ดูอย่างมีคุณภาพ

18 ต.ค. 59

ในยุคที่โลกใบนี้ต้องการคำว่า...คอนเทนท์

ยกตัวอย่างง่ายๆ บนจอโทรทัศน์ที่นับวันคนจะยิ่งดูน้อย ผิดกับช่องทีวีที่มีเยอะมากยิ่งขึ้น สารพัดจาน, ชาม, มุ้ง ประดามี

คอนเทนท์ถูกกวาดเข้าทุกช่อง คือกวาดมาแบบไม่ค่อยเลือก ยกตัวอย่างเช่น “ฟุตบอล” ตอนนี้ถ่ายกันแบบอุตลุด มีทุกลีกใหญ่ ลีกรอง บางครั้งลีกระดับสองก็มี

 

 

 

การถ่ายทอดสดกีฬาต่างๆ ทั้งชุดผู้ใหญ่, ชุดเด็ก มีให้ดูกันจนเอียน มันเหมือนกับการยัดเยียด แต่จริงๆ ทุกฝ่ายต้องการที่จะมี “คอนเทนท์” เอาไว้

หากเป็นสมัยก่อนโอกาสน้อยอย่างมาก หางตายังไม่แลจะซื้อมาถ่ายทอดสด!!!

เมื่อทีวีพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ทำให้คนทางบ้านโชคดี ได้เลือกเสพ แต่ถ้าหากมีโอกาสอยากแนะนำให้ออกไปดูกีฬา ยิ่งถ้าหากกีฬาชนิดนั้นๆ มาจัดใกล้บ้าน มาจัดที่จังหวัดที่คุณอยู่

ยิ่งควรไปดูถึงขอบสนาม

แน่นอนที่สุด มารยาทในการดูกีฬาแต่ละประเภทก็แตกต่างกันไป ถ้าอยากแหกปากดังสนั่นหวั่นไหว เดินไปไหนได้สนุกลุกนั่งสบาย อยากจะเมนท์เมาท์แชร์ระหว่างเกม แนะนำให้ไปดู ฟุตบอล, วอลเล่ย์, ตะกร้อ หรือว่า บาสเกตบอล เป็นอาทิ

แต่ถ้าหากอยากดูเกมสุขุมเย็นยะเยือก ไม่สนใจว่าจะหนาวแอร์ แต่คุณต้องอยู่ในอาการสงบ ก็คือ “สนุกเกอร์”

กฎการดูกีฬาชนิดนี้ เชื่อว่าหลายคนคงทราบ แล้วอ่านถึงบรรทัดนี้ก็คงงงเหมือนกันว่า แล้วจะเขียนทำไม เมื่อเด็กอมมือก็แทบรู้ว่า ดูกีฬาสอยคิวต้องประพฤติตัวอย่างไร

ประเด็นที่จะหยิบยกก็คือ โลกปัจจุบัน โลกแห่งดิจิตอล โลกที่อยู่แค่ปลายนิ้วสัมผัส และโลกที่คุณสามารถสื่อสารได้ทุกวินาที ไม่ว่าคุณจะทำอะไร

แต่ที่ไม่ควรก็คือ ระหว่างเดินข้ามถนน, ระหว่างขับรถยนต์, ระหว่างขับมอเตอร์ไซด์ หรือว่าระหว่างที่เค้ากำลังกระทืบกัน

อันนั้นไม่ควรอย่างยิ่ง

ในการเข้าไปชมเกมสอยคิว สิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่งคือ “ปิดเสียงโทรศัพท์” หรือถ้าปิดเสียงไม่เป็นก็แนะนำว่า “ปิดเครื่อง” ไปเลยดีกว่า

เพราะเสียงโทรศัพท์ทำร้ายและทำลายโอกาสของนักกีฬาหลายต่อหลายคนโดยแท้

อาทิ.....เคสดังกล่าว เมื่อปี 2007 ในยุคที่โทรศัพท์มือถือยังไม่เข้าไปสิงในร่างมนุษย์แบบนี้ เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในนัดชิงเหรียญทองสนุกเกอร์ 15 แดง เอเชี่ยน อินดอร์เกมส์ ที่มาเก๊า

 

ในจังหวะที่กำลังจะพิชิตชัยของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม จรดคิวเตรียมตบน้ำเงินที่หลุมกลาง ปรากฏว่าจังหวะกำลังจะส่งคิว มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ ต๋อง ออกคิวพลาด น้ำเงินสะบัดปากหลุม แทนที่จะชนะ 3-0 คว้าเหรียญทองสนุกเกอร์ประวัติศาสตร์

กลายเป็นเปิดโอกาสให้ โมฮัมเหม็ด มุสตาฟา ชีฮับ จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลุกมาแทงน้ำเงินถึงดำไล่ตามมาเป็น 1-2 เฟรม กลายเป็นเทิร์นนิ่งพอยต์จนกลับมาชนะ 3-2 คว้าเหรียญทองไปครองหน้าตาเฉย

ล่าสุดสองรายการติดกันเกิดขึ้นในเมืองไทย นั่นก็คือ สนุกเกอร์แสงโสม 6 แดงชิงแชมป์โลก และสนุกเกอร์แสงโสมจันทบุรี คัพ หรือว่าศึกชิงแชมป์ประเทศไทย

เกิดขึ้นด้วยจังหวะที่ “ชี้เป็นชี้ตาย” เหมือนกัน และเป็นการแทง “ลูกชมพู” เหมือนกันอีกด้วย!

ในศึกนัดชิงแสงโสม 6 แดงโลก ในจังหวะลูกตัดสินแชมป์ “ไอ้ลูกหิน” สจ๊วร์ต บิงแฮม กำลังจะแทงชมพูเพื่อแต้มขาด ปรากฏว่า มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากทิศเหนือของสนาม

กลายเป็นความผิดพลาดเกิดขึ้น และทำให้ ติง จุ้นฮุย ระเบิดเวลาจากจีน ลุกขึ้นมาปล้นชัยเบียดแชมป์ด้วยสกอร์ 8-7 เฟรม

เช่นเดียวกับล่าสุดการแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนน รายการที่ 7 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของซีซั่นนี้ “แสงโสม จันทบุรี คัพ 2016” ที่โรงแรมมณีจันท์ รีสอร์ท จังหวัดจันทบุรี รอบ 16 คนสุดท้าย

ในเกมระหว่าง “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู กับ “ตัวเล็ก สำโรง” ไพฑูรย์ ผลบุญ โมเมนตั้มเกิดขึ้นในเฟรม 5 เอฟ กินแดงได้ก่อนแต่แทงดำง่ายๆ ไม่ลง ตัวเล็ก ออกมาแทง 8 ชุดครึ่ง 65 แต้ม เตรียมแทงชมพูเพื่อแต้มขาด

แต่พอจังหวะกำลังจะแทงมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้เสียสมาธิ ตัวเล็ก แทงไม่ลง ทำให้บนโต๊ะเหลือ 5 แดง เอฟ กินดำ 4 ชุด ชมพู 1 ชุด ก่อนแทงเหลืองถึงดำ ปล้นชนะ 67-65 พลิกนำ 3-2 ก่อนเข้าวิน 4-2

ถือว่าเสียหาย

ดังนั้น กีฬาจะยกระดับได้ต้องไปทั้งองคาพยพ ทั้งนักกีฬา, การจัดการแข่งขัน และผู้ชม ต้องก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน ไม่ใช่เพื่อใคร.....

แต่เพื่อกีฬาที่เรารัก และวงการของพวกเราเอง!!!

บี แหลมสิงห์ มาเยือน

 (ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 407)