แปลกแต่จริง รางวัล แม็กซิมั่มเบรก ไม่มีในไทย มืออาชีพยังงง เอฟ กด 147 ที่ระนองได้หมื่นห้า

เอฟ นครนายก ปลดล็อคทำแม็กซิมั่มเบรกสำเร็จ รับรางวัลเบรกสูง 20,000 บาท ส่วน แม็กซิมั่มเบรก เจ้าภาพปลอบใจมอบให้ 15,000 บาท โดยมีการเรียกร้องให้ สมาคมฯ จัดรางวัลแม็กซิมั่มเหมือนทั่วโลก เพราะเป็นหัวใจของเกม ซึ่งอดีต จันทบุรี เคยให้แต้มละ 1,000 บาท และ เอฟ สามารถทำได้เมื่อปี 2551 แต่ไม่ได้ถ่ายทอดทีวี. จึงรับแค่ครึ่งเดียว ในขณะที่ อัลฟี เบอร์เดน มืออาชีพทำไว้ที่สุพรรณบุรีแต่ไม่มีรางวัลถึงกับงง

หลังจาก เทพไชยา อุ่นหนู (เอฟ นครนายก) ทำแม็กซิมั่มเบรกในการแข่งขันกับ นิธิวรรธก์ กาญจนศรี (นัท แปดริ้ว) ในรอบ 16 คนที่จังหวัดระนอง รายการ แสงโสม ระนองคัพเมื่อวันที่ 19 ก.ค. และคว้าแชมป์รายการนี้พร้อมเงินรางวัล 150,000 บาท รางวัลเบรกสูง 20,000 บาท แต่เนื่องจากไม่เคยมีรางวัล แม็กซิมั่มเบรก ทางเจ้าภาพจึงมอบเงินพิเศษให้ 15,000 บาท ซึ่งรายการนี้ เอฟ ทำเงินได้ 185,000 บาท หลังจากเคยพลาดรายการ ยูเค แชมเปี้ยนชิพและรายการชิงแชมป์โลก โดยเฉพาะรายการยูเคทิ้งเงินเฉียด 4 ล้านบาทไปอย่างน่าเสียดาย

จากการทำแม็กซิมั่มเบรกและไม่มีรางวัลพิเศษ ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงเวลาที่สมาคมสอยคิว ต้องให้ความสำคัญสำหรับผู้ที่ทำ แม็กซิมั่ม เนื่องจากเป็นหัวใจของเกมแข่งขันที่จะดึงดูดความเร้าใจจากผู้ชม โดยเมื่อปี 2551 จันทบุรีเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรายการไทยแลนด์แรงกิ้ง เคยประกาศให้ผู้ทำแม็กซิมั่มแต้มละ 1,000 บาท 147 แต้ม เป็นเงิน 147,000 บาทในช่วงถ่ายทอดสด แต่ถ้าไม่มีการถ่ายทอดมอบให้ ครึ่งเดียว ปรากฏว่า เอฟ สามารถทำได้แต่ไม่มีการถ่ายทอดจึงรับไป 73,500 บาท และเมื่อปี 2556 อัลฟี เบอร์เดน มืออาชีพมาเล่นไวลด์การ์ดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ทำแม็กซิมั่มเบรก แต่ไม่มีเงินรางวัล ทำให้มืออาชีพงุนงง โดยกล่าวว่าไม่ว่าเป็นการแข่งขันที่ไหนในโลก จะต้องมีรางวัลแม็กซิมั่มเบรก แต่ที่เมืองไทยไม่มี คงได้แค่เบรกสูงสุด 20,000 บาท

หลังจากที่ เอฟ นครนายก ทำแม็กซิมั่มเบรกกลายเป็นจุดประเด็น สมาคมบิลเลียดฯ ให้เห็นความสำคัญของการทำแม็กซิมั่ม โดยแนะให้ทำเหมือนสนุกเกอร์โลก โดยผู้ทำได้ในการถ่ายทอดสดจะได้รับ 100% ส่วนผู้ที่ทำได้โดยไม่มีการถ่ายทอดรับแค่ครึ่งเดียว ซึ่งจะทำให้นักกีฬามีความกระตือรือร้นและมีความพยายามมากขึ้น และทำให้ผู้ชมได้ลุ้นกับเกมการแข่งขันด้วย ซึ่งเรื่องนี้คาดว่า ทางสมาคมฯ น่าจะนำไปพิจารณาตามเสียงเรียกร้องของผู้ชมและคนในวงการ

 (ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 405)