นินทาเซียนคิวทอง ฉบับที่ 418

1 ก.ย. 60

ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ผลงานทัพนักกีฬาไทยก็ผิดคาดจากการตั้งเป้าหวังเหรียญทอง 109 เหรียญ ทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะเล่ห์เหลี่ยมของเจ้าภาพ “มาเลเซีย” ที่สร้างวีรกรรมการแข่งขันครั้งนี้เป็น “ซีเกมส์ ซีโกง” ไปโดยปริยาย...

ความน่าไม่อายของมาเลเซีย สร้างความตกต่ำให้กับการแข่งขันระดับอาเซียน ที่นับวันยิ่งจัดยิ่งถอยหลังลงคลองไปทุกที ไม่มีใครเคยคิด ไม่เคยทำเลยว่า จะร่วมใจกัน 11 ชาติ สร้างสถิติใหม่ ๆ เทียบเท่ากับโอลิมปิกเกมส์ หรือ เอเชียนเกมส์...

ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 นี้ “กลโกง” ของมาเลเซียมีหลากหลายรูปแบบอย่างชัดเจน โกงตั้งแต่การจับสลากแบ่งสาย โกงการนับคะแนนที่มองด้วยสายตา โกงแบบไม่ได้เล่ห์ก็ด้วยกล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ “รถรับส่งนักกีฬา” รวมถึง “อาหารการกิน” ที่ทำให้หลายชาติถึงกับส่ายหน้ารับกันไม่ได้...

หัวหน้าคณะนักกีฬา “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ ยอมยกธงขาวตั้งแต่ 4-5 วันแรกของเกมแข่งขันแล้ว ที่เห็น “เหรียญทองไทย” ค่อยขึ้นทีละก้าวเหมือนเต่าเดิน ผิดกับ “มาเลเซีย” ที่วิ่งรวดเร็วเยี่ยง “กระต่าย” ยกธงขาวกับ “เจ้าทองซีเกมส์” ตั้งแต่บัดนั้น...

ความผิดพลาดจากการตั้งเป้า “เหรียญทอง” ของสมาคมกีฬาหลายสมาคม ต้องบอกว่าต่ำกว่ามาตรฐานตัวเองที่จะทำได้อยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นมาเลเซียเลยช่วยส่งเสริมให้ได้เหรียญทองน้อยลงผิดเป้าหมายจริงๆ...

อย่าง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผจก.บอลหญิงน้ำตาตกในกับการเตะนัดสุดท้ายที่ มาเลเซียปล่อยให้เวียดนามยิงข้ามหัวแบบนับลูกได้เสียไป 0-6 ประตู ทำให้นับลูกได้เสีย เวียดนามชนะไป 2 ลูก คว้าเหรียญทองไปครอง...

ยังมี เดินทน มาเลเซีย ก็จะวิ่งมากกว่าเดิน เท้ายกจากพื้นผิดกฎแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร หยิบทองไป จักรยาน ไทยก็โดนพิษโกงชัดเจน ขับปั่นมากับเวียดนาม 2 ประเทศ ไล่กันขึ้นแซงสลับกัน แต่สุดท้าย มาเลเซีย ปั่นยังไงมานำไทยกับเวียดนามแซงเข้าป้ายไป 18 วินาทีเอง ขับมาตั้งไกลมันอยู่ไหนมา ทำตัวเป็นนินจา เล่นเอา “บิ๊กหมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกจักรยานไทยสุดงง...

 

มาถึงกีฬา “คิวสปอร์ต” พัสสพงศ์ พิทักษ์พูลสิน หรือ “เสี่ยยอด คิวทอง” สวมบทผู้จัดการทีม ก่อนเดินทางก็ไปเลี้ยงส่งนักกีฬากันที่ภัตตาคารโฮคิทเช่น พระราม 3 ของอดีตผู้จัดการทีม “เฮียฮง” สุนทร จารุมนต์..

“เฮียฮง” มานั่งเป็นนายกสมาคมนกพิราบแข่งนานาชาติ แต่ใจจริงนั้นยังรักวงการสนุกเกอร์เหนือกว่ากีฬาใด ๆ เพราะกีฬาสนุกเกอร์ทำให้ “เฮียฮง” มาอยู่ชายคาสอยคิวก็เพราะ “คิวทอง” ศักดา รัตนสุบรรณ ผู้ชักนำเข้าวงการ...

การบรรเลงเพลงคิวของทัพนักกีฬาไทย ภายใต้การควบคุมของ “โค้ชต่าย” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ ก็เดินหน้าล่าทองให้กับทัพคิวไทยที่ตั้งไว้ 2 เหรียญทอง แต่ผลงานของนักกีฬาไทยคว้ามาได้ 1 ทอง 2 เงิน 1 ทองแดง โดย 1 เหรียญทองได้มาจากบิลเลียดคู่ เราได้เหรียญทองจาก 2 จอมเก๋า “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล วัย 55 ปี และ “วัช หาดใหญ่” ธวัช สุจริตธุระการ วัย 52 ปี ที่ชิงชนะเลิศกับ อ่อง เท กับ มิน ซิ ทู ตุน จากเมียนมาร์...

ส่วน 2 เหรียญเงิน เราได้มาจากสนุกเกอร์คู่ คู่ของ “ตัวเล็ก สำโรง” ไพฑูรย์ ผลบุญ กับ “อิศ จันท์” อิศรา กะไชยวงษ์ ไปพ่ายต่อ ชาน เคง ควาง และ เท ชุน เคียต จากสิงคโปร์ 1-3 เฟรม และสนุกเกอร์เดี่ยว “ตัวเล็ก สำโรง” แพ้ ท้าวสิทธิเดช หรือ “หนึ่ง มุกดาหาร” ศราวุธ กาญจนานุรักษ์ จาก สปป.ลาว 1-4 เฟรม...

 

อีก 1 เหรียญทองแดง ต้องยอมรับว่าเมียนมาร์จะเป็นคู่แข่งขันสำคัญของทีมไทยต่อไปในอนาคตอย่างชัดเจน เมื่อ “รมย์ สุรินทร์” ทำได้เพียงแค่เหรียญทองแดงเท่านั้น ซึ่งในอนาคตต่อจากนี้ไปเราต้องเร่งสร้างมือบิลเลียดคนใหม่ขึ้นมาแล้ว เพราะทางเมียนมาร์ว่าจ้าง “ไมค์ รัสเซล” อดีตแชมป์บิลเลียดโลกมาเป็นโค้ชสอน เพื่อหวังโค่นทีมไทยโดยเฉพาะ สุดท้ายเขาก็ทำได้สำเร็จ...

เห็นจากไลน์กลุ่มคิวทองสนุกเกอร์ที่มีแอดมินเป็น “คิวทอง” ศักดา รัตนสุบรรณ ต้องยอมรับว่ากลุ่มนี้เนื้อหาข่าวสารวงการสอยคิวเยอะ...

เนื่องจากตอนนี้ทั้งสนุกเกอร์เอเชีย และสมัครเล่นโลก ถูกชาติอาหรับอย่าง “กาตาร์” ควบคุมไว้ IBSF กับทาง WPBSA กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มทะเลาะกันไม่ลงรอยบางเรื่อง โดยเฉพาะโควตาแชมป์เอเชีย กับ สมัครเล่นโลก ที่ทางสมัย “สินธุ พูนศิริวงศ์” เคยคุยเจรจาไว้ กำลังจะไม่เอาแชมป์ทั้ง 2 รายการเข้าเล่นอาชีพโดยอัตโนมัติแล้ว เนื่องจากประธานของเอเชีย และ สมัครเล่นโลก นั่งตีขิมไม่สนใจ ต่อนี้ไปคงอยู่แบบ ตัวใครตัวมัน...

สำหรับคิวทองฉบับเดือนกันยายนพื้นที่ก็หมดแล้ว พบกันในเดือนต่อไป “จุ้ย คิวทอง” ต้องลาทุกท่านไปก่อน...สวัสดี...

 

จุ้ย คิวทอง

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 418 )