ธรรมดาโลกไม่จำ
2 พ.ย. 61 |
รอนนี่ โอซุลลิแวน ชื่อนี้ยังคง “ขายได้” อยู่เสมอ โดยเฉพาะในการแข่งขันรายการล่าสุดที่เพิ่งจบไป ถือว่า “ครบเครื่องต้มยำ” อย่างที่สุดอีกครั้ง เท่าที่คทาชายอย่างเขานั้น จะทำได้ เริ่มต้นหลังจากจบรอบแรก ด้วยการระเบิดอารมณ์ความอินดี้ ด้วยการต่อว่าสถานที่แข่งขันสนุกเกอร์รายการ อิงลิช โอเพ่น หรือ The 2018 BetVictor English Open ว่า สถานที่ห่วยแตกสุด ๆ ซี่งเป็นความผิดของสมาคมสอยคิวโลก K2 Leisure Centre ในเมืองครอว์ลี่ย์ ประเทศอังกฤษ คือเจ้าภาพครั้งนี้ หลังจากชนะ เคิร์ท มาฟลิน 4-1 รอนนี่ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ‘All I can smell is urine!’ หรือได้กลิ่นปัสสาวะ ระหว่างแข่งขัน แม้กระทั่งตอนให้สัมภาษณ์ “มันเหลือเชื่อมากกับสถานที่แข่งขัน มันชัดเจนว่า สมาคมฯ ใช้งบไม่ถูกต้องกับการเลือกสถานที่แห่งนี้ ที่สายไฟระโยงระยาง และไม่มีความปลอดภัยกับนักกีฬาเอาซะเลย แถมยังมีกลิ่นห้องน้ำและกลิ่นปัสสาวะตลอดเวลา” คำพูดของเขาร้อนแรงจนเป็นประเด็นใหญ่ ร้อนไปถึง สมาคมสอยคิวโลก ต้องออกมาชี้แจงแถลงไขเพราะไม่เข้าใจ คนอื่นก็ไม่เห็นจะเหม็นอย่างที่ รอนนี่ เหม็น ส่วนฝ่ายจัดฯ ก็ต้องโร่ออกมาขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ อิงลิช โอเพ่น จัดเป็นปีที่ 3 โดยจัดที่ K2 Leisure Centre ในเมืองครอว์ลี่ย์ ประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านี้เคยจัดหนแรกปี 2016 ที่แมนเชสเตอร์ อีเวนท์ซิตี้ และปีกลายจัดที่บาร์นสลี่ย์ เมโทรโดม จากนั้นในรอบต่อมา การเล่นของเขาร้อนแรงจนเป็นประเด็นใหญ่ รอนนี่ แทง 147 แต้ม เท่ากับที่ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู ทำได้เมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมง การเล่นของเขาสยบทุกสิ่งอย่าง แม้กระทั่งเรื่องฉาวโฉ่เพราะเหม็นฉี่ไปจนหมดสิ้น กระทั่งในรอบ 8 คน การเล่นของเขาร้อนแรงจนเป็นประเด็นใหญ่...อีกที!!! ได้เกิดช็อตสะท้านวงการสอยคิว ในเกมที่ รอนนี่ โอซุลลิแวน ดวลกับ หลัว หงห้าว ในเฟรมที่ 6 ซึ่ง รอนนี่ ตามหลังอยู่ 2-3 และต้องการที่จะได้เฟรมเพื่อตีเสมอ ในระหว่างรอนนี่กำลังออกคิวใช้เรสต์เช็ดแดง ปรากฏว่า เรตส์ไปโดนลูกแดงอีกลูก แต่กรรมการไม่ได้บอกว่า ฟาวล์ รวมถึงตัวของ รอนนี่ ก่อนที่ลงท้าย รอนนี่ จะชนะไป 5-3 เฟรม และเข้ารอบตัดเชือก ก่อนแพ้ มาร์ค เดวิส ไปขาดลอย โดยที่หลายคนบอกว่า เป็นไปได้ที่ รอนนี่ ลงโทษตัวเองจากรอบที่แล้ว
“ผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น” รอนนี่ กล่าว “ในตอนที่แข่งผมไม่รู้เลย กระทั่งมาถึงการดูเทปวิดีโอในสตูดิโอ ถ้าฟาวล์คือฟาวล์ ผมจะต้องบอกผู้ตัดสินอยู่แล้ว ทำให้ผมรู้สึกเสียใจมาก ๆ กับเหตุการณ์นี้” รอนนี่ กล่าวต่อไปอีกว่า “มันเป็นจังหวะที่บางครั้งทุกคนกำลังมองอยู่ที่ลูกขาว ถ้าหากคนในโซเชียลมีเดียจะว่าอย่างไรนั้น ผมคงไม่ว่าอะไร เพราะถ้าหากใครดูผมตลอดอาชีพการเล่นก็คือ ผมจะเน้นเรื่องกติกามาก ๆ ฟาวล์ก็คือฟาวล์ ซึ่งจะไปโทษผู้ตัดสินก็ไม่ได้ เพราะผมเชื่อว่า เธอก็มองลูกขาวเหมือนกับที่ผมมองอยู่” ส่วน หลัว กล่าวว่า ผมไม่เห็นช็อตนั้น ที่สำคัญการแข่งขันก็จบไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เกมจบคนมักจะไม่จบ ซึ่งตรงกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันของคนยุคมิลเลนเนียล (Millennials) ที่เป็นประเภท Active Reader คือเห็นแล้วอยากมีส่วนร่วม ตรงนี้คือ เมนท์, เมาท์, แชร์ อย่างที่เราเห็นตามหน้าฟีด รอนนี่ ถูกทั้งถล่มทั้งปลอบ สุดท้ายด้วยการเป็น “ซูเปอร์สตาร์ตัวพ่อ” ทำให้ทุกอย่างค่อย ๆ จางหายไป เพราะไม่มีใครเชื่อว่า รอนนี่ ตั้งใจที่จะทำแบบนั้น พิจารณาจากการเล่นของ รอนนี่ มาตลอดทั้งชีวิตของเขา ก็ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในเรื่องนี้ แต่หลายคนก็คิดว่า มันจะจริงหรือเปล่าที่ รอนนี่ อาจต้องการชนะมากจนเกินไป จนลืมจุดนี้ไปชั่วขณะ หลายคนกลัว ไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเกรงว่า เดี๋ยวถ้า รอนนี่ เกิดน้อยใจแล้วไม่กลับมาแทงสนุกเกอร์ วงการก็จะเดือดร้อน บางคนขุดเรื่อง สตีเฟ่น เฮนดรี้ ที่ฟาวล์แต่ไม่ยอมบอกระหว่างดวลตัดเชือกชิงแชมป์โลก กับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เมื่อคราครั้งโน้นมาใส่กันอีกหลายชุด นานาจิตตังแล้วแต่จะคิด ตรงนี้อยู่ที่ “จิตวิญญาณ” และ “วิจารณญาณ” ของทุกฝ่าย ทุกคนมีสิทธิ์ ทุกคนคิดได้ กับยุคที่คนกำลังคิดว่า เราด่าใครก็ได้ทั้งที่ไม่รู้จักกัน เราวิจารณ์ใครก็ได้เพราะเป็นสิทธิ์ โดยที่หลายคนไม่รู้ว่า การด่ากันทางออนไลน์นี่ผิดติดคุกได้เหมือนกัน ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก ที่สำคัญไม่มีภาพช้ามาตัดสิน และทั้งกรรมการกับคู่แข่งก็ไม่ติดใจเอาความ ยิ่งเป็น รอนนี่ ด้วยแล้ว หลายคนยิ่ง “ปักใจ” ว่า เขาเป็นประเภท “โตไปไม่โกง” แน่นอน พร้อมกับเป็นคนประเภท ธรรมดาโลกไม่จำ ดังนั้นกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องไปตัดสินว่า ใครถูกใครผิด แต่อนาคตต้องมาหาวิธีคิดค้นกันต่อ เพราะการฟาวล์ในวงการสอยคิวนั้นมันเร็วมาก ๆ บางขณะมันนิดเดียวจนตาแทบจะมองไม่ทัน แน่นอน เราจะปล่อยให้ “ไม่ทัน” อีกคงไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยของวงการ เพื่อความมั่นคงของวงการต่อไป
(ตีพิมพ์ในนิตยสารคิวทอง ฉบับที่ 432) |