ส่งใจเชียร์ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย

5 ก.ค. 59

นาน หลายปีที่นิตยสารคิวทองไม่ได้ลงปก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย สาเหตุเป็นเพราะหาฟอร์มไม่เจอ เนื่องจากถอยหลังไปตามวัย เพราะคนที่อายุมาก ความสามารถก็ลดน้อยถอยลงเป็นเรื่องปกติ จะให้เจ๋งและเก่งเหมือน วัยว่าว คงเป็นไปได้ยาก โดยปัจจุบัน ต๋อง อายุปาเข้าไป 46 ปี

หากย้อนอดีตเมื่อ 32 ปีก่อน ช่วงนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย หรือ วัฒนา ภู่โอบอ้อม เพราะเป็นผู้จุดประกายให้วงการสอยคิวไทยดังกระหึ่มไปทั่วเอเชีย จนทำให้หลายชาติจับนักกีฬามาฝึกหัดเล่นสนุกเกอร์ตามคนไทยหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์-มาเลเซีย-ฮ่องกง ล่าสุด จีน หันมาเอาจริงเอาจังและสามารถสร้างนักกีฬาขึ้นมายืนอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก ถึงขนาด ติง จุ้นฮุย เคยผงาดขึ้นเป็นมือหนึ่งโลกมาแล้ว จึงถือว่า จีน ประสบความสำเร็จสูงในกีฬาแขนงนี้

ความดังของ ต๋อง ทำให้อดีตนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เจ้าของหนังสือพิมพ์สยามรัฐถึงกับแต่งกลอนขอเป็นศิษย์ ฉ่อย ซู่ซ่าส์ ผู้ให้กำเนิดโดยมีเนื้อหาดังนี้

 

สักวา นั่งมอง ต๋อง ศิษย์ฉ่อย
แทงสนุ้ก เลิศลอย หาใครสู้
นั่งชมศิษย์ ทำให้คิด ไปถึงครู
อยากจะรู้ ว่าฉ่อย นั้นคือใคร
ทำอะไร อยู่ที่ไหน ใคร่ขอถาม
จะได้ตาม ไปเป็นศิษย์ พิศมัย
ชื่อคึกฤทธิ์ ศิษย์ฉ่อย น้อยเมื่อไร
จงเห็นใจ ตอบสารา มาหน่อยเอย

 

ฉ่อย ซู่ซ่าส์ ผู้ให้กำเนิด ต๋อง แทบไข้ขึ้น เพราะนึกไม่ถึงคนระดับนายกรัฐมนตรีจะขอเป็นศิษย์ จึงต่อกลอนกลับดังนี้

สักวา นั่งมอง ตรองจนดึก
ต้องมานั่ง คิดลึก นึกหดหู่
ท่านคึกฤทธิ์ จะให้ ไปเป็นครู
ทั้งอยากรู้ ว่าฉ่อย นั้นคือใคร
ฉ่อย ซู่ซ่าส์ รู้ข่าว แล้วไข้กลับ
คนระดับ คึกฤทธิ์ พิสมัย
ชีวิตนี้ เกิดมาแล้ว ไม่เสียดาย
แม้ว่าตาย มีคึกฤทธิ์ ศิษย์ฉ่อยเอย

 

ที่นำอดีตความดังของต๋องสมัย 30 กว่าปีมาบอกเล่า เพื่อให้ เด็กรุ่นหลัง ได้เห็นความสำคัญของสนุกเกอร์ ที่ในอดีตเคยถูกปรามาสแบบเสียหาย เป็นเกมของพวกกุ๊ยที่ใช้โต๊ะบิลเลียด มั่วสุม แต่เมื่อสนุกเกอร์ถูกยกเป็นกีฬา ทำให้ ผู้ปกครอง เริ่มเห็นคล้อยและให้ความสำคัญในการสร้างชื่อเสียงสู่วงศ์ตระกูลและประเทศชาติ และบัดนี้ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย กลับมาผงาดในวงการสอยคิวอีกครั้งหลังจากทำการ ผ่าตัดต้อกระจก ทำให้ฝีมือใกล้เคียงกับยุครุ่งโรจน์ จึงขอให้มิตรรัก แฟน 6 รู ตามเชียร์ต่อไป

ต๋อง อาจกลับมาท็อป 16 ก็ได้ ใครจะรู้

 

ศักดา รัตนสุบรรณ