ชีวิตนี้....ขอเป็นแบบนี้
| 21 ก.ย. 58 |
 น้องๆ นักข่าวกีฬาเคยถามผมว่า........ในฐานะผมมีอาชีพเป็นนักข่าวกีฬา ช่วงบั้นปลายของอาชีพ อยากมีชีวิตเหมือนนักข่าวกีฬาท่านใด ? ผมตอบโดยไม่เสียเวลานึกแม้แต่วินาทีเดียวว่า “พี่ดา” ซึ่งหมายถึง คุณศักดา รัตนสุบรรณ ที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 ที่ปรารถนาจะเป็นอย่างพี่ดาเมื่อยามชราเพราะผมเห็นพี่ดามีชีวิตบั้นปลายมีความสุข มีครอบครัวดี สุขภาพดี อารมณ์ดี ไม่เครียดไม่ทุกข์ เพื่อนเยอะ ได้ทำงานที่รักที่ชอบ และมีความเชี่ยวชาญที่สุดชนิดไม่มีนักข่าวกีฬาคนใดเชี่ยวชาญเท่า จนกลายเป็นกูรูบิลเลียดและสนุกเกอร์ที่เมืองไทยขาดไม่ได้ ทั้งในด้านการแข่งขันทุกระดับของประเทศ รวมทั้งการบรรยายการแข่งขันทางโทรทัศน์ ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง อายุ 70 ปีแล้วแต่ยังดูหนุ่มเหมือน 50 ปลายๆ เดินเร็ว ความจำแม่น มิหนำซ้ำได้ทำงานกับคนหนุ่มรุ่นลูกรุ่นหลานเกือบทุกวัน ก็เลยเป็นคนหนุ่มนาน แก่ช้าโดยไม่เจตนา ! คนเราพอวัยใกล้โค้งวัดเบญจะก็ปรารถนา “แค่นี้” ล่ะครับ อายุยืน สุขภาพดี จิตใจเบิกบาน มีงานให้ทำในปริมาณพอดีๆ – อย่ามากเกินกำลัง  เมื่อครั้งจัดเฟรมเดียวน็อคทางช่อง 7 สี 25 ปีก่อน ได้รับความนิยมสูงสุด แต่พี่ดาได้มากกว่าชายสูงวัยทั่วไปต้องการคือ ได้รับเกียรติ ได้รับการยกย่องยอมรับในวงการสนุกเกอร์ของไทย แบบเชื่อถือศรัทธาในดีกรีเดียวกับอาจารย์วิษณุ เครืองาม กับอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ ได้รับการนับถือในด้านกฎหมายยังไงยังงั้น เพราะความเชี่ยวชาญเรื่องบิลเลียดสนุกเกอร์ แบบคนทั้งประเทศไม่สงสัยในความเก่ง เพราะความทุ่มเทในการพัฒนาและยกระดับการเล่นบิลเลียดสนุกเกอร์ จากที่มีภาพลักษณ์ของการพนันให้กลายเป็นกีฬาแบบเดียวกับฟุตบอล วอลเลย์บอล ฯลฯ ที่ต้องอาศัยการทำงานอย่างต่อเนื่องไม่ย่อท้ออย่างยาวนาน และด้วยความเป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการบิลเลียดสนุกเกอร์ไทย แบบไม่มีใครในประวัติศาสตร์ชาติไทยเคยทำมาก่อน... จึงทำให้นิตยสาร “คิวทอง” มีอายุยืนยาวถึง 30 ปี เพราะทุกคนทราบดีว่า “คิวทองคือศักดา ศักดาคือคิวทอง”
พิศณุ นิลกลัด (เตยหอม) ** ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทองฉบับพิเศษ ฉลองครบรอบ 30 ปี ฉบับที่ 393 เดือน สิงหาคม 2558 |
