ดีใจ-เสียใจมาพร้อมกัน

ก่อน อื่นต้องดีใจกับ นพพล แสงคำ หรือ หมู ปากน้ำ จอมคิวคนล่าสุดที่หลุดเข้าสู่เมกะสอยคิว ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์เป็นคนที่ 4 หลังจาก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย-ต่าย พิจิตร และ แจ๊ค สระบุรี เคยย่ำมาแล้ว ถึงแม้ หมู จะเสียท่าอดีตแชมป์โลก นีล โรเบิร์ตสัน แต่ก็ไม่เสียหาย กลับเป็นผลดีที่มีโอกาสได้ปะทะกับท็อปโลกเรียกว่า มีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสีย หากแพ้ก็จะถูกจารึกในการได้เล่นกับอดีตแชมป์โลก แต่ในทางกลับกันหากชนะนัดนี้ชื่อของ นักสอยคิวจากเมืองพระสมุทรเจดีย์ก็จะกระฉ่อนไปทั่วโลก เสียดายนิดเดียวที่วันแรกเปิดตัวเดินสู่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ สภาพแวดล้อมกดดันจน หมู ปากน้ำ วางตัวไม่ถูก นอกจากคนดูแน่นตรึม ที่นั่งยังใกล้ผู้แข่งขัน เวลาเล่นผิดพลาดจะได้ยินเสียง แฟนสนุกเกอร์ แสดงอาการไม่สบอารมณ์ บางคนส่งเสียงโห่ไม่พอใจที่เล่นลูกง่ายแล้วพลาด ทำให้การเล่นวันแรกต่ำกว่ามาตรฐาน จนถูกอดีตแชมป์โลกต้อน 8-1 ดีที่ว่าวันหลังมาเก็บ 3 เฟรมทำให้แพ้ 4-10 ถือว่าสอบผ่าน และดีใจไปกว่านั้น อันดับโลกจาก 72 ขยับขึ้นมาท็อป 64 โลกทันที

ผ่านเรื่องดีใจก็ถึงเรื่องเสียใจที่ เดชาวัต พุ่มแจ้ง (แจ๊ค สระบุรี) ที่เคยไปอาละวาดด้วยการโค่น สตีเฟ่น แม็กไกวร์ จอมคิวจากสกอตแลนด์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนเมื่อ 3 ปีก่อน หนนี้ฟอร์มบู่ไปแพ้ แกรม ด็อตต์ ในรอบคัดเลือกรอบที่ 2 อดเข้าครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ ซึ่งจากการพ่ายแพ้นัดนี้ส่งผลให้ แจ๊ค หลุดจากมืออาชีพทันที เนื่องจากคะแนนสะสมไม่เพียงพอที่จะได้เล่นต่อ โดยตกมาลำดับที่ 68 ตลอดฤดูกาลแข่งขันทำได้แค่ 49,275 คะแนน จึงต้องมานับ 1 หากจะกลับไปเล่นอาชีพอีกหน การไม่อยู่ในท็อป 64 จะถูกคัดชื่อออกโดยอัตโนมัติ ซึ่งไม่ใช่แค่นักกีฬาไทย ยังมีดัง ๆ ระดับอดีตแชมป์โลกอย่าง เคน โดเฮอร์ตี้, ไนเจล บอนด์, เจมี โคป ก็อดเล่นอาชีพในฤดูกาลหน้าด้วยเช่นกัน

เมื่อถามถึงการวางแผนกับชีวิตอนาคตจะทำอย่างไร แจ๊ค สระบุรี ทำเหมือนประชดชีวิตด้วยการประกาศ “แขวนคิว”

ใครได้ยินได้ฟังรับประกันต้องใจหาย เพราะการประกาศเลิกเล่นทั้งที่ยังมีฝีมือ ไม่มีใครเขาทำกัน เท่าที่เคยเห็นก็แค่หยุดพักการฟิตซ้อมชั่วคราว หลังจากนั้นก็จะกลับมาจับคิวสู้ต่อไป ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เคยประสบกับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่เคยท้อแท้และอยากวางคิวหลายต่อหลายครั้ง แต่ในที่สุดก็ยังหันมาจับคิวจนทุกวันนี้

การมีฝีมือทางสนุกเกอร์ไม่ใช่ใช้เวลาแค่ปีสองปี แต่ต้องสะสมการฝึกซ้อมมายาวนานจึงจะเก่งจริงพอที่จะสู้กับต่างชาติ ดังนั้นการจะเลิกเล่นในช่วงที่ผิดหวังแค่ครั้งสองครั้ง จึงต้องทบทวนให้ดี จะมีงานชนิดใดที่มีรายได้ดีไปกว่าเล่นสนุกเกอร์

อย่างรายการชิงแชมป์โลกแม้ แจ๊ค สระบุรี จะตกรอบ 80 คน แต่ก็ไม่เหนื่อยฟรี มีรายได้ 344,000 บาท ในขณะที่ หมู ปากน้ำ มีเงินรางวัลให้ 800,000 บาทที่ได้เข้าสู่รอบ 32 คนชิงแชมป์โลก เป็นการพิสูจน์ว่า คนที่มีฝีมือการเล่นสนุกเกอร์สามารถล่าเงินรางวัลได้ปีละนับล้านบาท โดยการแข่งขันแรงกิ้งโลกมีมากกว่า 20 รายการ จึงไม่มีงานใดที่จะทำเงินได้ง่ายกว่าการเล่นสนุกเกอร์ หาก 20 รายการสามารถผ่านเข้ารอบ ก็จะมีรายได้พอกับค่าใช้จ่ายในการเล่นอาชีพโดยไม่เดือดร้อนแต่อย่างใด ดังนั้นการที่ แจ๊ค สระบุรี ประกาศแขวนคิวจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ เขียนมาถึงบรรทัดนี้อยากให้ แจ๊ค สระบุรี ไตร่ตรองและปรึกษาครอบครัวรวมถึง ผู้นับถือ ให้กระจ่างอีกหน จะเล่นหรือเลิกก็อยู่ที่การตัดสินใจ แต่ขอฟันธงไว้ตรงนี้

ไม่มีวันที่ แจ๊ค จะหันหลังให้วงการสอยคิว

ศักดา รัตนสุบรรณ

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 414)