ต๋อง เปิดใจหากสังขารไปไม่ไหว อาสาเทรนเด็กใหม่ มั่นใจคนไทยสามารถสู้กับทั่วโลกได้ ให้ดูตัวอย่างจีน
4 ก.ค. 61 |
ต๋อง เปิดใจหากสังขารไปไม่ไหว อาสาเทรนเด็กใหม่ มั่นใจคนไทยสามารถสู้กับทั่วโลกได้ ให้ดูตัวอย่างจีนต๋อง ศิษย์ฉ่อย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว สยามทีวี หากสังขารไปไม่ไหวก็ต้องเบนเข็มหันไปส่งเสริมเด็กใหม่ให้ขึ้นมาเป็นตัวแทน มั่นใจคนไทยสามารถสู้กับชาวโลกได้โดยเฉพาะ จีน หากได้รัฐบาลหนุนเต็มที่ คนไทย จะไม่แพ้ใครในโลก การเล่นสนุกเกอร์หากไม่ได้เล่นอาชีพก็เล่นเฉพาะแรงกิ้งไทยโดยจะลงคัดเลือกทุกรายการ อดีต “ไทยทอร์นาโด” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ผู้จุดประกายให้วงการสนุกเกอร์ไทยและเอเชียโด่งดัง เปิดใจกับรายการ ทีวีของสยามสปอร์ต เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าอายุไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มีปัญหากับการเล่นสนุกเกอร์ชัดเจน เพราะนอกจากจะมีปัญหาด้านสายตายังทำให้ความฟิตลดน้อยถอยลง แม้จะมีการฝึกซ้อมประจำแต่หากแข่งกันนานหลายชั่วโมงจะล้าภายหลัง เนื่องจากปัจจุบันอายุปาเข้าไป 48 ปี ความคล่องตัวก็เริ่มลดน้อยลง โดยเฉพาะการเล่นสนุกเกอร์จะมีปัญหากับ ลูกแม่น ลูกไกล ต้องยอมรับความจริง คนที่อายุขึ้นเลข 4 ความแม่นยำหายไปไม่น้อยกว่า 30% ไม่ว่าจะเป็น รอนนี่ โอซุลลิแวน, จอห์น ฮิกกินส์, สจ๊วร์ต บิงแฮม แม้แต่เบอร์หนึ่งโลก มาร์ค เซลบี้ ที่อายุไม่ถึง 40 แต่ลูกไกลเริ่มหดหายไป เมื่อถูกถามว่าหากสังขารไปไม่ไหวจะดำเนินชีวิตอย่างไร เรื่องนี้ต๋องกล่าวว่า ตนเองเตรียมงานส่วนตัวไว้แล้ว โดยลงทุนกับเพื่อน ๆ ผลิตปุ๋ย และหากมีเวลาก็อยากจะช่วย “เฮียฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ เฟ้นหาเด็กใหม่เสริมเป็นทีมชาติ เพราะทุกวันนี้น่าห่วงมากสำหรับ เยาวชน ไม่มีใครโดดเด่นแม้แต่รายเดียว ทางด้านทีมชาติก็ต้องอาศัยตัวเก่า ๆ อย่าง อิศ จันท์, นุ้ก จันท์, นุ้ก สากล, ไฟว์ นครนายก, ตัวเล็ก สำโรง, หนู ดาวดึงส์ เพราะไม่มีใครส่อแววว่าเด่นขึ้นมา และต้องขอขอบคุณ เฮียฮง ที่ใส่ชื่อเป็นคณะบอร์ดสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ ในตำแหน่ง ประชาสัมพันธ์ โดยตัวเองจะพูดคุยกับประธานพัฒนาเทคนิคเพื่อขอเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาคัดเลือกนักกีฬา เพราะเห็นว่ามีดาวรุ่งจากภูธรหลายคน หากนำมาเข้า อคาเดมี่ ฟิตซ้อมจริงจัง เชื่อว่าจะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต รัชพล ภู่โอบอ้อม หรือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ยังกล่าวอีกว่า น่าเสียดายที่องค์กรของรัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับวงการสอยคิวมากนัก ไม่เหมือนกับจีนที่ รัฐบาล ลงมาเล่นด้วย โดยสนับสนุนให้จัดรายการแรงกิ้งโลกแบบไม่อั้น พร้อมทั้งให้สปอนเซอร์สนับสนุนเต็มที่ จึงทำให้จีนมีนักกีฬาระดับน้อง ๆ มืออาชีพมากมาย ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับ จีน มีนักกีฬาเข้าแข่งอาชีพไม่แพ้อังกฤษ, สกอตแลนด์ และในภายหน้าจีนจะมีนักกีฬาระดับโลกมากกว่าต้นตำรับอังกฤษอย่างแน่นอน หากรัฐบาลไทยช่วยสนับสนุนเหมือนจีน เด็กไทย มีศักยภาพไม่แพ้ชนชาติใดในโลก ซึ่งการมี นายสุนทร จารุมนต์ เป็นนายกสมาคมฯ เชื่อว่าอีกไม่ช้าเราจะได้เห็นรายการระดับโลกกลับมาแข่งขันในเมืองไทยอีกครั้งเพราะ เฮียฮง มีเพื่อนมากและรู้จักผู้ใหญ่ระดับบิ๊กมาก การใช้งบประมาณจัดแรงกิ้งโลก 50-60 ล้านไม่ใช่ปัญหาสำหรับ นายกสอยคิวคนปัจจุบัน |