คิวไทยยังห่างไกลคิวจีน

นรกมีจริง หากไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ก็ดูอย่าง แจ๊ค สระบุรี มองเห็นสวรรค์รำไรในการสอยคิวโลกรอบ 48 คนกับ "ไอ้หน้าบาก" เคน โดเฮอร์ตี้ อดีตแชมป์โลกปี 1997 วัย 45 ปี จากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ โดยก่อนการแข่งขัน เกจิอาจารย์ทุกสำนักทั้งไทยและเทศ ฟันธง หนุ่มไทย จะสอย ไอ้หน้าบาก ร่วงค่อนข้างชัวร์ ถึงขนาดบ่อนพนันที่ถูกกฎหมายในอังกฤษประเมินให้ แจ๊ค เป็นต่อ เคน 1 เฟรมครึ่ง เพราะอยู่ในช่วงขาขึ้นของ แจ๊ค สระบุรี และเป็นช่วงขาลงของ เคน แต่พอแข่งขันกัน 6 เฟรมแรกทำท่าจะเป็นจริง เพราะ แจ๊ค เล่นได้ดี ออกนำ เคน 4-2 เฟรม และหมด 8 เฟรม เสมอกันที่ 4-4 ต้องไปลุ้นในช่วงที่ 2 ซึ่งผลการแข่งขันกลายเป็น หนังคนละม้วน เพราะ เจ้าแจ๊ค ไม่ได้ถือคิวลงแข่งขัน ไม่รู้เอาชะแลงไปหรือไง เอาแต่ งัดลูกเดียว ส่งผลให้ เคน ได้ใจ ทำเบรกยาวทุกเฟรม เข้าป้ายไปแบบเหลือเชื่อ 10-5 เฟรม นั่นหมายถึงในช่วงหลัง เคน ทำได้ 8 ในขณะที่ แจ๊ค ได้ไปแค่เฟรมเดียว อดเข้าไปเล่นในครูซิเบิล เธียร์เตอร์ ทำให้แฟนสอยคิวไทยผิดหวังไปตามๆ กัน โดยก่อนหน้านั้นเคยตั้งความหวังที่ เทพไชยา อุ่นหนู หรือ เอฟ นครนายก ที่เคยเอาชนะ รอนนี่ โอซุลลิแวน ในรายการเยอรมัน โอเพ่นก่อนหน้านี้ไม่นาน ซึ่ง เอฟ ทำได้ดี ผ่านเข้าถึงรอบ 64 และมาสะดุดที่ แมทธิว เซลท์ โดยพ่ายยับ 10-2 เฟรม ซึ่งเฟรมพลิกผันคือเฟรมที่ 5 เจ้าเอฟ ทำแต้ม 38 แต่ตบดำลูกง่ายไม่ลง ส่งผลให้ เซลท์ ได้เล่นลูกง่ายและเบรกยาวแซงหน้าเข้าป้าย จากเฟรมนั้นทำให้ แมทธิว เซลท์ ได้ใจ เลยกดรวดเดียว 7 เฟรมรวดก่อนชนะไปอย่างสบาย

ใครที่ชมการแข่งขันของ นักสอยคิวไทย อาจสงสัย ทำไมถึงไม่พัฒนาเคียงคู่เหมือน เด็กจีน เพราะนอกจากมี ดิง จุนฮุย มือหนึ่งโลก ยังมี เหลียง เวง โบ, เทียน เป็งเฟย, เซี่ยว กั๊วะตง, ยู เดลู, อันดร้า ซาง, หลิว ชวง, เกา ยู เปง, เชน ซิ, ลู หัว เทียน, ลี หั่ง, ลี ยาน ซึ่งทั้งหมดที่เอ่ยชื่อเข้าแข่งขันสนุกเกอร์โลกทุกคน รวมถึง 2 คิวอินเดีย ปันกาจ เอ็ดวานนี่ และ อดิยา เมธา ที่ไปสะดุดในรอบ 64 คนเช่นกัน

นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย สินธุ พูนศิริวงศ์ เคยตั้งข้อสงสัย ทำไม คิวไทย ถึงไปไม่ถึงดวงดาวถ้าเทียบกับ คิวจีน หากเปรียบเป็นม้าก็เรียกว่า คนละประเภท ม้าไทย เป็นได้แค่ม้าลูกผสม แต่ม้าจีน เปรียบเสมือน ม้าเทศ หากมาวิ่งด้วยกัน ฝีเท้า ม้าเทศ ย่อมเหนือ ม้าลูกผสม จนถึงขั้น นายกฯ สินธุ มุ่งเป้าไปที่ โค้ช ซึ่งถือว่าสำคัญ เพราะนักกีฬา ที่เล่นดีผิดหูผิดตาและเห็นชัดเจนคือ รอนนี่ โอซุลลิแวน ที่เปลี่ยนโค้ชแม้อายุเฉียด 40 ปี หรืออย่าง มาร์โก้ ฟู เกาจุน จากฮ่องกงที่เคยมือตกไปพัก จนมีการเปลี่ยนโค้ชได้ เทอร์รี่ กริฟฟิธส์ อดีตแชมป์โลกมาช่วยเทรน มือดีขึ้นผิดหูผิดตา และสามารถคว้าแชมป์รายการสำคัญ ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ด้วยการโค่นมือหนึ่งโลก นีล โรเบิร์ตสัน อย่างพลิกล็อคถึงถิ่น โดยเรื่องของ โค้ช นายกฯ สินธุ ฝากประธานสนุกเกอร์โลก เจสัน เฟอร์กูสัน ช่วยหาโค้ชดีๆ มาเทรนนักสนุกเกอร์ไทยในช่วงที่มีการแข่งขันอยู่ในอังกฤษ โดยสมาคมฯพร้อมจะสู้ค่าใช้จ่าย ขอแต่เพียงให้ เจ๋งจริง ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อหวังนักสนุกเกอร์ไทยจะยืนเคียงข้างจีน

เขียนถึง โค้ช ต้องชื่นชม นายกฯ สินธุ ที่ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะ มืออาชีพ จำเป็นต้องมีโค้ชประจำตัว ยังไงก็ให้ดูตัวอย่าง ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ช่วงดังทะลุโลกเคยใช้บริการ มร. ทอม มอแรน แต่หลังจากไม่มีหนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษ อันดับโลกของ ต๋อง นับวันจะร่วงหล่นอย่างน่าใจหาย จนกระทั่งหลุดพ้นจากการเล่นอาชีพ เพราะการมี โค้ชประจำตัว ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่โค้ช แต่เป็นทั้ง ผู้จัดการ เป็นทั้ง ผู้ติดต่อที่พัก-ตั๋วเครื่องบิน-จองโรงแรม ตลอดจนจัดคิวแต่ละรายการว่า กำหนดแข่งเมื่อใดและกับใคร เรียกว่าตั้งแต่ สากกะเบือ ยันเรือรบ ต้องทำได้หมด เพื่อให้ นักกีฬา เตรียมตัวสำหรับการฟิตซ้อมอย่างเดียว

สำหรับ มืออาชีพไทย ที่ยังได้สิทธิ์เล่นในฤดูกาลหน้าขณะนี้เหลือแค่ 4 คนประกอบด้วย นพพล แสงคำ (หมู ปากน้ำ) รัชโยธิน โยธารักษ์ (เช็ค นครนายก) ได้สิทธิ์เล่นปีที่สองในฐานะมือไวลด์การ์ด ส่วน แจ๊ค สระบุรี และ เอฟ นครนายก สอบผ่านโดยอันดับโลกต่ำกว่า 64 คน

โดยทั้ง 4 คนต้องหาวิธีฝึกให้ได้มาตรฐาน ลูกแม่น ไม่เป็นรองใคร แต่ทางหนีทีไล่ ต้องยอมรับ ยังห่างไกลมืออาชีพ ยังไงก็ให้ยึดสไตล์การเล่นของ ดิง จุนฮุย เป็นแบบอย่าง ขนาดหัดเล่นทีหลังคนไทย แต่ฝีมือพัฒนาไปไกล เพราะเขาฝึกลูกยาก อาทิ ลูกหนีอีตัว ลูกแก้ไขในเมื่อถูกวางสนุ้กฯโดยเฉพาะ ลูกขาวติดชิ่งล่างแต่ ดิง สามารถแทงแดงส่งขาวลงด้านล่างแบบมีเป้าหมาย ไม่ใช่สักแค่แทงขาวลงด้านล่างอย่างเดียว และด้วยการฝึกจนชำนาญ ทำให้ ดิง สามารถสู้กับทุกคนทั่วโลก และไม่เป็นรองหน้าไหน ยกเว้นคนเดียว

รอนนี่ เพราะไอ้หมอนี่จัดอยู่ในขั้นเทพ

ศักดา รัตสุบรรณ