เซียนเกี๊ยก หัวหิน

20 ก.ย. 60

นักสนุกเกอร์รุ่นนี้ คงไม่มีใครรู้จักแล้ว เขาเป็นรุ่นเดียวกะ เง็ก อ่างทอง ตึ๊ก โคราช กิ๊ด นครสวรรค์ โก๊ะ อยุธยา ตา ลพบุรี และเขาเคยปะทะฝีมือมาแล้วหมดทุกคน

หากบอกว่า “เกี๊ยก หัวหิน” คือบิดาของนักสนุกเกอร์ฝีมือดีของเมืองไทยในปัจจุบัน “เต็ก หัวหิน” ก็จะมีคนรู้จักรุ่นลูกมากกว่าเซียนสนุกเกอร์รุ่นเก่ายุคโน้น

เซียนเกี๊ยก เป็นนักสนุกเกอร์ระดับเซียนมือหนึ่งของหัวหิน ที่เข้าตำราพอเก่งฉกาจในบ้าน ไม่มีใครจะสู้ด้วยได้แล้ว ก็จำเป็นต้องเดินสายไปหาคู่เล่นต่างถิ่น ในกรุงเทพฯ จะเป็นแหล่งที่นักสนุกเกอร์มือดีประจำอยู่มากมาย และมีสถานที่ให้เลือกเข้าไปเดินสายอยู่ทุกหัวระแหง แต่ละแห่งที่เป็นย่านความเจริญ จะมีโต๊ะสนุกเกอร์อยู่ทั้งสิ้น อาทิ บางลำพู นางเลิ้ง ตรอกจันทร์ บางรัก เสาชิงช้า ศาลเจ้าพ่อเสือ เฉลิมกรุง ปากคลองตลาด เยาวราช ยศเส วังบูรพา สี่พระยา พระโขนง ลาดกระบัง พรานนก วงเวียนใหญ่ ท่าพระ บางพลัด บางยี่ขัน ฯลฯ

ที่เอ่ยชื่อข้างต้น เป็นย่านความเจริญเก่าของกรุงเทพฯ ต่อ ๆ มาก็กระจายไปตามชานเมืองต่าง ๆ เช่น สะพานควาย ประตูน้ำ บางกะปิ สะพานใหม่ และเป็นธรรมดา ถ้ำไหนก็ย่อมมีเสือเฝ้าถ้ำ ฝีมือจะดีระดับไหนก็ต้อนรับแขกแปลกหน้าได้เสมอ

เซียนสนุกเกอร์ต่างจังหวัดพอฝีมืออิ่มตัว ก็จะเข้ามาประจำอยู่ในกรุงเทพฯ

วงการสนุกเกอร์ในกรุงเทพฯ จึงเป็นแหล่งรวมนักสนุกเกอร์ฝีมือดีจากทั่วสารทิศ ปะทะกันไม่ถึงปีก็จะแยกแยะชั้นได้ว่า ที่เรียกว่า “เซียน” นำหน้าชื่อนั้น ถือว่าเป็นนักสนุกเกอร์มือหนึ่งของทุกถิ่นแล้ว พอเจอกันแล้วก็ต้องยอมรับเกรดหรือความต่างของฝีมือลดหลั่นกันไป

จนในระยะหลัง ๆ นักสนุกเกอร์มือดีกันจริง ๆ มักไม่ปะมือกัน เหมือนยอมรับในฝีมือ หรือว่าไม่อยากจะหักกัน มีแต่นักสนุกเกอร์หน้าใหม่ที่เพิ่งเดินสายเข้ากรุงเทพฯ ที่จะต้องวัดฝีมือกะเซียนสนุกเกอร์ที่มาปักหลักอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนแล้ว วิถีเซียนสนุกเกอร์ในกรุงเทพฯ ยุคโน้น เป็นวิถีเช่นนี้

เซียนเกี๊ยก หัวหิน ก็มีวิถีการใช้ชีวิตในวงการสนุกเกอร์ไม่ต่างไปจากนี้ ผิดก็แต่ว่า เขาไม่ได้มีเจตนาโดยตรงที่จะเดินสายมาปักหลักเล่นสนุกเกอร์ ด้วยครอบครัวของเขามีฐานะดี มีกิจการค้าที่มั่นคง ก็อยากสร้างหลักฐานปูพื้นไว้ให้

จึงส่งเสริมให้เขามีอาชีพติดตัวมากกว่าจะเสี่ยงใช้ชีวิตในวงการสนุกเกอร์ไปตลอด เขาถูกส่งไปเรียนซ่อมนาฬิกาในกรุงเทพฯ โดยอยู่ประจำร้านกับญาติ แต่พอว่างเขาก็เข้าไปเยี่ยมเยียนโต๊ะสนุกเกอร์ในย่านใกล้เคียงแถวนั้น

เขาหาคู่เล่นสบาย ๆ เพราะเซียนเกี๊ยกไม่ได้เข้าไปในฐานะนักสนุกเกอร์มือดี แต่คนอื่นมองว่าเป็นเด็กประจำร้านนาฬิกาที่ชอบเล่นสนุกเกอร์ เล่นจนหาคู่เล่นในระดับเดียวกันไม่ได้ หากจะถูกยกชั้นไปเล่นกับเซียนแถวหน้าประจำโต๊ะ เขาก็เลือกที่จะหลบเลี่ยง

ไม่ใช่วัดฝีมือแล้วสู้ไม่ได้ หากเป็นว่า หากเอาชนะมือหนึ่งประจำโต๊ะได้แล้ว เขาจะไปหาคู่เล่นได้ที่ไหนอีก แถมชื่อเสียงก็จะเล็ดรอดออกไป พอคิดจะออกไปเล่นนอกถิ่นบ้าง ก็จะมีคนรู้จัก จับคิวก็เจอแต่คู่ต่อสู้ที่อาจต้องสู้กันเต็มกลืน

แต่วิถีนักสนุกเกอร์มือดีมันก็หนีดวงชะตาไม่พ้น ช่วงหนึ่ง เมื่อใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เข้าออกโต๊ะสนุกเกอร์หลายแห่ง สลับกับงานอดิเรกรับซ่อมนาฬิกา จนเกิดความซ้ำซาก ชีวิตไม่ค่อยจะตื่นเต้นเหมือนตอนเข้ามาใหม่ ๆ

เซียนเกี๊ยก ก็เปลี่ยนเส้นทางที่จำเจ โดยเดินสายอย่างจริงจังบ้าง แต่เลือกเอาสายตะวันออก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี เขาเคยเล่าให้ฟังว่า เขาชอบดูหนังไทย ก็สมัยโน้น แสน สุรศักดิ์ นาท ภูวนัย สมบัติ เมทะนี สรพงษ์ ชาตรี ไพโรจน์ ใจสิงห์ ยอดชาย เมฆสุวรรณ รุจน์ รณภพ เป็นหนังบู๊ ที่มีการพล็อตเรื่องที่นิยมกันสมัยนั้น พระเอกต้องไปจากเมืองหลวง เป็นนายอำเภอ ไม่ก็นายตำรวจ ไปรับตำแหน่งที่บ้านนอก เป็นแดนอิทธิพล พระเอกเหล่านี้จะต้องแอบไปสำรวจดูลาดเลาแถวนั้นก่อน จึงปลอมตัวเป็นคนต่างถิ่นไปมีธุระปะปังที่นั่น จับพลัดจับผลูเจอกะนักเลง หรือเจ้าพ่อประจำถิ่นที่นั่น

เซียนเกี๊ยกว่า เขาเดินสายไปเล่นสนุกเกอร์ในแถบตะวันออก เขาก็ยึดแนวทางแบบพระเอกหนังไทยนี้ ไม่แสดงตัวว่าเป็นนักสนุกเกอร์มือดี หากไปเปิดร้านรับซ่อมนาฬิกา พอว่างก็เข้าโต๊ะสนุกเกอร์ ใครต่อใครก็อยากเล่นด้วย มีสตางค์ และคิดว่า คงไม่ใช่เซียนสนุกเกอร์เดินสายมาแน่นอน

แต่ละแห่ง เซียนเกี๊ยกจึงปักหลักเล่นอยู่ได้เป็นปี จนต้องขึ้นชั้นไปเล่นกับเซียนประจำโต๊ะที่นั่น เช่น เซียนมร อ่างศิลา เซียนดำ ศรีราชา นักสนุกเกอร์คงเคยได้ยินชื่อ แต่ในศรีราชา นักสนุกเกอร์มือหนึ่งจริง ๆ คือ พี่ชายเซียนดำ ซึ่งเซียนเกี๊ยกก็เคยเล่นด้วยกันถึงห้าหกครั้ง

เมื่อเล่นกับมือชั้นนี้แล้ว เท่ากับว่าเซียนเกี๊ยกกลายเป็นเซียนในสายตานักสนุกเกอร์ไปแล้ว พอจับคิวเล่นกะใครก็ลำบากไม่เหมือนเดิมแล้ว เช่นนี้ เขาจึงเดินสายไปจังหวัดอื่น ใหม่ ๆ ใครก็มองเขาว่า มีอาชีพหลักซ่อมนาฬิกา งานอดิเรกคือเล่นสนุกเกอร์ ที่ระยอง เขาก็เคยปะทะกับรินทร์ ระยอง มาหลายครั้ง ที่จันทบุรี เขาก็ปราบนักสนุกเกอร์พื้น ๆ มาตามลำดับขึ้นมา จนไม่มีใครเล่น จำเป็นต้องเล่นกับมือหนึ่งของที่นั่น เซียนเสริฐ จันทบุรี

เซียนเกี๊ยกเป็นนักสนุกเกอร์ประเภทใช้สมอง ไม่ใช่ไฟเตอร์ และยุคนั้นเวลาเล่นได้เสียมักจะเป็นเล่นประเภทเดิมพัน โดยกำหนดกะเกณฑ์ตกลงกันว่า เกมนั้น ๆ มีเดิมพันเท่าไร

เช่นนี้ ผลการแพ้ชนะจึงเป็นการตัดสิน การใช้ชั้นเชิงจึงสำคัญกว่าความแม่นยำ โดยเฉพาะการวางสนุ้ก ซึ่งจะมีผลมาก นอกจากเหมือนเป็นการกันไม่ให้คู่ต่อสู้เปิดเกมรุกแล้ว การแก้สนุ้กผิด เท่ากับต้องเสียแต้มให้คู่ต่อสู้ถึง ๗ แต้ม และเกมหนึ่ง ๆ สามารถจะวางสนุ้กได้หลายครั้ง เมื่อคู่ต่อสู้แก้สนุ้ก ถูกหรือผิด ก็ไม่สามารถคอนโทรลการป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็จะโดนซ้ำต่อ จนอาจถึงปิดเกมนั้นได้เลย

เซียนเกี๊ยก ยังมีฉายาที่นักสนุกเกอร์ในท้องถิ่นเรียกว่า “ม้าเฉียว” ซึ่งเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องสามก๊ก เป็นขุนศึกมือดี ที่นำทัพไปรบที่ใดหากศัตรูได้ยินชื่อ ก็จะหลบเลี่ยงไม่กล้าปะทะด้วย ม้าเฉียวเคยประมือกับโจโฉมาหลายครั้งหลายครา ก็ความที่เซียนเกี๊ยก เป็นนักสนุกเกอร์ไม่มีค่าย ไม่มีสังกัด เล่นกับใครก็ด้วยเงินทุนในกระเป๋าของตัวเอง

เซียนเกี๊ยกเดินสายจนถึงจุดอิ่มตัว เดินสายด้วยวัยหนุ่มที่แสวงหาประสบการณ์ และสิ่งแปลกใหม่ หาใช่อยากโด่งดังมีชื่อในวงการสนุกเกอร์เป็นหลักไม่ ช่วงที่อยู่ในวงการสนุกเกอร์มาพักหนึ่ง ได้ปะทะกับนักสนุกเกอร์ชั้นดีในยุคนั้นมาเกือบหมดแล้ว เง็ก อ่างทอง ตา ลพบุรี เอ็ง บ้านใหม่ เซี๊ยะ เวียงฟ้า งี้ ดำรงรักษ์ บัติ หัวตะเข้ ฮุย ประตูน้ำ ฉ่อย ซู่ซ่าส์ ฯลฯ

เขาก็กลับบ้านไปตั้งหลักทำมาหากิน จนเป็นเจ้าของกิจการร้านส่งน้ำแข็งไปทั่วหัวหิน แต่เขาไม่ได้หันหลังให้วงการสนุกเกอร์ ยังปลีกตัวจากธุรกิจ แวะเข้าโต๊ะสนุกเกอร์ และมีฝีมือที่ใครต่อใครยังยอมรับอยู่ว่า เขาเป็นนักสนุกเกอร์ระดับเซียนแถวหน้าของที่นั่น ไม่กล้าที่จะมีนักสนุกเกอร์รุ่นหลังกล้าวัดรอยเท้า

จะมีก็เพียงคนเดียวคือ “เต็ก หัวหิน” นักสนุกเกอร์ที่ยังโลดแล่นในวงการสนุกเกอร์ในปัจจุบัน

 

วันชัย  เทียมทัด 

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 418)