สมาชิกเรียกร้องให้สมาคมฯ ตั้งสวัสดิการ ให้เพิ่มสมาชิก “สามัญ” ให้มากกว่าปัจจุบัน

สมาชิก ยื่นคำขาดให้สมาคมกีฬาบิลเลียดฯ ก่อตั้งสวัสดิการ เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนในวงการ อาทิ เจ็บป่วยหรือตาย จะได้ไม่เป็นภาระของสังคมโดย อุปนายกฯ ฐาปบุตร ชมเสวี รับไว้พิจารณา ส่วนการเสนอเพิ่มสมาชิกให้มากขึ้นต้องพิจารณาให้ละเอียดอีกที

จากการประชุมใหญ่สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ถนนพระราม 9 ซึ่งมีสมาชิกร่วมประชุมเพียง 10 กว่าคน นอกนั้นเป็นบรรดา สื่อมวลชน และ นักกีฬาในโครงการของ กกท. อีก 10 คน โดยมี 2 ผู้แทนจาก กกท. ร่วมสังเกตการณ์ โดยการประชุมใหญ่หนนี้ไม่มีการเลือกตั้ง นายกฯ ตามที่ครบวาระเนื่องจาก กกท. ทำหนังสือรับรองให้ สมาคมกีฬาบิลเลียดฯ ไปใช้ พ.ร.บ. ฉบับเก่า 2528 และให้เลือกตั้งในปี 2561 โดยในการประชุมมีผู้แทนชมรมกีฬาบิลเลียดจาก การประปาภูมิภาค เรียกร้องให้สมาคมฯ ก่อตั้งสวัสดิการ เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนในวงการสนุกเกอร์ในกรณีเกิดเจ็บป่วยหรือตาย เพราะเท่าที่ผ่านมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ยังไม่เคยมี สวัสดิการของคนในวงการสอยคิว โดยเรื่องนี้นายฐาปบุตร ชมเสวี อุปนายกฝ่ายบริหารได้ตอบข้อข้องใจสมาชิกโดยกล่าวว่า ถึงแม้สมาคมฯ ยังไม่ได้ตั้งสวัสดิการ แต่ก็ได้ช่วยเหลือนักกีฬาทุกรายที่เดือดร้อนยกตัวอย่าง นายธวัช สุจริตธุระการ นักบิลเลียดทีมชาติเป็น “โรควูบ” ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเอกชน เสียค่ารักษาเป็นเงินกว่า 300,000 บาท ซึ่งทางสมาคมฯ เป็นผู้รับผิดชอบ หรืออย่างกรณีผู้ตัดสิน แบน ทุ่งสง เดินทางไปทำหน้าที่ตัดสิน ขากลับรถชนกันปรากฏว่า แบน เสียชีวิต ส่วนคนขับช่างภาพ ปืน คิวทู่ บาดเจ็บสาหัส สมาคมฯ ก็รับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายซึ่งหมดไปเฉียด 500,000 บาท ซึ่งสมาคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และขอขอบคุณที่ สมาชิก เสนอให้ตั้ง สวัสดิการ ซึ่งต้องนำไปหารือคณะกรรมการอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่เสนอให้เพิ่มสมาชิกให้มากขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากสมาชิกมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจึงต้องไตร่ตรอง เพราะหากไปเปิดกว้างรับไม่เลือกจะทำให้เกิดความเสียหาย เพราะสโมสรบางแห่งเปิดให้ใช้บริการจึงไม่เข้าข่ายที่สมาคมฯ จะรับไว้พิจารณา