึงเอาสนุกเกอร์ในเมืองไทยออกมาจากมุมมืด

     เพราะก่อนหน้านั้น สนุกเกอร์เป็นกีฬาที่ถูกมองว่าเป็นอบายมุข คนเข้าโต๊ะจะถูกมองว่าเป็นคนประเภทสีเทา และเด็กเกเร

     แต่ไทยเราก็มาบูมเต็มตัวก็ตอนที่ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย จุติขึ้นมาในวงการ ทำให้กีฬา ก้านไม้ เขาทำให้ เกมแทงลูกหินลงรู เป็นกีฬาที่ยอมรับในสังคมไทย และก็เติบโตมาจนถึงวันนี้ ขายโต๊ะกันตัวละเกือบล้านบาท จากเดิมไม่กี่กะตังค์

     สร้างอาชีพให้ผู้คนอีกมากมาย

     จำได้ว่า นิตยสาร "คิวทอง" ก็กำเนิดมาในยุคนั้น โดยการปลุกปล้ำของ คุณศักดา รัตนสุบรรณ ผู้เป็นเจ้าของนามปากกา "คิวทอง"

     ที่ต้องใช้คำว่าปลุกปล้ำก็เพราะ มันไม่ง่าย ที่จะให้หนังสือสนุ้กเล่มนี้ ยืนยาวมาได้จนถึงวันนี้ เพราะสปอนเซอร์จำกัด คนอ่านก็อยู่ในวงจำกัด

แต่ก็ยืนหยัดสู้มาได้ถึงวัย 30 ปี

     ผมในฐานะที่ถูก "พี่ศักดา" ปลุกปั้นจนมายืนอยู่ในวงการจนถึงวันนี้ แทบไม่ได้มีส่วนร่วมในงานของสนุกเกอร์ซักเท่าไหร่แต่ก็ติดตามอยู่สนุกเกอร์ไทยประสบความสำเร็จมามากมาย ทั้งผลิตมืออาชีพระดับโลกสู่ยุทธจักร จนประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ และมีแชมป์สมัครเล่นโลกหลายคน

แต่ซีเกมส์หนนี้ทำให้คนไทยผิดหวังครับ

 

วังใหม่