นีล โรเบิร์ตสัน เฉือน แกรม ด็อตต์ 10 - 8 คว้าแชมป์ที่ 3 ในฤดูกาล รายการเวิลด์กรังปรีซ์ 2020
4 ก.พ. 63 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โดยเมื่อจบเซสชั่นแรก นีล นำอยู่ 5 - 3 เฟรม และเมื่อแข่งในเซสชั่นที่สอง นีลก็ทิ้งห่างไป 9 - 5 เฟรม ก่อนที่ด็อตต์จะตีตื้นขึ้นมาเป็น 9 - 8 เฟรม แต่สุดท้ายก็เป็น นีล โรเบิร์ตสัน ที่คว้าเฟรมสุดท้ายได้ก่อน เอาชนะไปแบบลุ้นระทึก 10 - 8 เฟรม คว้าเงินรางวัล 100,000 ปอนด์ หรือราว 4 ล้านบาทพร้อมถ้วยรางวัล และในแมตช์นี้ นีลยังสามารถทำ เซ็นจูรี่เบรกไปได้ถึง 5 เซ็นจูรี่อีกด้วย นีลได้แชมป์รายการ เวิลด์กรังปรีซ์ เป็นครั้งแรกในชีวิต และนับเป็นแชมป์ที่ 3 ในฤดูกาลนี้แล้ว โดยแชมป์ 2 รายการก่อนหน้านี้คือ แชมเปียนออฟแชมเปียนส์ 2019 ชนะ จัดด์ ทรัมป์ 10 - 9 และ ยูโรเปียนมาสเตอร์ส 2020 ชนะ โจว เยว่หลง 9 - 0 แชมป์รายการนี้นับเป็นรายการที่ 18 ของนีล โรเบิร์ตสัน ทำให้เขาแซง มาร์ค เซลบี้ ขึ้นเป็นลำดับที่ 6 ในทำเนียบแชมป์ ตามหลัง รอนนี่ โอซุลลิแวน (36), สตีเฟ่น เฮนดรี (36), จอห์น ฮิกกินส์ (30), สตีฟ เดวิส (28) และ มาร์ค วิลเลียมส์ (22)
* เวลาที่แสดงเป็นเวลาในอังกฤษ หากต้องการทราบเป็นเวลาในประเทศไทยต้องบวก 7 ชม. ** S1 = เซสชั่นที่ 1, S2 = เซสชั่นที่ 2
L32 = รอบ 32 คน, L16 = รอบ 16 คน, QF = รอบ 8 คน, SF = รอบรองชนะเลิศ, F = รอบชิงชนะเลิศ
9 ก.พ. 2563 - มีกำหนดการแข่งขันดังนี้
8 ก.พ. 2563 - มีกำหนดการแข่งขันดังนี้
7 ก.พ. 2563 - มีกำหนดการแข่งขันดังนี้
6 ก.พ. 2563 - มีกำหนดการแข่งขันดังนี้
5 ก.พ. 2563 - มีกำหนดการแข่งขันดังนี้
4 ก.พ. 2563 - มีกำหนดการแข่งขันดังนี้
3 ก.พ. 2563 - มีกำหนดการแข่งขันดังนี้
|