ป้อมยาม หมู่โฮม - ลูกหนังอาบยาพิษ

ลูกหนังอาบยาพิษ

ปิดเทศกาลฟุตบอลโลกที่ซัดกันยาวเป็นเดือน

แฟนบอลหลายคนแฮปปี้ แฟนบอลหลายคนป่านนี้ยัง “ตามบัฟฟาโล่” ยังหาฝั่งไม่เจอ

นี่บอลพรีเมียร์ลีก บอลอังกฤษจะเปิดอีกแล้ว

คนวงการสอยคิวบ่นกันเป็นหมีกินผึ้ง ช่วงเทศกาลบอลโลก โดยเฉพาะรอบแรก เล่นเอานักสอยคิวหายไปจากโต๊ะ เพราะทุกคนจากปกติเป็นนัก “แทงสนุ้ก”

อีท่าไหนไม่รู้คิดไป “แทงสโบ”

ตอนที่ ฝรั่งเศส ชูถ้วยแชมป์ เจ้าของกิจการหลายคนถอนหายใจโล่ง จะได้คนกลับมาแทงสนุ้กกันอีกครั้ง แต่คนที่คิดพลิกผันกลับหายใจแรงกว่าเจ้าของโต๊ะ

เพราะหมดกันไปเยอะ

บอลเจ้ากรรมนี้หนา เค้าก็เตะกันตามปกติ แต่หลายคนนี่แหละผิดปกติ ไปฝากอนาคตไว้กับแข้งขาคนอื่น สู้แทงสนุ้กเองดีกว่า ยังไงก็ตายด้วยมือตัวเอง

จะไปโทษฟุตบอลก็คงไม่ได้

เตะอยู่ตั้งไกล แถวเมืองไทยทำไมตายกันเกลื่อน!!!

โอ....เอเชียนเกมส์

เดือนสิงหาคมนี้เป็นเดือนที่แฟนกีฬาชาวไทยจะได้ตื่นเต้นกันอีกครั้ง

กับการแข่งขันกีฬาแห่งชาวเอเชียครั้งที่ 18 นั่นคือ “เอเชียนเกมส์”

จะมีเหตุการณ์จาก “เอเชียนเกมส์” เป็น “เอเชียนโกง” หรือเปล่าต้องรอดู

ปีนี้ไปแข่งขันที่อินโดนีเซีย ดินแดนที่เรียกว่า “อิเหนา” ต้องดูว่าเมื่อได้เป็น “เจ้าภาพ”

พวกพี่เค้าจะ “เจ้าเล่ห์” ตามสโลแกนของพวกเขาอีกหรือไม่

หลายคนบ่นเสียดาย ทั้งนักแข่ง และนักข่าว เพราะไม่มีเกมส์ชาวเราอย่าง “บิลเลียดสปอร์ต” ปล่อยให้ต้องหงอยเหงาไปอีกครา หลังจากเป็นกีฬาในเอเชียนเกมส์ที่ว่ากันว่า อายุสั้นที่สุด

เกิดในปี 1998 แต่ปิดท้ายได้แค่ปี 2010 มีลมหายใจเพียงแค่ 4 สมัย แต่นับปีแล้วไม่ใช่ 16 แต่อายุแค่ 12 ปีเท่านั้น

ลองไปอ่านคอลัมน์ในเล่มนี้ จะเห็นได้ชัดว่าเกิดอะไรกันขึ้นในครั้งนั้น เพราะคอลัมนิสต์ประจำอย่าง “บี แหลมสิงห์” ไปทำข่าวในเหตุการณ์นั้น แกเล่ายังกะแอบอยู่ใต้โต๊ะห้องประชุม

อย่างว่า ดันให้ “คนไม่มีเสียง” ไปทำหน้าที่ “ออกเสียง”

เหมือนกับที่ “คิวทอง” เคยเขียนเอาไว้เมื่อ 4 ปีก่อนว่า คนบางคน “มีปาก” ก็เหมือนกับ “มีตูด”

มันพูดบ่ได้!!!

ฟิตเปรี๊ยะ

รับไม้ต่อจาก “บิ๊กสิน” ทำให้งานใหญ่มาอยู่ในการถือบังเหียนของ “บิ๊กฮง” ตอนนี้ฟิตกันทั้งสมาคมฯ

ฟิตจนกางเกงเด็กใส่ไม่ได้

เพราะตอนนี้มีสองเกมสำคัญรออยู่ข้างหน้า และเป็นการสตาร์ทด้วย “6 แดง” ทั้งสองรายการ

หนึ่งคือ ชิงแชมป์ประเทศไทย ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ 1-5 สิงหาคม

อีกหนึ่งคือ ชิงแชมป์โลก ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว 3-8 กันยายนนี้

ทั้งสองงานนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะถือเป็น “งานโชว์” ภายใต้ยุคใหม่ของผู้ชายชื่อ “สุนทร จารุมนต์”

ก่อนอื่นประเดิมไปแล้ว นั่นก็คือ การแถลงข่าวชิงแชมป์ 6 แดงประเทศไทย ที่โฮคิทเช่น ถิ่นทำเลทองย่าน พระราม 3 ที่อยู่มายาวนานนับสิบปี

อย่างว่า นี่เป็นงานแรกทำเอา “เฮียฮง” หรือ “บิ๊กฮง” ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือเดินดูแลเทคแคร์ไปทุกโต๊ะ หยิบของมาวางโน่นนี่นั่นเหมือนเดิม ขนาดป้ายชื่อยังมาช่วยทำเอง

ว่าแล้วใครว่าง ๆ ก็อย่าลืม แวะเวียนมาอุดหนุนร้านแกกันได้ แกประกาศไว้แล้วว่า ลดแน่นอน 20 เปอร์เซ็นต์

แต่ไม่ต้องโทรมาหาเฮียนะ

เพราะถ้าโทรมาเดี๋ยวใจดี กินฟรีทุกโต๊ะ ฮ่า!!!!

6 แดงชิงแชมป์ไทย

คิว 6 แดงที่จะดวลคิวต้นเดือนนี้ บนห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์ มีอยู่ 2 กลุ่ม เมื่อเห็นตัวผู้เล่นแล้วน่าจับตามองอย่างมาก

เล็งไปที่กลุ่ม เอช ถือว่าน่าดูทุกคู่ และคาดว่าคนดูต้องถูกใจ

กระบี่มือไฟฟ้าและมือเก๋าตกเกล็ด รวมตัวกันอยู่ที่นี่ครบทุกหมู่เหล่า

มีทั้งรุ่นเดอะ อย่าง “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล เมื่อก่อนคือ “ก้มเป็นลง” ส่วนเดี๋ยวนี้ให้ไปถามแกกันเอง

มีนักบู๊สู้ทุกมืออย่าง “ไฟว์ นครนายก” บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล ไอ้รถถังมหากาฬหั่นนรก

มีจอมคิวหน้าหล่อ “แจ็ค เชียงใหม่” สุพจน์ แสนหล้า ที่หายไปนาน กลับสู่สังเวียนอีกครั้ง

มีคนสู้ชีวิต “ตัวเล็ก สำโรง” ไพฑูรย์ ผลบุญ นักแทงขวัญใจเจ้าหนี้ และยี่ปั๊วะ

เชียร์กันให้สนุก ลุกนั่งก็สบาย แค่เห็นการแทงไปบิดตัวไปของ ตัวเล็ก ก็คุ้มแล้ว!!!!

อีกกลุ่มที่ดูแล้วน่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน นั่นคือ กลุ่ม เอฟ ที่มี “แมน นครปฐม”, “โดม ศิษย์อิฐ”, “ต่าย พิจิตร” และ “สอง วัดพุทธ”

มีการเกี่ยวดองหนองยุ่งกันมาก โดยเฉพาะ 3 ท่านแรก

แมน นครปฐม เป็นศิษย์ของ ต่าย พิจิตร ขณะที่ โดม ศิษย์อิฐ เป็นลูกศิษย์ของ อิฐ ศิษย์ต่าย ซึ่งเป็นศิษย์ของ ต่าย พิจิตร อีกรอบนึง!!!

เท่ากับว่า อาจารย์ต่าย รุ่นใหญ่ไฟกะพริบบ้าง ไม่กะพริบบ้าง จะได้เจอทั้งลูกศิษย์โดยตรง และลูกศิษย์ของลูกศิษย์อีกทีนึง

ตอนจับสลากแอบเห็น อาจารย์ต่าย เกาหัวแกรก

ดูแล้วแกน่าจะปวดหัว และนัว ๆ ดีแท้น้อ...........

(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 429)