รองผู้ว่ากีฬาอาชีพ ณัฐวุฒิ เรืองเวส เห็นใจทีมสอยคิว ได้รางวัลจากเจ้าภาพจิ๊บจ๊อย แต่ชวดเงินล้านจาก กกท.

รองผู้ว่าฯ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพ ณัฐวุฒิ เรืองเวส เห็นใจทีมสอยคิวหลังจากทราบว่าได้รับรางวัลจาก เจ้าภาพ ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียหรือชิงแชมป์โลกเพียงเล็กน้อย โดยไม่ได้รับเงินอัดฉีดจาก กกท. เพราะขัดต่อระเบียบข้อบังคับ รับปากจะแก้ไขเพื่อเป็นกำลังใจแก่นักกีฬา

เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน “คิวทอง” พร้อม 2 นักข่าว จุ้ย คิวทอง และ ดำ ทีสปอร์ต ได้เข้าพบรองผู้ว่าฯ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส โดยสอบถามเรื่องเงินอัดฉีดนักกีฬาที่ไปแข่งขันต่างประเทศ ทั้งประเภทชิงชนะเลิศเอเชีย-ชิงชนะเลิศโลก รวมถึงแชมป์โลกประเภทเยาวชนและซีเนียร์ เนื่องจากมีนักกีฬาโอดครวญมา ไม่ได้รับเงินอัดฉีดจาก กกท. ซึ่งล่าสุดได้แก่ ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย แชมป์โลกหญิง 15 แดง และแชมป์โลกหญิงประเภทคู่ วรัตน์ฐนัน ศุภ์กฤศธเนส (แอม ร้อยครู) และ ศิริภาพร นวนทะคำจัน (ใบพัด ศรีราชา) ซึ่งเพิ่งไปคว้าแชมป์โลกกลับมา แต่ไม่สามารถรับเงินอัดฉีด เนื่องจากทาง เจ้าภาพ ได้ลงเว็บไซต์จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศ ซึ่งเป็นการผิดระเบียบ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ระบุไว้ นักกีฬาสมัครเล่นจะรับเงินรางวัลไม่ได้ ซึ่งทำให้นักกีฬาทั้งชาย-หญิงไม่ได้รับเงินอัดฉีดดังกล่าว โดยเฉพาะประเภทซีเนียร์ ซึ่งเดิมทีปี 2550 มีการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จังหวัดนครราชสีมาปรากฏว่า เต่า หลังสวน เข้าชิงกับ ดาเรน มอร์แกน โดยนักสอยคิวไทยเป็นฝ่ายแพ้และ เต็ก หัวหิน ได้อันดับ 3 ซึ่ง กกท. จ่ายเงินอัดฉีดให้ เต่า หลังสวน 5 แสนบาทและรางวัลรองอันดับ 3 อีก 2 แสนบาท ซึ่งหนนั้นทำให้ นักกีฬา มีความฮึกเหิมและขยันฟิตซ้อมมากขึ้น แต่หลังจาก หยิก สำโรง ได้แชมป์โลกซีเนียร์และเคยรับเงินอัดฉีดครั้งละ 1 ล้านบาท จำนวน 2 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดได้แชมป์โลกแต่ไม่ได้รับอัดฉีดด้วยข้ออ้าง เจ้าภาพ มีการจ่ายรางวัลให้แล้วจึงไม่สามารถรับเงินดังกล่าว

เรื่องนี้รองผู้ว่าฯ ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส เปิดเผยว่าเพิ่งทราบข้อเท็จจริงว่า นักสนุกเกอร์ไม่ได้รับเงินอัดฉีดตามระบบที่ กกท. ตั้งไว้ ซึ่งสาเหตุมาจากติดขัดในเรื่องการเบิกจ่ายเพราะตามระเบียบ นักกีฬาสมัครเล่นจะไม่สามารถรับเงินรางวัลจากการแข่งขัน แต่เมื่อ เจ้าภาพ จัดเงินรางวัลให้ก็ต้องพิจารณาว่า เงินรางวัลที่ได้รับมากน้อยแค่ไหน หากได้รับแค่ 500 หรือ 1,000 เหรียญ ก็เห็นใจนักกีฬา เพราะเงินก้อนใหญ่จาก กกท. ตั้งแต่ระดับ 2 แสน 5 แสนและ 1 ล้าน ไม่สามารถรับได้เพราะถูกยัดเยียดให้รับ รางวัล ในการแข่งขันที่ผ่านมา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส เปิดเผยว่าจะนำเรื่องเสนอบอร์ดเพื่อพิจารณาในการไปแข่งขันชิงชนะเลิศแต่ละรายการ เพื่อขออนุมัติจ่ายเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เพราะนักกีฬาแต่ละประเภทกว่าจะชนะเลิศไม่ใช่ของง่าย ยิ่งเป็นการแข่งขันระดับเอเชีย ระดับโลก ยิ่งน่าสนับสนุน ส่วนเจ้าภาพที่จ่ายเงินรางวัลให้เล็กน้อยจะนำมาพิจารณาด้วย หากจ่ายน้อยกว่าเงินอัดฉีด กกท. ก็ต้องหารือกัน จะสมทบให้ตามจำนวนเงินอัดฉีดหรือไม่อย่างไรต่อไป ซึ่งเรื่องนี้รองผู้ว่าฯ กกท. รับปากจะช่วยแก้ปัญหาให้นักกีฬาสนุกเกอร์เต็มที่

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่419)