“มิงค์ สระบุรี” ผงาดทอง “รมย์” ชวดแชมป์ 4 สมัยซ้อน อินดอร์เกมส์
20 ต.ค. 60 |
ผ่านพ้นไปอีก 1 รายการใหญ่ รายการสำคัญของวงการกีฬาและวงการสอยคิว นั่นคือ การแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์-มาร์เชียลอาร์ตสเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน บทสรุปที่ทำได้ก็คือ 1 เหรียญทองตามเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ ซึ่งก่อนเดินทางไป “บิ๊กอาร์ต” นายฐาปบุตร ชมเสวี ผู้จัดการทีมบิลเลียดสปอร์ตทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ทุกอีเวนต์ถือเป็นงานยากแน่นอน เพราะบิลเลียดสปอร์ตในอินดอร์เกมส์ ก็คือ เอเชียนเกมส์ดี ๆ นี่เอง ทุกชาติที่เข้ามาดวลคิวถือว่าส่งทัพที่แข็งแกร่งมาทั้งนั้น โดยสนุกเกอร์ เราต้องดวลกับ จีน, อินเดีย, ปากีสถาน ขณะที่ บิลเลียด ต้องเจอกับระดับแชมป์โลกอย่าง อินเดีย แต่นักกีฬาของเราก็เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และพร้อมจะสู้จนสุดความสามารถ “อย่างที่ท่านนายกสมาคมฯ คุณสินธุ พูนศิริวงศ์ ได้กำชับมาว่า ขอให้นักกีฬาทุกคนตั้งใจ และมุ่งมั่นในฐานะที่เราเป็นนักกีฬาตัวแทนของประเทศไทย ขอให้สู้เต็มความสามารถ ส่วนผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร จะแพ้หรือว่าจะชนะ ถือเป็นเรื่องของเกมกีฬา ซึ่งเหรียญทองนั้นยากทุกเหรียญ แต่เราตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะทำให้ได้ 1 เหรียญทอง” ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ยังมี นายพัสสพงศ์ พิทักษ์พูลสิน เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมนำทัพนักกีฬาลุยแดน “เซ็นทรัล ออฟ เอเชีย” ประกอบด้วย สนุกเกอร์ชาย/อิศรา กะไชยวงษ์, ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์, ไพฑูรย์ ผลบุญ, สนุกเกอร์หญิง/วรัตน์ฐนัน ศุภ์กฤศธเนส, ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย, บิลเลียด/ประพฤติ ชัยธนสกุล, ธวัช สุจริตธุระการ, พูล ชาย/อำนวยพร โชติพงษ์, ธนัช มรรคมนตรี, พูล หญิง/วุฒิพันธ์ คงคาเขตร, เพ็ญนิภา นาคจุ้ย, แครอมบอล และรัสเซียน ปิรามิด/ยุทธภพ ภาคพจน์, สมพล แซ่ตั้ง, เอกรวี อั๊งคำ, ผู้ฝึกสอน/ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ และสุริยา สุวรรณสิงห์ ก่อนที่ไทยเราจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันบิลเลียดสปอร์ต ประเภทสนุกเกอร์ 6 แดง บุคคลหญิง สองนักสอยคิวสาวไทยโคจรมาพบกับเอง ระหว่าง “แอม ร้อยครู” วรัตน์ฐนัน ศุภ์กฤศธเนส เจ้าของเหรียญทองเมื่อครั้งที่แล้ว ปะทะคมคิวกับนักแทงรุ่นน้อง “มิงค์ สระบุรี” ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย ดาวโรจน์ วัย 18 ปี ที่เพิ่งทำสถิติโลกครองแชมป์เยาวชนโลกรุ่น 18 ปี และรุ่น 21 ปี เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้น ในการดวลคิวสายบน “มิงค์ สระบุรี” หลังจากได้บายในรอบแรก ได้มาเล่นรอบ 8 คน ก็ปราบ ฟลอริซ่า อันดาล จากฟิลิปปินส์ 4-2 เฟรม จากนั้นในรอบตัดเชือก ก็คว่ำ หวัน คา ไค จากฮ่องกง 4-1 เฟรม ทำให้เข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ขณะที่สายล่าง “แอม ร้อยครู” วรัตน์ฐนัน ศุภ์กฤศธเนส เจ้าของเหรียญทองเมื่อครั้งที่แล้ว ลงเล่นในรอบแรก ไล่ทิ่ม ชอย ฮเย-มิน จากเกาหลีใต้ สบาย ๆ 4-0 ก่อนจะมาเชือด วิดญ่า พิลไล วิสวานาธาน จากอินเดีย 4-1 เฟรม ทะลุเข้ารอบรองฯ มาเจอกับคู่ชิงเมื่อปีก่อนคือ อึ้ง อองยี เต็ง 1 และแชมป์โลกจากฮ่องกง ก่อน แอม จะออกคิวสุดคมเอาชนะไปได้ 4-2 เฟรมเข้าไปป้องกันแชมป์ทำศึกสายเลือดกับ มิงค์ การดวลคิวหนนี้ แทงเบียดกันในสองเฟรมแรก แต่ มิงค์ มาเก็บในช่วงท้ายได้ทั้งสองเฟรมออกนำ 2-0 ก่อนจะเข้าเบรก 22 แต้มขึ้นแท่น 3-0 จากนั้นในเฟรมที่ 4 ทั้งคู่เข้าเบรกได้คนละ 33 แต้ม ต้องตัดสินที่ดำสุดท้ายและเป็น มิงค์ ที่ตบลงไป ทำให้ มิงค์ สระบุรี เอาชนะไปได้ขาดลอยเหลือเชื่อ 4-0 เฟรม สกอร์ 31-22, 32-30, 39-02 และ 40-33 ทำให้ มิงค์ สระบุรี คว้าเหรียญทองในระดับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับเอเชียได้เป็นครั้งแรก ในการลงแข่งขันครั้งแรก พร้อมกับเป็นเหรียญทองแรกและเหรียญเดียวของทัพสอยคิวไทยในครั้งนี้อีกด้วย เนื่องจาก “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล ทะลุเข้าชิงฯ ป้องกันเหรียญทองบิลเลียดเดี่ยว เป็นสมัยที่ 4 หลังจากรอบตัดเชือกทิ่ม ตรัน เล อันห์ ตวน ของเวียดนาม 3-1 เฟรม แต่พลาดท่าได้เหรียญเงิน เมื่อพ่ายให้กับ เซาราฟ โคธารี่ จากอินเดีย 1-3 เฟรม ชวดเป็นมนุษย์ประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองอินดอร์เกมส์ 4 สมัยติดไปอย่างน่าเสียดาย แต่การทำไว้ 3 สมัยก็ถือว่ามากที่สุดของนักกีฬาไทยตลอดกาลแล้ว สู้ต่อไป....คิวไทยแลนด์
บี แหลมสิงห์ (ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 419) สรุปเหรียญทีมบิลเลียดไทย เอเชียนอินดอร์เกมส์ 20171 เหรียญทอง สนุกเกอร์ 6 แดงหญิงเดี่ยว 2 เหรียญเงิน สนุกเกอร์ 6 แดงหญิงเดี่ยว และ บิลเลียดชายเดี่ยว 2 เหรียญทองแดง พูล 9 ลูกชายเดี่ยว และ บิลเลียดชายเดี่ยว
|