พิษร้ายจากภัยบุหรี่

6 พ.ค. 58

 

31 พฤษภาคม ทั่วโลกยึดถือวันนี้เป็นวัน “รณรงค์” ไม่สูบบุหรี่ ดังนั้น พวกขี้ยา ที่พ่นควันโขมงต้องระวัง หากไปสูบในหมู่ชุมชนหรือตามร้านกาแฟ ร้านอาหาร จะถูกคนข้างๆ เหยียดหยันด้วยสายตา

เพราะวันนี้ทั่วโลกเขาไม่สูบบุหรี่

คนที่ลด-เลิก-อดไม่ได้ ก็ต้องแอบสูบ อย่าทำประเจิดประเจ้อ ถ้าใครเห็นก็จะตำหนิเพราะ 1 ปีเขาขอร้องให้ งดบุหรี่วันเดียว ดันทำไม่ได้ แล้วจะคิดทำงานใหญ่ได้ยังไง?

และวันที่ 31 พ.ค. ของทุกปี ผมจะเขียนคอลัมน์เตือนสติพวก ขี้ยา ทั้งในหนังสือพิมพ์สยามกีฬา รายวัน และนิตยสารคิวทอง เพื่อเตือนให้เห็นพิษร้ายจากภัยบุหรี่ โดยยกตัวอย่าง “พญาอินทรี” เทียมบุญ อินทรบุตร อดีตเอกอัครมหาโปรโมเตอร์ซึ่งถูกยกให้เป็น “ปูชนียบุคคลวงการมวย” เพราะชื่อของ เทียมบุญ เมื่อ 40 ปีก่อน สร้างความฮือฮาให้ทั่วโลกรู้จักประเทศไทยและคนไทย โดยเนรมิตร “ไอ้แสบ” แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ปีนบันได 3 ขั้นสู่แชมป์โลกสำเร็จ เป็น นักมวยคนเดียวและคนแรกของโลกที่ชกแค่ 3 ครั้ง ก็ คว้าแชมป์โลก ได้ ผมได้หยิบยกพิษร้ายของ ภัยบุหรี่ มาบอกกล่าวอย่างคนที่ผ่านโลกมาโชกโชนเช่น “พญาอินทรี” เทียมบุญ อินทรบุตร แม้เจ้าพ่อหรือนักเลงรุ่นใหญ่ยัง “เรียกพี่” และให้การเคารพนับถือ ยังสู้พิษบุหรี่ไม่ไหว เทียมบุญ เสียชีวิตในวัย 70 ปี เพราะทนทุกข์สู้โรค “ถุงลมโป่งพอง” ไม่ได้ สูบบุหรี่ตั้งแต่เด็กจนเฒ่าชะแลแก่ชรา เมื่อร่างกายอ่อนล้าโรคร้ายก็รุมเร้ามากันเป็นชุดทั้ง โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน เก๊า และที่ร้ายสุดก็คือ ถุงลมโป่งพอง เวลาไปไหนมาไหนจะมีลูกน้อง แบกถังออกซิเจนเดินตาม เมื่อสู้โรคนี้ไม่ไหว “พญาอินทรี” จึงตัดสินใจเด็ดปีกตัวเองด้วยการทำ อัตวินิบาตกรรม

สมัยก่อน ใครที่สูบบุหรี่ถือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะ จิ๊กโก๋ยุค 60 ปีก่อน ใครไม่สูบบุหรี่ถือว่าเชย เพราะบุหรี่สมัยนั้นสูบแล้วโก้ บรรดา จิ๊กกี๋ เพศตรงข้ามยังอดชื่นชม ยุคนั้นจึงมีขี้ยาเกลื่อนเมือง แม้แต่ในโต๊ะสนุกเกอร์ก็มีควันโขมงมองแทบไม่เห็นตัว ดังนั้นโต๊ะสนุกเกอร์ยุคก่อนจึงเป็นสถานที่น่าขยะแขยง โดยผู้ปกครองกำชับ ลูกหลาน ห้ามเหยียบเด็ดขาด ถึงกับมีการติดสินบน ใครเห็นลูกๆ เข้าโต๊ะสนุกเกอร์มาบอกจะ มีรางวัล ให้กินขนม และต้องยอมรับโต๊ะบิลเลียดสมัยนั้นเป็นแหล่งมั่วสุม แหล่งอบายมุขและแหล่งอาชญากรรมโดยแท้จริง แม้แต่พวกวิ่งราว พวกนักเลง หรือแม้แต่ พวกโจร จะปล้นบ้านไหนก็มาสุมหัวประชุมกันในโต๊ะสนุกเกอร์

แต่พอถึงยุคดิจิตอล สถานภาพโต๊ะสนุกเกอร์เปลี่ยนไป ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ สถานที่แต่ละแห่งโอ่โถง ติดแอร์ ปูพรม ใครเหยียบเข้าไปเหมือน เดินบนกลีบเมฆ เพราะนุ่มเท้า ไม่มีเสียงดังเหมือนยุค เต่าล้านปี เพราะยุคนั้นแต่ละคน ลากเกี๊ยะ เดินเข้าโต๊ะเสียงดังสนั่น เขียนถึงเกี๊ยะ เด็กรุ่นนี้คงไม่รู้จัก เกี๊ยะก็คือรองเท้าแตะเช่นทุกวันนี้ แต่ทำด้วยไม้และมียางในรถยนต์พาดขวาง สำหรับเอานิ้วเท้าสอดเข้าไป แล้วใช้เดิน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่คนจีนมีความชำนาญ แต่ถึงยุคนี้ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว

ใครที่เชื่อคำแนะนำของ หมอประกิต วาทีสาธกกิจ และนำไปปฏิบัติ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่สามารถ เลิกบุหรี่แบบเด็ดขาด ในจำนวนนี้มี ผมรวมอยู่ด้วย เพราะในอดีตก็คือ ขี้ยาเก่า ที่ริสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 10 ขวบเนื่องจากอยู่ในแหล่งอบายมุขก็คือ โต๊ะสนุกเกอร์ และติดบุหรี่ก็เพราะ ไอ้พวกขี้ยา มันชอบใช้ให้เด็กไปต่อบุหรี่ เพราะสมัยนั้น ไฟแช็คไม่มี มีแต่ก้านไม้ขีด ซึ่งก็มีกันไม่กี่คน ดังนั้นหากมีใครสูบบุหรี่ จะมีคนขอจุดต่อเป็นระยะ และเมื่อถูกใช้ให้ต่อบุหรี่บ่อยครั้ง ก็เลยติดบุหรี่โดยอัตโนมัติ

โชคดีที่มาเลิกได้จากการแนะของหมอประกิต และจากการตั้งจิตอฐิธาน หาก เจ้าต๋อง มันสามารถคว้าแชมป์สมัครเล่นโลกในปี 2531 ซึ่งผมคุมไปแข่งขันที่ประเทศออสเตรเลีย จะขอเลิกสูบบุหรี่ หากผิดคำสัญญาขอให้มีอันเป็นไป และเมื่อ เจ้าต๋อง ได้แชมป์โลกบวกกับการกลัวตาย เพราะหลุดคำสัญญาต่อหน้าฟ้าดิน ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ผมไม่เคยแตะบุหรี่อีกเลย

จึงต้องขอบคุณ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่ทำให้พ้นโรคร้าย

เรื่องของพิษร้ายจาก ภัยบุหรี่ อยากขอเตือนเด็กรุ่นหลัง อย่าริ อย่าลอง เพราะหากติดแล้วเลิกยาก และเมื่อสูบบุหรี่เป็น มันจะลุกลามถึงขั้นไปสูบกัญชาหรือ เฮโรอีน ใครติดมักจะเสียผู้เสียคน เพราะหากวันไหนไม่ได้เสพจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ซึ่งเรื่องร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้นกับ คนสนุกเกอร์มานักต่อนัก แม้แต่ ธงชัย ปุณยวีร์ หรือ เป้า ศิษย์ฉ่อย อดีตลูกศิษย์คนสนิท ฉ่อย ซู่ซ่าส์ พ่อของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ก็เคยประสบมาแล้ว กว่าจะเลิกได้ ทรมานเกือบตาย ทุกวันนี้ชีวิตจึงเปลี่ยนไปเป็นผู้เป็นคน เป็นผู้รับผิดชอบครอบครัวลูกเต้าจบปริญญา มีงานทำอย่างดี แถมตัวเองยังประสบความสำเร็จด้วยการเป็น นักกีฬาทีมชาติ ถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจเลิก

วันนี้จะไม่มี ธงชัย ปุณยวีร์ อยู่ในแวดวงสอยคิว

 

ศักดา รัตนสุบรรณ