วิถีเซียนสนุกเกอร์ในอดีต
23 พ.ค. 60 |
นักสนุกเกอร์เก่ง ๆ ในยุคเก่าก่อน จะต่างกับนักสนุกเกอร์ในสมัยนี้ แตกต่างทั้งฐานะ ความรู้ การยอมรับในสังคม ที่เห็น ๆ ก็คือ การเล่นสนุกเกอร์ให้เก่งอยู่ในระดับมาตรฐาน ก็สามารถจะยึดเอาเป็นอาชีพได้ แต่สมัยก่อนสนุกเกอร์ยังไม่ถูกจัดหมวดหมู่เข้ามาอยู่ในประเภทของกีฬา มองเป็นการละเล่น แถมกระเดียดไปทางการพนันด้วยซ้ำไป วิถีทางของการเป็นนักสนุกเกอร์ชั้นเซียนในสมัยก่อนโน้น จึงเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยมีเซียนคนใดตั้งใจมาก่อน มันมักบังเอิญ หรือไม่ก็ชีวิตถูกบังคับให้เดินไปตามเส้นทางที่จำกัด นักสนุกเกอร์อาจเป็นบุคคลทั่วไป มีทุกฐานะ มีทุกอาชีพ แต่ไม่ใช่หมกมุ่น หลงใหล จนหัวปักหัวปำในการเล่นสนุกเกอร์อย่างเดียว พวกเขามีงานมีการอื่นทำเป็นประจำ อาจเป็น ข้าราชการ เป็นพนักงาน หรือมีธุรกิจ หรือมีงานส่วนตัว อาทิ พ่อค้า ผู้รับจ้าง เจ้าของกิจการ คนเหล่านี้ หากมีพรสวรรค์ ก็อาจเล่นจนเป็นนักสนุกเกอร์มือดีระดับเซียนได้ แต่หาได้น้อยรายมาก เพราะความจำกัดด้านเวลา ที่จะต้องปลีกตัวมาเล่นสนุกเกอร์ได้ ก็เมื่อว่างเว้นจากการทำงาน หรือกิจการส่วนตัว ไม่เหมือนอีกประเภทหนึ่ง ที่ถือว่า วิถีชีวิตถูกกำหนดให้มาเป็น “เซียนสนุกเกอร์” แน่นอนทีเดียว กว่าจะเก่งขึ้นมาได้ เขาจะต้องมีเวลาฝึกฝนที่ใช้เวลาต่อเนื่องไม่น้อย เซียนเหล่านี้ มักมาจากมาร์คเกอร์ ลูกหลานเจ้าของโต๊ะ คนมีบ้านใกล้โต๊ะ จึงมีเวลาว่างที่จะจับคิวแทงเล่นบ่อย ๆ หรือมีโอกาสได้ดูคนเก่ง ๆ เล่น แล้วจดจำเอามา ส่วนคนอื่น ๆ เมื่อชอบและเลือกที่จะเป็นเซียน ก็ต้องทิ้งงาน ทิ้งเวลาที่จะทำเรื่องอื่น ๆ กลับมาขลุกอยู่ในโต๊ะสนุกเกอร์ทุกวัน และตลอดทั้งวัน เคยเรียนหนังสือ ก็ต้องหนีเรียน และเลิกเรียนไปในที่สุด เคยประกอบธุรกิจใดก็ค่อย ๆ ทิ้งไปหมด เพราะไม่มีเวลาไปดูแล กระทั่งเคยทำงานทำการที่มั่นคง ก็กลายเป็นไม่มั่นคง เพราะ สมาธิความตั้งใจในการทำงานลดลงไป ใจจดใจจ่อในการเล่นสนุกเกอร์ ส่วนใหญ่ ก็เลยกลายมาเป็นเซียนประจำโต๊ะ ไม่ใช่อาชีพ ก็ต้องเป็นอาชีพ เพราะไม่ได้มีรายได้จากการงานอื่น หากฐานะทางบ้านดี ก็มีเงินติดกระเป๋าทุกวัน ไม่ดิ้นรน ไม่เดือดร้อน แต่หากฐานะทางบ้านไม่ดี ก็ต้องสู้กับดวงและฝีมือ ที่วันใดจะได้หรือเสีย นี่เป็นวิถีชีวิตของเซียนสนุกเกอร์ยุคก่อน ดูผิวเผิน และไม่มองเบื้องหลัง เหมือนเป็นชีวิตที่ควรเอาเยี่ยงเอาอย่างสำหรับนักสนุกเกอร์ทั่วไป เพราะยามใดที่เซียนสนุกเกอร์อยู่ในโต๊ะ เขาจะได้รับการนับถือจากผู้เล่นสนุกเกอร์ในที่แห่งนั้นทุกคน ยอมรับในฝีมือ และกลายมาเป็นความนับถือ เซียนสนุกเกอร์แต่ละแห่งนั้น ส่วนใหญ่เจ้าของกิจการสนุกเกอร์จะอุปถัมภ์ จะโดยทางอ้อมหรือทางตรงก็ตาม อย่างเช่น เป็นนายทุนให้เล่น หรือให้หยิบยืมสะตุ้งสตางค์ ด้วยเซียนเหล่านี้ จะช่วยสร้างความคึกคักให้สถานที่นั้นได้ เป็นเสมือนตัวโจ๊กเกอร์ ที่ไม่ใช่หมายถึง ตัวตลก หากหมายถึง ช่วยทำอะไรให้ได้หลายอย่าง เหมือนเป็นโจ๊กในไพ่ผสมสิบ ที่สามารถใช้แทนหมายเลขใดก็ได้ เซียนสนุกเกอร์นอกจากจับคิวลงเล่นแล้ว ยังสามารถทำอะไรให้เป็นปะโยชน์ต่อโต๊ะสนุกเกอร์แห่งนั้นมากมาย อาทิ ทำหน้าที่เป็นแมตซ์เมคเกอร์ได้เลย หากคู่ต่อสู้ตกลงกันไม่ได้จะต่อรองกันอย่างไร เซียนสนุกเกอร์จะถูกถาม หรือไม่ก็เป็นผู้ยื่นคำตัดสิน แล้วก็ยอมรับทั้งสองฝ่ายเป็นการเด็ดขาด การประลองฝีมือกันก็เกิดขึ้น แทนที่จะต่างคนต่างนั่งดู ไม่มีคนกลางประกบคู่ให้ โต๊ะก็ไม่ว่าง เจ้าของกิจการก็ชอบ ทำหน้าที่เป็นกรรมการก็ได้ เวลามีการถกเถียงกันไม่ยุติ เซียนสนุกเกอร์ฟังเรื่องราวแล้ว ก็ใช้ดุลยพินิจและประสบการณ์ชี้ถูกชี้ผิดได้เลย ก็ต้องยอมรับคำตัดสิน หากไม่ยอมรับก็หมายถึงว่า เขาผู้นั้นได้ตัดสินใจที่เลิกเข้ามาเล่นที่แห่งนี้ต่อไปอีก เป็นนักเอ็นเตอร์เทนอีก เป็นมือดีประจำโต๊ะที่จับคิวเล่นกับใคร หรือรับแขกมือเดินสายมาจากที่ใด ผู้คนก็จะคึกคัก ห้อมล้อมดูกันแน่นขนัด เพราะ จะได้ดูลีลา ชั้นเชิง เทคนิค การเล่นของนักสนุกเกอร์ชั้นยอดที่สุดที่นักสนุกเกอร์ที่นั้น เคยเห็นมา อันอาจจะได้จดจำบางช็อตบางทริคเอาไปฝึกฝนได้ โดยเฉพาะเทคนิคการแก้ชิ่ง หรือการแก้สนุ้ก ที่นักเล่นสนุกเกอร์ใหม่ ๆ มักไม่ชำนาญ ถือว่าเป็นจุดอ่อนของแทบทุกคน ในการเล่นสนุกเกอร์ยุคก่อนจะมีความสำคัญมาก เพราะหากแก้สนุ้กผิด ต้องเสียให้คู่ต่อสู้ถึง ๗ แต้ม ซึ่งกว่าจะไล่ตบลูกจนทำคะแนนได้แต่ละทีไม่ใช่ของง่าย แต่กลับมาเสียแต้มในการแก้สนุ้กแต่ละครั้งถึง ๗ แต้ม ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ หรือคล้ายกับ “ขาใหญ่” ประจำโต๊ะ ที่ไม่ใช่นักเลง หากเป็นเหมือนเสาหลักคุ้มครองที่นั่น เมื่อที่ใดมีนักสนุกเกอร์ชั้นดีประจำอยู่ นักสนุกเกอร์เดินสาย ที่ชอบอำพรางฝีมือที่แท้จริงของตนเอง ไปเล่นที่อื่นที่ไม่รู้จักตัวเอง ก็สามารถหาเล่นกับมือที่ต่ำชั้นกว่าได้ และหากินได้ง่ายดาย โดยเทียบชั้นแล้ว เล่นได้สะดวกโยธินกับคนไหนก็ได้ ที่เปลี่ยนหน้ากันลงมา แต่หากมีเซียนมือดีประจำโต๊ะอยู่ นักเดินสายผู้นั้นไม่อาจหาเหยื่อได้คล่องมือ เพราะสายตาของเซียนจะมองออก ว่าซุกซ่อน หรือเก็บออมฝีมือไว้ หาคู่เล่นได้คนสองคน ก็จะต้องถูกเซียนที่นั่นลงมาประกบ เซียนประจำโต๊ะยังเป็นครูบาอาจารย์ให้แก่นักสนุกเกอร์ที่นั่น เป็นครูที่ไม่เคยเห็นหวงวิชา แถมไม่ได้สตางค์ ใครถามวิธีแทงแบบไหนอย่างไร ก็แนะและแสดงให้เห็นหมด เซียนประจำโต๊ะสนุกเกอร์ในสมัยก่อน จะว่าไปแล้วจึงมีประโยชน์คุณูปการ ต่อวงการสนุกเกอร์ที่นั่น ทั้งต่อเจ้าของกิจการ และนักเล่นสนุกเกอร์ แต่ชีวิตตนเองไม่ดีเท่าไหร่ ดังที่ว่า วิถีเซียนสนุกเกอร์ในยุคก่อนนั้นเป็นความบังเอิญ หาใช่เจตนาอยากจะฝังตัวอยู่ยาวในเส้นทางนี้ไม่ ผิดกับนักสนุกเกอร์รุ่นใหม่ในยุคนี้ หากมีพรสวรรค์ มีความตั้งใจ ขยันขันแข็งในการฝึกฝน และรักษาสุขภาพ ไม่สมบุกสมบันอดหลับอดนอน ก็ยึดเป็นอาชีพยาวได้เลย เพราะ ยุคนี้สนุกเกอร์เป็นกีฬา มีการจัดการแข่งขันบ่อย ๆ มีรางวัลให้ก้อนโตพอสมควร ที่จะเลี้ยงครอบครัวได้ นอกจากนั้น หากฝีมือดีจริง ๆ ดูท่าทีมีอนาคตไปไกล ก็อาจมีสปอนเซอร์สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อม ในการเดินทาง และเป็นเงินเดือนประจำเดือน วิถีชีวิตจึงแตกต่างไปจากเซียนสนุกเกอร์รุ่นน้ารุ่นลุงมากมาย
อ๊อด หัวหิน (ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 414) |